เมื่อ Greenery ขอยกมืออาสาเป็นพื้นที่เชื่อมโยงเครือข่ายอาหารปลอดภัยให้ใกล้ชิดคนเมืองกลุ่มใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น นอกจากเว็บไซต์ที่มีเรื่องกินดีอยู่ดีให้อ่าน  มีงาน Greenery Talk ชวนตัวจริงเสียงจริงในวงการมาให้แรงบันดาลใจ เรายังเริ่มต้นเปิดตลาดให้มาเลือกช้อปอาหารดี วัตถุดิบปลอดภัย และผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อโลกใบนี้หลากหลายรูปแบบ ในชื่อ Greenery Market และเมื่อ 16-17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตลาดเขียวแห่งนี้ ก็ได้ฤกษ์ประเดิมเปิดพื้นที่เป็นครั้งแรก ที่ลานพลาซ่า สยามดิสคัฟเวอรี่ใจกลางเมือง

แม้จะไม่ใช่ตลาดใหญ่โตมีร้านรวงแน่นขนัด แต่ทุกร้านในตลาด Greenery Market#1 ก็ตอบโจทย์ใจความสำคัญในฐานะเครือข่ายอาหารปลอดภัยได้ดี เพราะที่นี่มีเกษตรกรตัวจริงเสียงจริงมาขายสินค้าที่พวกเขาปลูกเองกับมือ ยืนยันได้เต็มปากเต็มคำว่าปลอดสารพิษได้อย่างจริงใจ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มบ้านโฉนดชุมชนคลองโยง-ลานตากฟ้า จ.นครปฐม กลุ่ม กลุ่มเกษตรกร 5 บ้าน รสไทยไทย จากโรงเรียนชาวสวนคลองจินดา และร้านโอเล่ที่นอกจากจากจะมีผักสวนครัวยอดอ่อนมาให้เลือกซื้อ ยังมีขนมจีนน้ำยาหม้อใหญ่ แกงเขียวหวานรสเด็ด และแกงขี้เหล็กถึงเครื่องมาเสิร์ฟให้พร้อมอร่อยอีกด้วย แพลตฟอร์มอย่างร้าน Health Me และ  Folkrice ก็มีผลไม้ออร์แกนิกมาให้อุดหนุนความหวานอร่อยหลายกระบุง ส่วนฟากฝั่งทะเล ก็มีปลาหมึกแดดเดียวที่อร่อยออกนอกหน้า กุ้งแห้งตัวโตจากทะเลสาบสงขลา กะปิดีไม่ต้องหวั่นใจ และเนื้อปูม้าแกะหวานๆ จากร้านคนจับปลา Fisherfolk และ ธนาคารปูม้า ที่เน้นเรื่องประมงพื้นบ้านและการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลให้อยู่กับเราไปนานๆ

สายกินที่ไม่ถนัดปรุงเองหรือเข้าครัว ตลาดแห่งนี้ก็มีอาหารพร้อมอร่อยให้เลือกไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นผัดกะเพราหอมฟุ้งชวนฮัดเช้ยไปทั้งตลาดที่ผัดเสิร์ฟกันจานต่อจาน พัฟย่างอุ่นท้องอิ่มพุงสวนดินคานาอัน หมูกรอบหอมกรุ่นจากหมูอนามัยของร้าน Trust me I’m Chef น้ำปั่นผักห้าสีจากร้านปลูกปั่น กาแฟหอมๆ จาก shortcut organic และอื่นๆ อีกมากที่ต้องแวะมาเวียนชิมให้ครบทุกร้าน ส่วนสินค้ากรีนและผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรมาให้ช้อปจาก Pakchong Slow life ร้าน Patom ที่มีสกินแคร์ดีๆ ในราคาสบายใจกว่าเคาน์เตอร์แบรนด์ แถมยังมั่นใจว่าปลอดสารปรุงแต่งเกินจำเป็น และที่ต้องไปยืนสัมผัสนานๆ คือผ้าครามนุ่มมือจากสีย้อมธรรมชาติและฝ้ายท้องถิ่นออร์แกนิกแบรนด์แม่ฑีตา ที่มีให้เลือกช้อปทั้งผ้าผืนและเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นน่ารัก เปลี่ยนงานครามให้ร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น

ยังไม่หมด ตลอด 2 วันยังมีกิจกรรมเพลินๆ อย่าง Greenery Workshop ชวนผู้เข้าร่วมมาเวิร์กช็อปทำน้ำสลัดและก๋วยเตี๋ยวลุยสวนเวอร์ชั่นผักเพียบ ประโยชน์แน่น ที่ช้อปได้จากข้าวของในตลาด มินิทอล์กชวนเหล่าพ่อค้าแม่ขายมาเล่าถึงสินค้าและแนวคิดกินดี กรีนดีของแต่ละคนให้ฟัง รวมทั้งยังมีนิทรรศการ infographics จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ผักพร้อมปลูก และโชว์ชิลล์ๆ จากวงดนตรีให้ฟังกันอย่างเพลิดเพลินในยามเย็น

แต่ที่สุดแสนจะสำคัญไปกว่าได้ช้อปของดี กินของอร่อยปลอดภัย คือตลอดการช้อปหรือแวะเข้าไปชม คนเมืองและผู้บริโภคอย่างเราๆ จะมีโอกาสได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันกับนักปลูก นักปรุง และนักคัดสรรเหล่านี้ คุณลุงเล่าถึงนาข้าวอินทรีย์ที่เปลี่ยนชีวิตลุงไปตลอดกาล คุณป้าแนะนำให้เอายอดมะระไปทำอะไรกินถึงจะอร่อย คนขายปูเล่าให้ฟังว่าวิธีการทำธนาคารปูดีต่อทะเลอย่างไร (แถมให้แลกไลน์ไว้สั่งปูม้ามาถึงบ้านโดยไม่ต้องไปถึงปากน้ำปราณ) หรือได้รู้ว่าผ้าทอผืนสวยทำให้หนุ่มสาวหันกลับมาทอผ้าและเลิกไปทำงานในเมือง ฝ้ายออร์แกนิกพันธุ์ท้องถิ่นกลับคืนมา ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ได้  เชื่อมโยง สื่อสาร และส่งต่อแรงบันดาลใจได้มากมายนัก!

และนั่นคือเหตุผลของตลาดแห่งนี้