ผ่านไปแป๊บเดียวก็ย่างเข้าสู่เดือนที่ห้าของปีแล้ว เลยอยากชวนมาเพิ่มความท้าทายให้ตัวเองกันหน่อย ด้วยการมีเป้าหมายในการใช้ชีวิตแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและดีต่อร่างกายตัวเองมากขึ้น สำหรับคนที่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรเราก็มีตัวช่วยมาให้ กับกิจกรรมกรีนๆ หลากหลาย เอาใจตั้งแต่สายช้อป สายเวิร์กช็อป ไปจนกระทั่งค่ายสีเขียวสำหรับเจ้าตัวเล็ก

Workshop


สถานที่: The Cave Workshop Studio
วัน: 6 – 7 พฤษภาคม 2560 (คอร์สละ 1 วัน)
เวลา: 11.00 – 18.00 น.

งานพิมพ์ผ้าอินเดีย WOOD BLOCK
แม้ Greenery Hop ของเราจะเคยนำเสนองานเวิร์กช็อปเกี่ยวกับผ้ามาหลายครั้ง ทั้งย้อม ถัก ปัก ทอ แต่เมื่อเราได้เห็นคอร์สที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายตะวันออกอันแรงกล้าอย่างงานพิมพ์ผ้าอินเดีย WOOD BLOCK จาก The Cave Workshop Studio ก็อดจะเอามานำเสนออีกไม่ได้ รวมทั้งแค่แอบไปส่องรูปจากคอร์สที่ผ่านมาก็ทำเอาเราตื่นเต้นน่าดู เพราะคอร์สนี้เริ่มต้นสอนกันตั้งแต่กระบวนการสร้างสรรค์พิมพ์แกะไม้แบบโบราณเลยทีเดียว ซึ่งงานสร้างสรรค์ลวดลายด้วยมือตั้งแต่ขั้นต้นแบบนี้ไม่ใช่ให้เพียงความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล แต่ยังสะท้อนถึงรากฐานวัฒนธรรมที่คาบเกี่ยวระหว่างวิถีชีวิตและศิลปะของตะวันออกอีกด้วย หลังจากจบคอร์สนอกจากทุกคนจะได้ผ้าพิมพ์ลวดลายสวยงามจากฝีมือของตัวเองกลับบ้านแล้ว รับรองว่ายังได้ความรู้และทักษะที่สามารถเอาไปต่อยอดได้อีกไม่รู้จบ

ค่าใช้จ่าย: 2,200 บาท
FB: www.facebook.com/thecaveworkshopstudio
เครดิตภาพ: The Cave Workshop Studio

สถานที่: Simply Organics
วัน: 6 พฤษภาคม 2560
เวลา: 10.00 – 16.00 น.

Natural Indigo Workshop คอร์สก่อหม้อครามธรรมชาติ
คำว่า ‘คราม’ ที่เราเคยได้ยินกันมาตั้งแต่เด็ก นอกจากจะหมายถึงสีเฉดฟ้าน้ำเงินแล้ว ครามยังเป็นชื่อไม้พุ่มขนาดเล็กของชนพื้นเมืองเอเชียอีกด้วย คนโบราณค้นพบภูมิปัญญาชาวบ้านในการนำกิ่งครามทั้งใบมาแช่น้ำด่างเพื่อหมักเอาครามมาย้อมผ้า ซึ่งต่อมาก็มีการต่อยอดประยุกต์วิธีย้อมและมัดย้อมให้เกิดลวดลายสวยงามมากมาย โดยเฉพาะในยุคนี้ที่วิธีการมัดย้อมแบบชิโบริอันมีต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่นกำลังได้รับความนิยมในหมู่ผู้ชื่นชอบเสื้อผ้าแนวออร์แกนิก จนมีเวิร์กช็อปสอนวิธีการมัดย้อมให้หาเรียนได้มากมาย ทว่าสำหรับคอร์สก่อหม้อครามธรรมชาติ เพื่อสร้างวัตถุดิบในการย้อมด้วยตัวเองนั้น เห็นจะมีแต่คอร์สที่ Simply Organics จัดขึ้นเท่านั้น โดยในคอร์สนี้ทุกคนจะได้เรียนรู้การก่อหม้อครามธรรมชาติสูตรเฉพาะของทาง Simply Organics เอง ซึ่งสามารถเตรียมสีได้ในระยะเวลาอันสั้นเพียง 1-3 วัน ทุกคนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับทฤษฎีสีคราม การหมักสีครามตามธรรมชาติ เคมีของหม้อคราม การดูแลรักษาหม้อคราม ตลอดจนได้ลงมือก่อหม้อครามด้วยตัวเองเพื่อนำกลับบ้านไปไว้ย้อมเล่นคนละ 1 ถึง อ้อ สำหรับคนที่กลัวว่าเอากลับบ้านไปแล้วหม้อครามของเราจะรอดหรือเปล่า ก็หมดกังวลได้เลย เพราะเขาได้เตรียมเนื้อครามสำหรับปรับปรุงหม้อครามให้เอากลับบ้านไปด้วย 1 กิโลกรัมเลยจ้า

ค่าใช้จ่าย: 3,500 บาท
FB: www.facebook.com/simplyorganicsBKK
เครดิตภาพ: Simply Organics 

Shop

สถานที่: ร้านอาหารยามเย็น ถนนอุทยาน
วัน: 6 พฤษภาคม 2560
เวลา: 14.00 – 20.00 น.

ตลาด คนปลูก คนปรุง
ไม่ต้องพูดอะไรมากสำหรับตลาดออร์แกนิกดีๆ ที่กลุ่มปลูกปรุงเปลี่ยน จัดต่อเนื่องมาจนถึงครั้งที่ 5 แล้ว แหล่งขายสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ยกกันมาทั้ง ร้านยามเย็น อาหารปรุงจากวัตถุดิบอินทรีย์, น้ำอ้อยอินทรีย์ จาก organic station, ต้นอ่อนผัก จาก เด็กปลูกผัก, อาหารทะเลสด ห่อหมกปลาทะเลใต้ ของ Sukitta Seafood, ต้นฟิก (มะเดื่อฝรั่ง) ต้นหม่อน ผักสลัด จาก สวนใส่ใจ ไปจนถึงไอศกรีมเชอเบทผลไม้และนมเย็นชื่นใจ จาก Jinta Homemade Icecream และร้านอื่นๆ อีกมากมายที่มองไปทางไหนก็ชวนให้เสียทรัพย์ ยังไม่พอ นานๆ จัดทีเรียกว่ามาแล้วต้องไม่มีเสียเที่ยว เพราะเขายังเตรียมเวิร์กช็อปแสนเก๋ไว้ให้ผู้มาเยือนได้เข้าร่วมตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น เวทีเสวนา ‘วิถีชุมชนออร์แกนิก’ เย็นเข้าอีกนิดก็ถึงเวลาเรียนรู้การทำขนมปัง แบบง่ายๆ ทำกินเองได้ที่บ้าน โดย พี่นิดหน่อย ก่อนจะจบวันด้วยสาธิตการทำปลาแห้ง แตงโม โดย พ่อเอก เรียกว่ามางานนี้บ่ายอิ่มหนำ เย็นสำราญ กลับบ้านด้วยรอยยิ้มกันทุกคน

FB: www.facebook.com/yarmyen2016
เครดิตภาพ: กลุ่มปลูกปรุงเปลี่ยน

สถานที่: โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ
วัน: 7 พฤษภาคม 2560
เวลา: 13.00 – 19.00 น.

100 Kilometers Market ครั้งที่ 14
เวลามีใครพูดขึ้นมาถึงการใช้ชีวิตวิถีกรีน หลายคนมักคิดว่าขอเพียงเลือกซื้อหาผลิตผลและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่ปราศจากสารพิษก็เพียงพอแล้ว ทว่าคอนเซปต์ของตลาด 100 กิโลเมตร ที่จัดต่อเนื่องจนมาถึงครั้งที่ 14 นี้กำลังกระตุ้นเตือนให้เราหันมองและทำความเข้าใจถึงอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เดินทางมาพร้อมสินค้าเหล่านั้น นั่นก็คือ รอยเท้าคาร์บอน หรือ Carbon Footprint พูดให้ฟังง่ายๆ ก็คือ ยิ่งเราสั่งซื้อสินค้าที่แหล่งผลิตอยู่ห่างไกลจุดจำหน่ายมากเท่าไหร่ การขนส่งที่ยาวไกลไม่ว่าจะทางเครื่องบิน, รถบรรทุก, เรือ หรือ รถไฟ ก็ยิ่งทำให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นนอกจากการคัดเลือกสินค้าออร์แกนิกคุณภาพมาขายแล้ว ตลาดแห่งนี้ยังเป็นแหล่งรวมพืชผลจากเกษตรกรที่มีแหล่งผลิตรอบตัวเมือง ห่างไม่เกิน 100 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ งานนี้ใครเล็งจะซื้อผักผลไม้ เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์แปรรูป เรียกว่าพลาดไม่ได้ เพราะนอกจากจะได้อาหารสด สะอาด ใหม่ ปลอดสารเคมีแล้ว ยังช่วยลดมลพิษให้กับโลกไปในตัวด้วย (แอบกระซิบอีกนิดว่าสถานที่จัดงานสามารถนั่ง BTS มาลงที่สถานีสะพานตากสินได้ ไหนๆ จะลด Carbon Footprint ทั้งทีอย่าลืมใช้บริการขนส่งสาธารณะด้วยนะ)

FB: www.facebook.com/fabfarmbkk
เครดิตภาพ: FabFarm – ตลาด 100 โล 

สถานที่: ชั้น 2 ทางเชื่อม ZPELL โซนเซ็นทรัล ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต
วัน: 6-7 พฤษภาคม 2560
เวลา: 10.00-21.00 น.

ตลาดสีเขียวสัญจร ตอน กินตามธาตุ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม
ตลาดสีเขียวคราวนี้ สัญจรมานอกเมืองพร้อมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากเครือข่ายตลาดสีเขียวเจ้าเดิม รวมทั้งยังมีแขกรับเชิญพิเศษอย่าง การดูแลสุขภาพตามวิถีทางเลือกจากเดวานัง คลีนิกแพทย์แผนไทย สาธิตอาหารสุขภาพจากเชฟจุ๊ นุชนาฎ ศิริชยาพร ชิมรสเมี่ยง สลัด ยำ ผักผลไม้พื้นบ้านโนสารเคมี และกิจกรรมความรู้จากเครือข่ายลดบริโภคเค็ม และเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน ที่สำคัญ ยังมีเวทีเสวนาที่ชวนเรารู้และคิดไปกับเรื่อง ‘รสชาติสังเคราะห์ ภัยร้ายใกล้ตัว’ ไปช้อปแล้วยังได้ความรู้ใหม่ๆ ที่เราจะปรุงรสได้ถูกลิ้นและถูกสุขภาพไปพร้อมๆ กัน

FB: www.facebook.com/thaigreenmarket
เครดิตภาพ: เครือข่ายตลาดสีเขียว

 


Camp

สถานที่: บ้านไร่ลุงคริส จ.สระบุรี
วัน: 6 – 7 พฤษภาคม 2560
เวลา: 09.00 – 16.00 น.

ค่ายบ้านไร่ลุงคริส
บ้านไร่ลุงคริสเปิดรั้วต้อนรับน้องๆ หนูๆ และผู้ปกครองสำหรับเข้าร่วมกิจกรรมที่ช่วยสานสายสัมพันธ์แห่งความสุขภายในครอบครัวและใกล้ชิดแนบสนิทกับวิถีธรรมชาติอีกครั้ง โดยตลอดวันเด็กๆ จะได้เข้าร่วมกิจกรรมหลายอย่างที่ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กๆ ทั้งทางร่างกายและอารมณ์ ปลูกฝังให้เด็กๆ รักธรรมชาติ รักศิลปะ รู้จักเพื่อนใหม่ ตลอดจนได้ทำกิจกรรมร่วมกันกับคุณพ่อคุณแม่ ได้ทั้งความสนุกสนาน ผ่อนคลาย และยังช่วยพัฒนาเด็กในด้านต่างๆ ทั้งนี้คอร์สในแต่ละวันที่จัดขึ้นก็มีความแตกต่างกันไป ให้ผู้ปกครองสามารถเลือกได้ตามความชอบของเจ้าตัวน้อย

สำหรับวันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม เด็กๆ จะได้เรียนรู้การทำผ้ามัดย้อมผ่านวัตถุดิบธรรมชาติภายในไร่ ก่อนจะได้ออกไปเก็บวัสดุในไร่มาสร้างสรรค์งานประดิษฐ์และเล่าเป็นนิทานสนุกๆ ในชื่อกิจกรรมว่า ‘ธรรมชาติเล่าเรื่อง’ และตบท้ายด้วยการทำน้ำสมุนไพรหอมชื่นใจจากสมุนไพรเก็บสดๆ ในไร่นั้นเอง ส่วนวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม กิจกรรมจะเน้นหนักไปที่เรื่องของการเกษตรมากกว่า ทั้งการเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกผัก เกษตรอินทรีย์ กับคุณปริ้นซ์ ฉายาเจ้าชายผัก ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการปลูกผักมานานกว่าสิบปี ได้ทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ตลอดจนได้เก็บมะม่วงสดๆ มาเพื่อทำไอศกรีมรับประทานร่วมกัน ครอบครัวไหนสนใจรีบโทรไปจองได้เลยจ้า อย่ารอช้านะ เพราะที่นั่งมีจำนวนจำกัดจริงๆ

ค่าใช้จ่าย: เด็ก/ ผู้ใหญ่ วันเสาร์ที่ 6 คนละ 1,350 บาท / วันอาทิตย์ที่ 7 คนละ 950 บาท (หมายเหตุ-น้องๆ ที่มาร่วมกิจกรรมต้องมีอายุ 3 ขวบขึ้นไป)
FB: www.facebook.com/chriskoorganicfarm
เครดิตภาพ: บ้านไร่ลุงคริส

สถานที่: สถาบัน Play Academy (เดอะ เซอร์เคิล ราชพฤกษ์)
วัน: 8 – 12 พฤษภาคม 2560
เวลา: 09.45 – 15.00 น.

ค่ายแห่งสติ เพื่อรู้ ตื่น และเบิกบาน รอบที่ 10
ค่ายดีๆ ที่มีคอนเซปต์ชัดเจนอย่าง “รู้ความหมายของสิ่งที่ทำ ตื่นเพราะคิดเป็น เบิกบานกับวิถีธรรมชาติ ชุมชน และเกษตรกรรม” ของสถาบัน Play Academy ค่ายความยาว 5 วันสำหรับน้องๆ อายุระหว่าง 6- 11 ปี ที่จะได้มาร่วมทำกิจกรรมพัฒนาทักษะทั้งไอคิว อีคิว และเรียนรู้วิถีธรรมชาติไปด้วยกันในค่ายเดียว โดยกิจกรรมที่ทางสถาบันเตรียมไว้มีด้วยกันตั้งแต่กิจกรรมจริงจัง อย่างการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมผ่านกระบวนการกลุ่มเชิงจิตวิทยา, เล่นบอร์ดเกมเพื่อพัฒนาทักษะสมอง และพัฒนาทักษะการคิดวางแผน แก้ปัญหา, การเล่นเพื่อพัฒนาความจดจ่อ ความยับยั้งชั่งใจ และควบคุมอารมณ์ ไปจนถึงกิจกรรมงานประดิษฐ์ เรียนรู้การทำสบู่โฮมเมด ทำขนมอบ ทำของเล่นทำมือ หรือแม้แต่ในพาร์ทการเรียนรู้ธรรมชาติ เด็กๆ ก็จะได้ลงชุมชนไปคลุกคลีกับการทำเกษตรของจริง เรียกว่าตลอดระยะเวลา 5 วัน คุณครูได้สลับสับเปลี่ยนสิ่งน่าสนใจมาให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ตลอดเวลา เหมาะมากๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากหากิจกรรมหลากหลายให้ลูกทำในช่วงปิดเทอม เพราะนอกจากจะเป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียนแล้ว ยังช่วยให้เด็กๆ ได้เพื่อนใหม่ คลายความเหงาจากการห่างเพื่อนในช่วงโรงเรียนปิดอีกด้วย

ค่าใช้จ่าย: 7,000 บาท
FB: www.facebook.com/PlayAcademyTH
เครดิตภาพ: Play Academy