ฤดูร้อนมาเยือนเมื่อไหร่ ‘มะม่วง’ ก็กลายเป็นพระเอกอีกครั้ง มากไปกว่านั้นก็คือ มะม่วงที่เติบโตในเขตร้อนชื้นอย่างไทยเรายังเต็มไปด้วยความหลากหลายของสายพันธุ์ เรียกว่าก้าวเท้าเข้าตลาดก็ไม่วายพบมะม่วงอย่างน้อย 2-3 ชนิดรอให้เลือกหยิบลงตะกร้า ยังไม่นับสายพันธุ์พื้นบ้านที่ยืนต้นเรียงรายตั้งแต่เหนือจรดใต้นั่นด้วย เรียกว่ามะม่วงเป็นหนึ่งในผลไม้ประจำถิ่นไม่น้อยหน้ากว่ากล้วยหรือมะละกอ แถมยังแปรเป็นอาหารทั้งคาวหวานตำรับพื้นบ้านได้อย่างน่าสนใจ
หนึ่งในเมนูที่ขาดไม่ได้เมื่อหน้าร้อนย่างกรายก็คือ ‘ข้าวเหนียวมะม่วง’ ของหวานในสำรับไทยที่ดังไกลไปทั่วโลก
ทว่าเมื่อทั้งข้าวและมะม่วงเป็นวัตถุดิบประจำบ้านเมืองเรา ข้าวเหนียวมะม่วงจึงไม่เคยมีแบบเดียว ยิ่งใครเติบโตมากับแม่ครัวพ่อครัวรุ่นคุณปู่คุณย่า การกินข้าวสุกกับบรรดาผลไม้ ไม่ว่าจะแตงโม มะขาม หรือมะม่วงนั้นอาจเรียกได้ว่าเป็นเรื่องสามัญธรรมดา และเช่นกัน ในพื้นที่อันอุดมด้วยข้าวและมะม่วงอย่างภาคอีสาน จึงมีตำรับข้าวเหนียวมะม่วงพื้นถิ่นที่เหล่าลูกอีสานได้ชิมเมื่อไหร่ก็ราวกับได้ระลึกถึงวันวาน
ความพิเศษของ ‘ข้าวเหนียวมะม่วงตำรับอีสาน’ อยู่ตรงความเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยรายละเอียด ไล่เรียงตั้งแต่สายพันธุ์มะม่วงที่เลือกใช้ที่ต้องออกแรงตามหาตามท้องไร่ปลายนา ด้วยเป็นมะม่วงป่าลูกจิ๋วที่เรียกกันว่า ‘มะม่วงกะล่อน’ หรือชาวอีสานบางถิ่นเรียก ‘มะม่วงกะสอ’หรือ ‘หมากม่วงน้อย’ ที่ลักษณะหน้าตาคล้ายมะม่วงเบาของทางภาคใต้ ทว่าเมล็ดใหญ่และเนื้อน้อยกว่า เมื่อสุกได้ที่กลิ่นจะหอมคล้ายมะปรางผสมลูกจัน เป็นกลิ่นรสเอกลักษณ์ที่ซ่อนตัวอยู่ตามชายทุ่งแดนอีสาน
ยิ่งเมื่อคว้านเนื้อมะม่วงสุกมาคลุกกับข้าวเหนียวหุงร้อน โดยเฉพาะช่วงต้นฤดูเก็บเกี่ยวที่ข้าวแต่ละยุ้งจะเหนียวนุ่มเป็นพิเศษ เท่านั้นก็ได้ของหวานแสนอร่อยไว้แจกจ่ายกันในครัวเรือน
พูดได้ว่า ข้าวเหนียวมะม่วงตำรับอีสานนี้ เป็นของว่างสายสุขภาพด้วยปราศจากทั้งน้ำตาลและไขมัน
หรือหากอยากเสริมวิตามินก็อาจโรยหน้าด้วยงาขาวหรือถั่วเหลืองซีกเพิ่มสารอาหาร และยิ่งยกระดับให้ข้าวเหนียวมะม่วงตำรับเก่าดูเข้าสมัยมากขึ้นด้วย
อ่านมาถึงบรรทัดนี้ หากยังนึกภาพไม่ออก ต่อไปนี้เรามีสูตรข้าวเหนียวมะม่วงตำรับลูกอีสานขนานแท้มานำเสนอ เผื่อเป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับมื้อของหวานช่วงปลายฤดูร้อนที่กำลังเดินทางมาถึง…
มะม่วงบ่ายโบก** (ข้าวเหนียวมะม่วงตำรับอีสาน)
วัตถุดิบสำคัญ
1. มะม่วงกะล่อนสุก
2. ข้าวเหนียวหุงสุก
3. เกลือเล็กน้อย
4. งาขาวคั่ว หรือถั่วเขียวซีกคั่ว
ขั้นตอนการทำ
1. ล้างมะม่วงกะล่อนทั้งเปลือกด้วยเบกกิ้งโซดา เพื่อขจัดคราบสกปรกและยางจนเกลี้ยง จากนั้นผึ่งจนแห้งสนิท จึงใช้มีดคว้านเมล็ดและเนื้อใส่ถ้วยเตรียมไว้
2. นำข้าวเหนียวหุงสุกร้อนๆ ลงคลุกกับเนื้อและเมล็ดมะม่วงกะล่อนจนทั่ว จากนั้นเติมเกลือปลายช้อนชาเพื่อตัดรส ก่อนตักข้าวเหนียวคลุกเนื้อมะม่วงใส่กลับลงในเปลืองมะม่วงกะล่อน
โรยด้วยงาหรือถั่วเขียวซีกคั่วปิดท้าย พร้อมจัดเสิร์ฟ
** มะม่วงบ่ายโบก เป็นภาษาถิ่นอีสาน หมายถึง กิริยาการคลุกเคล้า และปาดข้าวเหนียวใส่กลับลงในผลมะม่วง
ภาพถ่าย: อรุณวตรี รัตนธารี