ท่ามกลางร้านกาแฟทั้งเก่าและใหม่ที่กระจายตัวอยู่ทั่วในย่านสุขุมวิท เราได้ไปเจอกับ ME THAI COFFEE ร้านกาแฟเปิดใหม่ที่ซ่อนตัวอยู่ในตึกแถวบริเวณซอยสุขุมวิท 36 ซึ่งความน่าสนใจของร้านกาแฟแห่งนี้ ไม่ใช่การตกแต่งร้านที่สะดุดตาหรือเมนูล้ำๆ ไม่เหมือนใคร แต่คือความตั้งใจและแนวคิดที่อยากส่งเสริมกาแฟไทยให้เป็นที่รู้จักของเจ้าของร้าน

“เราจะเป็นแบรนด์กาแฟไทย ที่สามารถรวบรวมกาแฟได้เยอะๆ เพื่อให้ผู้บริโภคเห็นความหลากหลายของตัวกาแฟ”

เจริญ วุ้ยยื้อ เจ้าของและบาริสต้าประจำร้านบอกถึงวัตถุประสงค์หลักที่ทำให้เขาตัดสินใจเปิดร้านกาแฟเป็นของตนเอง หลังจากทำงานอยู่ในวงการกาแฟนานกว่า 15 ปี

เจริญเล่าว่าเขารู้จักกับเมล็ดกาแฟมาตั้งแต่จำความได้ เพราะเติบโตมาในครอบครัวเกษตรกรที่ปลูกและขายเมล็ดกาแฟสดให้แบรนด์ต่างๆ มาตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่า และยังคงปลูกเมล็ดกาแฟมาจนถึงทุกวันนี้ เขาได้เข้ามาทำงานเกี่ยวกับกาแฟอย่างจริงจังเมื่อ 15 ปีก่อน โดยเริ่มทำงานกับแบรนด์ ‘กาแฟดอยช้าง’ นั้นทำให้เขามีโอกาสได้ศึกษาเรื่องกาแฟทุกกระบวนตั้งแต่การปลูก การ Process การคั่ว การชงแบบต่างๆ ไปจนถึงการขาย ซึ่งการทำงานคลุกคลีกับเมล็ดกาแฟนี้ทำให้เจริญเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรผู้ปลูกเมล็ดกาแฟรายย่อยมากมาย ที่ไม่สามารถขายกาแฟได้เพราะไม่เป็นที่รู้จักของคนดื่ม

“คนส่วนใหญ่จะรู้จักกาแฟจากแหล่งปลูกดังๆ เช่น ดอยช้าง ดอยปางขอน ดอยผาหมี ดอยผาฮี้ บ้านแม่จันใต้ แต่จริงๆ แล้วประเทศไทยยังมีพื้นที่อื่นอีกมากมายที่กำลังปลูกเมล็ดกาแฟอยู่ มีคุณภาพดีด้วย แต่ขายไม่ได้เพราะไม่มีใครรู้จัก หรือแม้กระทั่งแหล่งที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้วก็ยังมีกลุ่มเกษตรกรกลุ่มเล็กๆ ที่เจอปัญหา เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกอย่างเดียว แล้วขายเมล็ดกาแฟสดผ่านพ่อค้าคนกลางทำให้เกิดความไม่แน่นอน ผมและครอบครัวจึงตัดสินใจมาทำกาแฟเองในทุกกระบวนการ เพราะพวกเรามี knowhow เรื่องนี้กันดีอยู่แล้ว”

“ผมเองก็อยากสนับสนุนเกษตรกรคนอื่นๆ ด้วย จึงสร้างแบรนด์กาแฟ ME THAI ขึ้นมา เพื่อบอกว่าเราป็นกาแฟไทยที่มีอิสระ ไม่ได้จำกัดว่าต้องอยู่ดอยไหนหรือพื้นที่ใดเป็นพิเศษ”

เจริญบอกว่าเขาไม่ได้ทำหน้าที่เป็นคนกลาง แต่จะเข้าไปร่วมงานกับเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อคัดแยก พัฒนาเมล็ด ค้นหา process หรือกระบวนการแปรรูปจากผลเชอร์รี่กาแฟไปเป็นเมล็ดกรีนบีนที่พร้อมสำหรับการคั่วที่เหมาะสม เพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟที่มีเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ 

อย่างที่เรารู้กันว่ากาแฟสายพันธุ์อราบิก้าเป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูงเพราะเป็นกาแฟที่มีกลิ่นหอมและรสชาติกลมกล่อมรวมถึงมีปริมาณคาเฟอีนน้อย แต่หลายคนไม่รู้ว่ากาแฟสายพันธุ์อราบิก้ายังมีสายพันธุ์ย่อยต่างกันไป เช่น คาทุย คาติมอร์ เบอร์บอน ซึ่งที่ผ่านเกษตรกรไม่ได้มีการแยกสายพันธุ์ย่อยอย่างชัดเจน ทำให้กาแฟอราบิก้าที่เราดื่มกันในปัจจุบันมีสายพันธุ์ย่อยที่ปะปนกันไป”

“แต่ช่วงหลังเริ่มมีเกษตรกรรุ่นใหม่พยายามแยกการ process ในสายพันธุ์ย่อยเพื่อให้ได้กาแฟที่รสชาติโดดเด่นและชัดเจนขึ้น”

เจริญอธิบายเพิ่มว่าปกติแล้ว process ที่ชาวบ้านนิยมทำกันคือ wash process หรือกระบวนการผลิตแบบเปียก ซึ่งกาแฟที่ได้จะได้รสชาติที่สะอาดและรสเปรี้ยวอย่างชัดเจน แต่ช่วงหลังๆ ก็มีเกษตรกรรุ่นใหม่เพิ่มการ process แบบต่างๆ เช่น natural dry process, honey process, anaerobic ซึ่งกรับวนการที่แตกต่างออกไปก็ทำให้ได้รสชาติกาแฟมีความหลากหลายขึ้น แต่ก็ยังคงคาแรกเตอร์พื้นฐานที่เป็นเอกลักษณ์ของกาแฟแต่ละพื้นที่

“ตัวเราเองที่ทำงานกับผู้บริโภคก็จะรู้เทรนด์การดื่มกาแฟและ process ที่น่าสนใจ การทำงานของเราคือชวนให้เขาทำ process แบบที่ตลาดชอบ แล้วผมก็ซื้อตัวอย่างที่เขาทำ มาหาโปรไฟล์ (คุณลักษณะของรสชาติและกลิ่นของกาแฟ) มาทดลองคั่วเพื่อหาความเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟแต่ละที่ ก่อนจะนำมาสร้างแบรนด์และจำหน่ายให้ผู้บริโภคผ่านหน้าร้านที่สุขุมวิทและเฟซบุ๊กของเรา” 

ในร้าน ME THAI COFFEE จะเน้นเสิร์ฟและขายเมล็ดกาแฟที่เป็น single origin หรือเมล็ดกาแฟจากแหล่งเพาะปลูกเดียวเท่านั้น เพื่อให้เขาสามารถนำเสนอเอกลักษณ์ของกาแฟไทยในแต่ละพื้นที่ได้อย่างเต็มที่

“การทำงานตลอด 15 ที่ผ่านมาทำให้ผมเรียนรู้ว่ากาแฟไม่มีคำว่าอร่อยที่สุดหรือดีที่สุด เพราะในแต่ละพื้นที่จะมีคาแรกเตอร์เฉพาะที่แตกต่างกัน”

“สิ่งที่เราทำจึงเป็นการหาคุณลักษณะ ดึงสิ่งที่ดีที่สุดของเมล็ดกาแฟในแต่ละพื้นที่ออกมา แล้วมาทำให้ลูกค้าได้ทดลองชิม เผื่อว่าเขาจะเจอกาแฟจะแหล่งใหม่ๆ ที่ชอบได้”

นอกจากจะช่วยให้ผู้บริโภคได้เห็นความหลากหลายของกาแฟไทย ได้รู้จักกับแหล่งผลิตกาแฟใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เจริญยังหวังให้ ME THAI สร้างคุณค่าและภาคภูมิใจในอาชีพเกษตรกรของตนเอง

“เราอยากให้อาชีพเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟเป็นอาชีพที่ยั่งยืน ให้มีการปลูกกาแฟไปนานๆ เราอยากเป็นช่องทางเล็กๆ ที่ช่วยเชื่อมต่อเกษตรกรกับผู้บริโภค ทำให้เกษตรกรรายย่อยๆ เห็นว่าถ้าเขาทำกาแฟดี เขาใส่ใจก็สามารถอยู่ได้ ไม่จำเป็นต้องทำเป็นแมสโปรดักต์” 

เจริญบอกเราเพิ่มเติมว่าการดื่มกาแฟที่ร้าน ME THAI COFFEE นอกจากจะทำให้เราได้เห็นความหลากหลายของกาแฟคุณภาพดี ได้การสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยที่มีความตั้งใจ ยังส่งเสริมให้เกิดการรักษาสิ่งแวดล้อมได้ด้วย

“การสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยให้ปลูกกาแฟ ไม่เพียงแค่ทำให้เขามีรายได้ ทำให้ผู้บริโภคได้ดื่มกาแฟที่หลากหลาย แต่ยังสนับสนุนให้เกิดการดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยเพราะการปลูกกาแฟคือการปลูกป่าไปในตัว”

ME THAI COFFEE

67 ซอยสุขุมวิท 36 (BTS ทองหล่อ)
Facebook: ME THAI COFFEE
โทรศัพท์: 082-1542645