เป็นที่น่ายินดีที่ในตอนนี้กระแสการรักสุขภาพกำลังมาแรง สังเกตได้จากสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพขายดิบขายดี จนมีสินค้าใหม่ๆ จากต่างประเทศมาให้เราเลือกมากมาย โดยกระแสที่ตามอาหารคลีนมาติดๆ นั่นก็คือ ‘ซูเปอร์ฟู้ด’ ยกตัวอย่างเช่น เมล็ดเจีย หน่อไม้ฝรั่ง กรีกโยเกิร์ต อะโวคาโด ถั่วเลนทิล คีนัว ทับทิม เป็นต้น

‘ซูเปอร์ฟู้ด’ เป็นคำศัพท์ทางการตลาดเพื่อใช้โฆษณาถึงอาหารที่ทำให้เชื่อว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าอาหารทั่วไป ซึ่งผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับสุขภาพทั้งหลายจะไม่ใช้คำนี้กัน โดยสาเหตุที่อาหารบางชนิดถูกยกถูกชูขึ้นมาเป็นซูเปอร์ฟู้ดก็มีหลายสาเหตุ เช่น มีสารอาหารบางชนิดสูง มีสารอาหารมากแต่แคลอรี่ต่ำ ใยอาหารมาก ฯลฯ มีการศึกษาวิจัยยืนยันถึงคุณค่าอาหารและประโยชน์

ปัญหาที่เกิดขึ้นมักเป็นเรื่องของการตลาดการโฆษณา เราอาจจะเคยได้ยินว่าซูเปอร์ฟู้ดช่วยลดน้ำหนัก ลดความดันโลหิต ลดไขมันในเส้นเลือด ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ฯลฯ ซึ่งเป็นการอ้างอิงสรรพคุณของสารอาหารต่างๆ ในอาหาร เช่น ถ้าผมเกิดอยากโฆษณาไข่ไก่สักฟอง อยากจะทำให้มันดูพิเศษ แทนที่จะบอกว่าไข่นั้นมีโปรตีน มีวิตามินและแร่ธาตุ ผมก็เลือกใส่สรรพคุณของทุกสารอาหารมาแทน เช่น กินไข่แล้วซ่อมแซมสร้างเสริมส่วนที่สึกหรอ รักษาความสมดุลในน้ำตาลในเลือด ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน (โปรตีน) ช่วยลดจุดด่างดำรอยแผลเป็น เพิ่มความแข็งแรงกระดูก (วิตามินเอ) บรรเทาความอ่อนล้า บำรุงประสาทและสมอง ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน (วิตามินบี) ฯลฯ

แค่สรรพคุณของสารอาหาร 3 ชนิดในไข่ฟองเดียว (ซึ่งในไข่มีสารอาหารอื่นๆ เป็นสิบชนิด) ก็สามารถบรรยายคุณประโยชน์ได้มากมาย แต่ทุกคนก็น่าจะรู้ว่าแค่กินไข่อย่างเดียวก็ไม่ได้ทำให้ร่างกายเราแข็งแรงได้ทุกอย่างครบตามสรรพคุณ เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งเรื่องปริมาณที่กิน ความเหมาะสมและสมดุลของสารอาหาร การใช้ชีวิตประจำวันและการออกกำลังกาย

ซูเปอร์ฟู้ดทั้งหลายมักตามมาด้วยราคาสูงลิบจนพาลให้หลายคนคิดว่า การที่จะมีสุขภาพดีหรือจะลดน้ำหนักได้ ขึ้นอยู่กับการกินซูเปอร์ฟู้ด แต่ที่จริงแล้ว ยังมีหลายคนที่สุขภาพดีได้ด้วยอาหารพื้นบ้าน ข้าวแกง อาหารตามสั่ง เช่นกัน ถ้าใครไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย จะเลือกกินซูเปอร์ฟู้ดเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็ไม่เสียหายแต่ประการใด

แต่ถ้าคุณจะต้องเสียเงินมากมายเพื่อซื้ออาหารที่ต้องนำเข้าข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากต่างประเทศ เพราะหวังสรรพคุณว่าอาหารนั้นจะช่วยให้คุณบรรลุจุดประสงค์ได้ง่ายๆ ผมไม่แนะนำครับ หลายคนหวังทางลัดจนทำให้พลาดสิ่งที่ควรทำไป เช่น พลาดการออกกำลังกาย พลาดการปรับวิถีชีวิตให้เหมาะสม พลาดการปรับการกินอาหารให้ถูกสุขลักษณะ หรือพลาดโอกาสทางการรักษาไปเลยก็เป็นได้

ผมขอยกตัวอย่างง่ายๆ ดังนี้ มีซูเปอร์พนักงานคนหนึ่งที่มีความสามารถมาก ทำงานได้เทียบเท่ากับคนทั่วไปทำงานถึง 3 คน แต่ถ้าคุณจะเลือกจ้างเขา คุณอาจจะต้องเสียค่าจ้างมากกว่าถึง 10 เท่า คุณยังมีทางเลือกอื่นนั่นก็คือ การจ่ายเงินจ้างพนักงาน 4 คน ซึ่งอาจมีประสิทธิภาพไม่ต่างกับจ้างซูเปอร์พนักงานคนเดียว แถมมีเงินเหลืออีกตั้งมากมาย

บางคนอาจบอกว่าในซูเปอร์ฟู้ดมีสารพิเศษที่อาหารทั่วไปไม่มี เหมือนเป็นยอดพนักงานที่หาคนมาทำแทนไม่ได้ ซึ่งถ้ามีอาหารที่วิเศษขนาดนั้นกินแล้วไม่ป่วย ไม่อ้วน ผมก็อยากให้มี แต่จากคำแนะนำด้านสุขภาพของหน่วยงานรัฐทั้งหลายก็ไม่มีใครสนับสนุนให้ประชาชนเน้นกินอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นพิเศษ มีแต่เพียงบอกให้ กินให้หลากหลาย กินให้ถูกสุขลักษณะเท่านั้นเองสุดท้ายนี้ ผมแนะนำว่า การกินอาหารซ้ำๆ และกินในปริมาณที่มากเกินไปจากผลดีอาจกลายเป็นผลเสียได้ ดังนั้น การออกกำลังกายและกินอาหารที่ถูกสุขลักษณะ อาหารพื้นบ้าน ผลไม้ตามฤดูกาล น่าจะเป็นทางที่ง่ายและยั่งยืนกว่าในการดูแลสุขภาพนะครับ