ชีสจากถั่วดูจะเป็นอะไรที่อยู่ห่างไกลจากความคิดเราเหลือเกิน อาจเพราะเราแทบไม่เคยได้ยินใครพูดถึง แถมพอมารู้ว่าเป็นอาหารวีแกนด้วยแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าเมนูจากพืชผักจะมีรสชาติเข้มข้นสู้ชีสเยิ้มๆ ที่รู้จักได้อย่างไร แต่อุ๋ม-ทักษิณา เนื่องศรี หนึ่งในเจ้าของร้าน Barefood Bangkok ซึ่งใช้เวลานับ 4 ปีศึกษาเรื่องการทำชีสวีแกนอย่างจริงจัง ยืนยันกับเราว่า ชีสจากถั่วก็สามารถเอาไปทำอาหารอร่อยๆ และยังดีไม่แพ้ชีสนมทั่วไปเลย

อยากแบ่งปันสิ่งที่ (กิน) ดี

ด้วยความที่ไม่ค่อยชอบกระบวนการผลิตอาหารตามสายพานของโรงงานนัก เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เชฟเอโด-เอโดอาร์โด โบนาวอลต้า ชาวอิตาเลียน สามีของอุ๋มและผู้ร่วมเปิดร้าน Barefood Bangkok จึงเดินทางไปเข้าคอร์สทำอาหารแบบ plant-based ถึง Living Light Culinary Institute ที่แคลิฟอร์เนีย กระทั่งจบคอร์ส ทั้งคู่ได้มีโอกาสไป road trip ด้วยกัน จนไปเจอกับร้าน Vtopia ซึ่งขายชีสและอาหารวีแกนโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นไอเดียให้พวกเขากลับมาลองทำชีสวีแกนที่ไทย

“เราเชื่อว่าการปรับวิธีการกินก็เหมือนการเปลี่ยนสุขภาพให้ดีขึ้น ดังนั้นแม้พวกเราทั้งสองคนจะไม่ได้เป็นวีแกน แต่เรื่องอาหารการกินเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ควรใส่ใจ เราเลยเลือกที่จะหันมาจริงจังกับการทำอาหารเพื่อสุขภาพ

“อีกอย่าง เราอยากต่อยอดสิ่งที่แฟนเรียนมาด้วย เพราะในเมื่อเราต้องการเป็นผู้ผลิตแล้ว เราก็ควรแบ่งปันสิ่งดีๆ เหล่านี้ให้คนอื่น ถึงเราจะไม่ได้เป็นวีแกนแต่เรามองว่าใครๆ ก็ทำอาหารวีแกนได้ เพราะอาหารพวกนี้มีพื้นฐานอยู่ที่การใส่ใจเรื่องสุขภาพ หลังจากนั้นเราเลยลองเอาชีสที่ทำมาขายแบบง่ายๆ ในเฟซบุ๊กก่อน” อุ๋มเล่าให้เราฟัง

แม้อาจไม่ได้มีเทคนิคการขายที่แพรวพราวเหมือนอย่างร้านออนไลน์อื่นๆ แต่ Barefood Bangkok ก็ถือเป็นร้านแรกๆ ที่เริ่มพูดถึงการทำวีแกนชีสอย่างจริงจัง พวกเขาเริ่มต้อนรับชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ จำนวนหนึ่ง จนทำให้อุ๋มตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่หน้าบ้านให้เป็นร้านอาหารเล็กๆ สำหรับขายชีสสดควบคู่ไปกับเมนูเพื่อสุขภาพแนวเมดิเตอร์เรเนียนที่เชฟเอโดถนัด

ถึงตอนนี้อุ๋มจะขยับขยายร้านออกมาจากบ้านของพวกเขาแล้ว แต่เอกลักษณ์ของความเป็นบ้านที่อบอุ่นก็ยังคงอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่การตกแต่งร้านที่ให้ความรู้สึกสบายๆ เหมือนได้นั่งกินข้าวที่บ้านเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงอาหารแบบโฮมเมดทุกจานที่พวกเขาเลือกนำมาเสิร์ฟให้เราอย่างตั้งใจด้วย

ชีสถั่วที่ถึงไม่ใช่วีแกนก็กินอร่อย

อุ๋มเล่าให้เราฟังว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับชีสวีแกนมากนัก เพราะเรามักโตมากับชีสจากโรงงานซึ่งมีกระบวนการผลิตรวดเร็ว ผ่านการดัดแปลงส่วนผสมจนไม่ใช่นมร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วจบลงในตู้แช่ที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ แตกต่างจากการทำชีสสดของทางร้าน ซึ่งมีกระบวนการเหมือนการทำชีสนมจากฟาร์มแต่เปลี่ยนวัตถุดิบเป็นมะม่วงหิมพานต์ โดยใช้เวลาหมักประมาณ 3-4 อาทิตย์ จนถั่วจับตัวเป็นก้อน

“เชฟเอโดคิดสูตรขึ้นมาเอง โดยเอาวิธีการจากห้องเรียนในแคลิฟอร์เนียมาดัดแปลง แล้วศึกษาเพิ่มเติมเองในอินเทอร์เน็ต เราก็เป็นคนทดลองเอง ชิมเอง จนได้ชีสที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งเราคิดว่ามันโอเคที่สุดถึงได้นำมาขาย ตัวชีสของเราจะมีความเข้มข้นกว่าชีสวีแกนที่อื่น รสชาติจะติดเค็มนิดๆ เปรี้ยวตามหน่อยๆ แล้วพอเป็นพืชมันก็จะย่อยง่าย กินได้ทั้งคนกินวีแกน คนทั่วไป หรือแม้กระทั่งคนที่แพ้นม” 

อุ๋มยังบอกกับเราด้วยว่าชีสวีแกนยังสามารถเอาไปทำอาหารได้หลายเมนู จะนำมาขูดเป็นฝอยโรยหน้าแครกเกอร์ก็ได้ เป็นซอสจิ้มกินกับผักก็ดี หรือจะนำไปปรุงทั้งอาหารไทย อาหารเทศก็อร่อย และแม้จะไม่ใช่นักกินสายวีแกน แต่หากสนใจเรื่องของการกินดีและอาหารสุขภาพ ชีสวีแกนก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าจะลองหยิบมาปรุงอาหารดูสักครั้ง 

คัดสรรด้วยใจ เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด

นอกจากชีสวีแกนขึ้นชื่อแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูหลากหลายที่ใช้ชีสวีแกนเป็นส่วนประกอบ ทั้งพาสต้าทำเอง ลาซานญ่า เคลสลัดและแพทตี้ (ไส้เบอร์เกอร์) จากผักซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ในต่างประเทศแต่ค่อนข้างหากินยากในไทยให้เราได้ไปลองชิมกัน

โดยสิ่งหนึ่งที่ Barefood Bangkok ให้ความสำคัญไม่แพ้กระบวนการที่ใส่ใจ คือการเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ดังนั้นอาหารทุกจากจึงปรุงด้วยน้ำมันมะกอกทั้งหมด และพวกเขายังพยายามลดรอยเท้าคาร์บอนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยการใช้วัตถุดิบออร์แกนิกหรือวัตถุดิบที่ปลูกในประเทศเท่านั้น 

“เราคิดเสมอว่าทุกอย่างที่เราขาย เราต้องกินเองได้ เราเลยพยายามหาแหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพในราคาย่อมเยา ซึ่งความจริงมันก็ไม่ได้ถูกมากหรอก แต่เราจะเน้นไม่ให้เสียความสดของอาหาร เพราะเรื่องสุขภาพและคุณภาพจากวัตถุดิบก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย” 

เพราะแบบนี้นอกจากกิจการร้านอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว อุ๋มและเชฟเอโดยังยินดีเป็นที่ปรึกษาด้านการทำเมนูอาหาร plant-based และพวกเขายังเปิดเวิร์กช็อปเล็กๆ แต่จริงจังในร้านให้กับคนที่สนใจอยากจะรู้วิธีการทำชีสถั่ว ลาซานญ่าแบบวีแกน หรือเมนูอื่นๆ ที่จะเรียงรายมาให้เราจองคิวเข้าไปศึกษา เพื่อต่อยอดให้ ผู้สนใจเรื่องการกินดีเข้ามาเรียนรู้แล้วกลับไปลองทำเมนูดีๆ แบบนี้ต่อเองที่บ้านได้ ถ้าอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปติดตามได้ในเฟซบุ๊กเลย

Bangkok Vegan Nutcheese by Barefood Bangkok
26 ซอยสุขุมวิท 61 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
วัน-เวลา: อังคาร-เสาร์ 11.30-21.00 น.
โทรศัพท์: 098-924-6995
www.facebook.com/BarefoodBangkok