กินอาหารที่ใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น กินพืชผักเป็นหลัก กินให้เหลือทิ้งน้อยที่สุด 

ถ้าติ๊กถูกทั้งสามข้อนี้แปลว่าการกินกู้โลกของเรามาถูกทาง แต่สำหรับคนที่ยังมีใจรักให้อาหารจานด่วนอย่างพิซซ่าล่ะ จะมีทางไหนบ้างที่ทำให้การกินพิซซ่าเป็นอาหารที่ทั้งดีต่อสุขภาพเราและสุขภาพโลก 

โยเซฟิน อักนาส (Josefin Agnas) วิศวกรสาววัย 27 ก็เคยสงสัยเช่นนั้น และด้วยความรักในอาหารเธอจึงอยากหาความชอบธรรมให้พิซซ่าที่หลายคนให้ภาพจำว่าเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดแถมยังเป็นภัยต่อสุขภาพ จับเอามาแปลงโฉมใหม่ภายใต้โปรเจกต์ Fridays Pizza ที่จะส่งอุปกรณ์พร้อมวัตถุดิบสดใหม่ไปยังลูกค้าทุกวันศุกร์ แต่ก่อนจะไปถึงโปรเจกต์นี้ โยเซฟินเล่าว่าทุกอย่างเริ่มต้นจากโปรเจกต์ใหญ่ในชื่อ Swedish Food Challenge ที่เธอตั้งขึ้นมาท้าทายตัวเองในปีที่ผ่านมา 

Swedish Food Challenge สู่หนทางการสร้างนิยามใหม่ของคำว่า ‘กินดี’

“อาหารที่ดีในความคิดของเรา คืออาหารที่ดีทั้งต่อมนุษย์ สัตว์ ธรรมชาติ และโลกเรา รวมทั้งเป็นอาหารที่ปลอดจากสารปรุงแต่ง สร้างผลกระทบน้อยต่อภูมิอากาศโลก แล้วก็ควรเป็นอาหารที่ผลิตได้ภายในประเทศของเราเอง” โยเซฟินเล่า รวมถึงเสริมข้อมูลว่า อาหารที่ผลิตได้ในสวีเดนนั้นมาจากผู้ผลิตและเกษตรกรที่มีความรับผิดชอบต่อระบบนิเวศ อาหารเหล่านี้เลยสร้างผลกระทบต่อภูมิอากาศน้อยเมื่อเทียบกับกระบวนการผลิตของประเทศอื่น น้ำสะอาดกับอากาศหนาวยังช่วยให้เกษตรกรไม่ต้องพึ่งยาฆ่าแมลง เพราะศัตรูพืชมักจะตายตามธรรมชาติในหน้าหนาว 

ทว่า ข้อมูลเชิงสถิติอาจดึงให้ถอยทัพกลับสักเล็กน้อย เพราะผลผลิตทางการเกษตรที่สวีเดนผลิตเพื่อเลี้ยงดูประชากรราว 10 ล้านคนในประเทศนั้นคำนวณได้เพียง 50% ซึ่งหมายความว่าสวีเดนยังต้องพึ่งพาการนำเข้าอาหารถึง 50% แต่โยเซฟินก็ยังยืนยันว่า ถ้าอาหารในประเทศอยู่ในระดับคุณภาพดีขนาดนี้ ทำไมเราถึงไม่สนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่นให้มากกว่านี้ล่ะ ยิ่งไปกว่านั้น หากเราเพิ่มอัตราการบริโภคอาหารในท้องถิ่นให้มากขึ้น งานวิจัยและการศึกษาต่างๆ เกี่ยวกับการหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ หรือเพิ่มอัตราการผลิตก็จะทยอยเพิ่มขึ้นตามตัว 

เพื่อที่จะพิสูจน์ความคิดนี้ โยเซฟินเลยขอท้าทายตัวเองด้วยการตั้งโปรเจกต์ Swedish Food Challenge เมื่อเดือนมิถุนายน 2018 โดยตั้งเงื่อนไขกับตัวเองว่า ตลอดระยะเวลา 1 เดือนนี้ เธอจะบริโภคแต่อาหารที่ใช้วัตถุดิบจากสวีเดนเท่านั้น

หากเป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น ไข่ ชีส นม บรรดาไก่และวัวเหล่านี้ก็จะต้องกินอาหารที่ผลิตในสวีเดนเช่นกัน เช่น ไม่ใช้ข้าวโพดหรือรำข้าวที่นำเข้าจากต่างประเทศ อาหารทะเลที่เลือกกินในโปรเจกต์นี้ต้องมาจากทางเรือเท่านั้น ส่วนอาหารแปรรูป เช่น แป้งสาลีหรือซอสต่างๆ ก็ต้องผ่านกระบวนการแปรรูปในประเทศเท่านั้น และกฏข้อสุดท้ายคือ บรรจุภัณฑ์ต่างๆ ก็ต้องผ่านการหีบห่อในสวีเดนเช่นกัน

ภายใต้เงื่อนไขยิบย่อยเหล่านี้ โยเซฟินยอมรับว่าแรกทีเดียวเธอก็กังวลว่าจะเป็นไปได้แค่ไหน แต่ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือน โยเซฟินเล่าว่าเธอได้เรียนรู้อะไรมากมาย ตั้งแต่การลองทำขนมปังด้วยตัวเอง ได้พูดคุยกับเจ้าของฟาร์มและผู้ผลิตต่างๆ แบบเห็นหน้าค่าตา ได้ท้าทายตัวเองด้วยการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ จากวัตถุดิบที่มี จนโยเซฟินผ่านพ้นโปรเจกต์นี้ไปแบบแฮปปี้ๆ แถมยังท้าทายตัวเองอีก 2 รอบในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน และในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ซึ่งผลลัพธ์ก็ยังออกมาไม่แตกต่าง 

ด้วยผลลัพธ์ที่ทำให้เจ้าตัวรู้สึกดี ทั้งในแง่ที่เอาชนะข้อจำกัดต่างๆ แถมยังรู้สึกสุขภาพดีขึ้นกว่าแต่ก่อน โยเซฟินเลยอยากส่งต่อความรู้สึกดีนี้ภายใต้โปรเจกต์ล่าสุดในชื่อ Fridays Pizza ที่มาจากความตั้งใจว่า เธออยากให้วัตถุดิบท้องถิ่นเข้าถึงผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ พร้อมกับอยากให้ทุกคนตระหนักว่า เราควรกินอาหารท้องถิ่นให้มากขึ้นในชีวิตประจำวัน 

Fridays pizza ความสนุกและอร่อยที่รอคุณอยู่ทุกวันศุกร์

หลายคนแปลกใจที่โยเซฟินเลือกพิซซ่าเป็นทูตแห่งการกินอาหารท้องถิ่น แต่โยเซฟินได้ให้ความเห็นว่า แม้พิซซ่าจะเป็นอาหารอิตาลี แต่วัฒนธรรมด้านขนมปังของประเทศในกลุ่มนอร์ดิกก็มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุคเหล็ก ถ้าให้เทียบความใกล้เคียงกัน ประเทศในแถบนี้ก็นำเอาธัญพืชต่างๆ เช่น บาร์เลย์ โอ๊ต ไรย์ มาทำเป็นโดห์ของขนมปังแบบบาง (Tunnbröd) แล้วนำไปนาบบนแผ่นเหล็กร้อนบนเตาที่ใช้ไม้เป็นเชื้อเพลิง ซึ่งขนมปังที่ได้ก็ออกมาหน้าตาแทบไม่แตกต่างจากพิซซ่าเลย ขนมปังชนิดนี้ยังนิยมกินคู่กับชีส โยเซฟินจึงคิดว่า แท้จริงแล้วพิซซ่าก็คือแฝดคนละฝาของ Tunnbröd นั่นเอง 

พิซซ่าของ Fridays pizza มีให้เลือกประมาณ 4-5 ท็อปปิ้งขึ้นอยู่กับวัตถุดิบตามฤดูกาล เช่น ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมาก็มีพิซซ่าหน้าเห็ดแชนเตอเรล หรือพิซซ่าหน้ามันฝรั่งที่เพิ่งขึ้นใหม่ๆ ในช่วงฤดูร้อน แต่ละท็อปปิ้งยังแจกแจงรายละเอียดยิบย่อยว่าวัตถุดิบที่ใช้มาจากแหล่งไหนบ้าง และแน่นอนว่าวัตถุดิบทั้งหมดของ Fridays pizza ผลิตขึ้นในสวีเดนทั้งหมด เช่น ชีสจากเมือง Qvickosten มะเขือเทศพลัมจาก Gällenäs หรือทานตะวันงอกจาก Mölndal 

ความสนุกของพิซซ่าของโยเซฟินไม่ได้อยู่แค่ที่ความสร้างสรรค์ในการออกแบบพิซซ่าหน้าต่างๆ ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนจากร้านพิซซ่าอื่นๆ แต่ Fridays pizza ไม่ใช่พิซซ่าปรุงสุกพร้อมเสิร์ฟ

เมื่อถึงวันศุกร์ ลูกค้าที่สั่งออเดอร์ไปจะได้รับ kit box ที่ประกอบไปด้วยโดห์พร้อมนวด ซอส และท็อปปิ้ง สำหรับให้ลูกค้าได้ DIY กันภายในครอบครัว และได้กินพิซซ่าสดใหม่ที่เพิ่งอบจากเตาโดยแท้จริง 

โยเซฟินยังเสริมอีกว่า นอกจากท็อปปิ้งที่ให้ไปในกล่องแล้ว ลูกค้าอาจเพิ่มเติมวัตถุดิบอื่นๆ โรยหน้าลงไปอีกก็ได้ เพราะพิซซ่าช่างเป็นเมนูเหมาะเจาะสำหรับกำจัดของเหลือในตู้เย็น แต่ได้ผลลัพธ์ล้ำค่า เพราะยากมากๆ ที่โรยอะไรลงไปบนพิซซ่าแล้วจะไม่อร่อย!  

ภาพถ่าย: Josefin Agnas