หลังจากที่ป้าจายได้ขุดต้นมะตูมหรือมะปินไปฝากให้เพื่อนบ้านช่วยปลูกในสวนของเขา เพื่อหวังผลเป็นอาหารผึ้งอาหารเราตามที่ป้าเล่าไว้ในตอนสองแล้วนะคะ อีกไม่กี่วันต่อมาเพื่อนก็ไหวตัวทันและกลับมาปรึกษาป้าใหม่ว่า มะตูมเป็นไม้ป่าและไม้ใหญ่อายุยืนหลายปี กว่าจะโตและให้ดอกผลได้ ผึ้งที่เลี้ยงไว้หลายรังคงจะรอไม่ไหว น่าจะต้องปลูกต้นอะไรเพิ่มเติมอีกบ้าง

ป้าได้ตอบเพื่อนไปว่า ลิ้นจี่ ลำไย มะม่วง ในแถบนี้ ก็มีปะเลอะปะเต๋อะ (ภาษาเหนือ แปลว่า มากมาย เยอะแยะ) ถ้านับรวมต้นมะพร้าวน้ำหอมอีกกว่าสามร้อยต้นที่เพื่อนปลูกไว้ในสวนแล้ว ก็เชื่อว่า ผึ้งเลี้ยงจำนวนเกือบสิบรังของเพื่อนคงไม่อดอยากหิวโหยเป็นแน่ แต่เพื่อนป้าก็ยังยืนยันขอปลูกดอกไม้ที่มีน้ำหวานดีๆ สีดอกสวยๆ เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับสวนของเขาอีกด้วย เพราะเขาคิดว่า ผึ้งที่สวนคงบินมาหาดอกไม้แถวบ้านดอกป่าหญ้าปายของป้าจายแน่ เพราะป้าปลูกดอกไม้ไว้มากมายหลายชนิด และบ้านเราอยู่ห่างกันประมาณสองกิโลเมตร อยู่ในรัศมีการบินของผึ้งซึ่งสามารถไปได้ไกลถึงสี่กิโลเมตร

ป้าจึงได้ทีเริ่มเล่าให้เพื่อนฟังว่า

ที่เราเห็นผึ้งน้อยโบยบินไปมาบินหาอาหาร เราจะรู้หรือไม่ว่า อาหารของผึ้งนั้นมี 2 อย่าง

คือ น้ำหวานจากดอกไม้เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำผึ้ง ที่เราเรียกว่า honey ด้วยน้ำย่อยภายในตัวผึ้ง และ เรณูหรือละอองเกสรเพศผู้ของดอกไม้จะเป็นแหล่งโปรตีน เกลือแร่ กับวิตามินต่างๆ สำหรับเลี้ยงตัวอ่อน ที่เราเรียกกันว่า bee pollen รวมทั้งผึ้งก็ต้องการน้ำสะอาดเพื่อผสมให้น้ำผึ้งเจือจางในช่วงอากาศแห้ง และน้ำจะช่วยปรับอากาศให้ภายในรังเย็นสบาย

หลังจากที่ได้ยินดังนั้น เพื่อนก็ออกปากทันทีว่า จะไปกว้านซื้อต้นไม้ดอกสวยต่างๆ ที่ร้านขายต้นไม้สองร้านในเวียงใต้มาให้หมด ถ้ายังไม่พอสำหรับสวนพื้นที่กว่าสามสิบไร่ของเขา คงต้องไปขนจากกาดคำเที่ยงที่เชียงใหม่ สักหนึ่งรถบรรทุกจะดีไหม ทำเอาป้าหวั่นไหวว่า ถ้าเหวี่ยงแหเหมาซื้อต้นดอกไม้จนร้านต้นไม้สะเทือน อาจไม่ได้ตามที่ผึ้งต้องการ

เรามาพิจารณาดูให้ถ้วนถี่กันดีกว่า ว่าดอกไม้ที่เป็นอาหารโปรดของผึ้งมีกี่ชนิดกัน

กลุ่มแรก ดอกไม้จากพืชหลักที่มีน้ำหวานมาก : ดอกจากพืชสวน เช่น มะตูม ลำไย ลิ้นจี่ สาบเสือ มะกอกน้ำ งิ้ว นุ่น ทองกวาว ตีนตุ๊กแก ส้ม มะนาว และดอกไม้ป่าชนิดต่างๆ น้ำผึ้งป่าหอมหวานมานานแล้วอย่างไม่น่าสงสัยเลย ต้นไม้ป่าในพื้นที่ของเราก็มีมากมาย หากเราจะช่วยกันรักษาป่า ไม่เผาทำลายทุกปลายฤดูร้อนต้นฤดูฝนอย่างที่เป็นกันอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งนอกจากจะทำลายพืชพรรณต่างๆ แล้ว หมอกควันยังทำให้ผึ้ง แมลงและสัตว์ป่าต่างๆ รวมทั้งผู้คน ต้องประสบปัญหาถึงขั้นเป็นอันตรายต่อทางเดินหายใจและชีวิตอีกด้วย

กลุ่มที่สอง ดอกไม้ที่มีน้ำหวานพอประมาณ : เช่น กระทกรก แพงพวยน้ำ งา แคฝรั่ง พวงแสด ฉำฉาหรือจามจุรี มะม่วง พะยอม พิกุล รักป่า ถั่วเหลือง สตรอว์เบอร์รี ยูคาลิปตัส ยาง กาแฟ มะเกี๋ยง ฝ้าย พุทรา กล้วย มะพร้าว หญ้างวงช้าง แตงโม แตงกวา พวงชมพู แตงไทย โคกกระสุน บานชื่น กระเพราขาว โหระพา ตีนเป็ด ไคร้น้ำ ยางพารา ฯลฯ อีกมากมาย

กลุ่มที่สาม ดอกไม้ที่มีเกสรมาก : ฟักทอง แตงต่างๆ บัว โสน ไมยราพยักษ์ ไมยราพ ข้าวโพด ข้าว กระถินยักษ์ กระถิน มะพร้าว ชมพู่ มะม่วง ผักโขม ถั่วต่างๆ ขี้เหล็กอเมริกัน อ้อย พง อ้อ แขม กระถินณรงค์ ทานตะวัน ทานตะวันป่า หางนกยูง ผกากรอง ตะแบก เสลา อินทนิล ดาวกระจาย ฮอลิฮ็อก เป็นต้น

จากรายชื่อดอกไม้ที่เป็นอาหารโปรดของผึ้ง ผีเสื้อและแมลงต่างๆ จะเห็นได้ว่า ล้วนแต่เป็นพืชพื้นถิ่น หาง่าย ปลูกง่าย

ปลูกกันทั่วๆ ไป ต้นไม้บางชนิดเป็นแค่วัชพืชไร้ค่าตามเรือกสวนไร่นา แต่สำหรับผึ้งและแมลงต่างๆ แล้ว พืชเหล่านั้นเป็นแหล่งอาหารชั้นดีทีเดียว จึงไม่จำเป็นต้องสรรหาพรรณไม้แปลกๆ ที่มักมีราคาแพงและดูแลยาก

พืชพรรณหลายชนิดให้น้ำหวาน หรือให้ละอองเกสร อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่บางชนิดให้ทั้งสองอย่าง และจะเป็นอาหารชั้นดีสำหรับคนและสัตว์ ที่สำคัญควรปราศจากสารเคมีที่ใช้กำจัดศัตรูพืชด้วย ซึ่งเห็นได้จากการที่มีผึ้งฝูงใหญ่หลายฝูง บินมาเยี่ยมและทำรังอาศัยอยู่ในบริเวณบ้านและสวนของเรากับของเพื่อนบ้านบริเวณเดียวกัน เพราะพื้นที่ของเรางดสารเคมีในการกำจัดศัตรูพืชและการฆ่าหญ้า รวมทั้งงดการเผาแม้เศษใบไม้แห้งโดยสิ้นเชิงนั่นเอง

หากเราริจะเป็นนักเลี้ยงผึ้งเพื่อเก็บน้ำหวานขาย ควรปลูกต้นไม้ที่ผลิตน้ำหวานได้มาก เพื่อสร้างแหล่งอาหารที่สมบูรณ์สำหรับผึ้งเป็นอันดับแรก แต่ถ้าจะเลี้ยงเล่นๆ เพื่อเก็บน้ำหวานสำหรับบริโภคในครัวเรือนแบบเพื่อนชาวสวนของป้าแล้ว เราสามารถเลือกปลูกต้นไม้ตามรายชื่อที่กล่าวมานี้

แต่ไม่ว่า เราจะพากันปลูกต้นไม้ดอกไม้โดยหวังผลเป็นจุดขายการท่องเที่ยว หรือปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจตัดดอกขาย หรือจะปลูกเพื่อการศึกษาและพัฒนาสายพันธุ์ หรือจะปลูกเพียงแค่บำรุงบำเรอความสุขจากการได้เห็น ได้กลิ่น และได้กินซึ่งเริ่มนิยมกันมากขึ้น เราควรคิดปลูกดอกไม้อย่างปลอดภัย ไร้สารเคมีหรือใช้น้อยที่สุด เพราะทั้งในอากาศ ในน้ำ และในดิน ยังมีสิ่งมีชีวิตอีกหลายเผ่าพันธุ์ที่ล้วนต้องพึ่งพาพืชเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิตอยู่อย่างต่อเนื่องมาช้านาน นับตั้งแต่การกำเนิดของดาวดวงนี้

ฉะนั้น การปลูกดอกไม้แม้เพียงต้นเดียวของเราจึงเป็นการส่งต่อของขวัญจากดาวโลก สู่สัตว์โลกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และถ้าเราร่วมมือรวมใจลงแรงปลูกต้นไม้ดอกไม้พร้อมๆ กันสักคนละต้นในวันนี้ แรงนี้จะสะเทือนไปทั้งดวงดาวโลกได้อย่างแน่นอน

ขอบคุณ: ข้อมูลดอกไม้ที่เป็นอาหารผึ้ง จากบ้านสมุนไพร-odd
ภาพประกอบ: Paperis