ขยะเป็นปัญหาคลาสสิกที่แก้ยากเหลือเกินและนับวันมีแต่จะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ น่าสนใจว่าในปีหนึ่งคนไทยเราผลิตขยะกันมากถึง 27 ล้านตัน (ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษปี 2559) เป็นขยะที่จัดการได้ด้วยการฝังกลบหรือเผากลางแจ้งได้เพียงแค่ 8 ล้านตันเท่านั้น แต่มีเหลือตกค้างเกือบ 13.5 ล้านตันทุกปี ลองจินตนาการดูแล้วก็น่าสะพรึงอยู่ไม่น้อยว่าต่อไปเราจะต้องสรรหาที่ดินมากมายแค่ไหนเพื่อมาทิ้งขยะที่เราไม่ต้องการอีกต่อไป

เราทุกคนจึงมีส่วนช่วยลดจำนวนขยะได้ตั้งแต่ในบ้านกันตั้งแต่วันนี้เลย โดยเฉพาะขยะรีไซเคิล และขยะอินทรีย์ จำพวกเศษผัก ผลไม้ เศษอาหารต่างๆ ขยะรีไซเคิลก็เพียงแค่แยกชนิดแล้วส่งขายร้านรับซื้อหรือผูกปิ่นโตกับซาเล้งให้มารับซื้อที่บ้าน พวกขยะเหม็นๆ อย่างเศษผักผลไม้และอาหารนี่ต่างหากที่จัดการยุ่งยากกว่า แต่ Greenery มีวิธีดีๆ มาบอกกัน ที่รับรองได้ว่าคราวนี้เศษขยะอินทรีย์ในบ้านจะกลายเป็นขุมทรัพย์ของทุกคนเลยล่ะ

ปัญหาสำคัญของขยะประเภทนี้คือส่งกลิ่นเหม็น เมื่อทิ้งไว้นานจะบูดเน่าและมีแมลงรบกวน วิธีการจัดการขยะอินทรีย์จึงมีหัวใจอยู่ที่ ‘การปล่อยให้ขยะย่อยสลายเพื่อเอาไปใช้ประโยชน์ต่อได้โดยไม่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวน’ นั่นเอง ซึ่งเราสามารถดัดแปลงใช้ได้หลายเทคนิคตามความสะดวกดังนี้

1.ทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร

แต่ละวัน ในครัวเรือนจะมีเศษอาหารเหลือทิ้งจำนวนไม่น้อย เราสามารถนำเศษอาหารนี้มาทำเป็นปุ๋ยสำหรับปลูกผักสวนครัวในบ้านได้ง่ายๆ หลักการคือใช้เศษอาหาร (แยกน้ำ กระดูกและก้างปลาออก) ดินหรือปุ๋ยคอก ใบไม้แห้ง เทซ้อนกันเป็นชั้นๆ

วิธีการทำถังปุ๋ยก็แสนง่ายดายคือ ใช้ตะกร้าพลาสติก เข่ง หรือภาชนะทรงสูง (เจาะให้มีรูระบายน้ำได้) กรุถุงพลาสติกที่เจาะรูรอบลงไปเป็นภาชนะรองรับด้านใน เมื่อมีเศษอาหารให้เทลงไปแล้วตามด้วยดินหรือปุ๋ยคอก (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งแต่ปุ๋ยจะได้ผลดีกว่าดิน) และใบไม้แห้งซ้อนเป็นชั้นๆ ในสัดส่วนอย่างละเท่าๆ กัน รวบปากถุงพลาสติกคร่าวๆ แล้วปิดฝาเพื่อป้องกันแมลงวันมาวางไข่ (อันนี้สำคัญมาก) ทำซ้ำเช่นนี้ทุกครั้งเมื่อทิ้งเศษอาหาร หากเต็มแล้วปิดฝาทิ้งไว้ รดน้ำทุก 7 วัน เพื่อระบายความร้อนในกองปุ๋ยออก หนึ่งเดือนผ่านไป เศษอาหารจะย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยหมักสีดำเข้มโดยไม่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนเลย ปุ๋ยที่ได้นี้ใช้ผสมดินปลูกผักสวนครัวช่วยบำรุงผักให้งอกงามดีมากๆ

ข้อแนะนำสำหรับคนที่หาซื้อปุ๋ยคอกไม่ได้ ให้ดัดแปลงใช้มูลสัตว์เลี้ยง เช่น หมา แมว กระต่าย แทนปุ๋ยคอกก็ได้ เพราะเราต้องการให้จุลินทรีย์ในมูลสัตว์ช่วยย่อยสลายเศษอาหารให้กลายเป็นปุ๋ยเท่านั้นเอง ส่วนถุงพลาสติกกรุในตะกร้าดัดแปลงใช้ไนลอนตาข่ายตาถี่แทนได้เช่นกัน

2.ทำน้ำหมัก EM

เวลาปอกสับปะรดหรือคั้นน้ำส้มคั้นแล้วเปลือกเหลือเยอะแยะ อย่าเพิ่งทิ้ง เศษผักและผลไม้ที่เหลือใช้ (แต่ไม่เน่า) นี่ยังใช้ประโยชน์ได้อีกเยอะเลย นำเศษวัสดุที่มี 3 ส่วน ผสมกากน้ำตาล 1 ส่วน ใส่ถังหมักที่มีฝาปิดหมักไว้ 7 วัน (โดยไม่เปิด) แล้วผสมกับน้ำ 10 ลิตรเพื่อทำเป็นหัวเชื้อ เวลานำไปใช้ให้เจือจางกับน้ำเพิ่มอีก ใช้รดน้ำต้นไม้ เร่งดอกเร่งผลได้ ใช้ฉีดพ่นดินจะช่วยปรับโครงสร้างในดินและเพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ลดจำนวนแมลงศัตรูพืช ช่วยย่อยสลายเศษใบไม้แห้งในสวน ใช้ดับกลิ่นในอ่างล้างจาน โถสุขภัณฑ์ และรางระบายน้ำเสีย หากทำบ่อปุ๋ยจากเศษอาหาร (เหมือนข้อ 1) สามารถรดน้ำ EM เพื่อป้องกันแมลงวันด้วยก็ได้

3.ทำปุ๋ยไส้เดือน

ตัวกำจัดขยะที่ดีที่สุดอีกอย่างหนึ่งคือไส้เดือน ไส้เดือนเป็นสัตว์ที่ย่อยสลายอินทรีย์วัตถุได้ดีมาก ไส้เดือนสายพันธุ์ขี้ตาแร่ของเมืองไทยนี่แหละที่ได้รับการวิจัยมาแล้วว่ามีสถิติการกินขยะสดได้เร็วที่สุดเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ แถมไม่ต้องดูแลยุ่งยากด้วย การเลี้ยงไส้เดือนอาจทำในจำนวนน้อยๆ เช่น เลี้ยงในกระถางต้นไม้ (ทำจากดินเผา) หรือจะเลี้ยงแบบมีปริมาณในกะละมังพลาสติก (เจาะรูที่ก้นจนทั่ว) ก็ได้

วิธีการได้แก่เตรียมดินผสมขี้วัว ถ้าไม่มีก็ใช้ดินอย่างเดียวผสมน้ำจนฉ่ำ รองในภาชนะที่จะเลี้ยงหนาประมาณ 3 นิ้ว ปล่อยไส้เดือนลงไป ปิดฝาด้วยภาชนะที่ระบายอากาศได้เพื่อป้องกันแมลงวันเข้าไปวางไข่ ให้เศษอาหารไส้เดือนทุกวันหรือตามที่มี ไส้เดือนกินเศษอาหารได้ทุกอย่าง เช่น เศษผักผลไม้ เศษอาหาร (ไม่เอาน้ำแกง) มูลสัตว์เช่น หมา แมว กระต่าย วัว  เป็นต้น นำภาชนะเพาะเลี้ยงไส้เดือนไปวางไว้ในจุดที่มืด ชื้น และเย็น ถ้าที่บ้านไม่มีบริเวณที่ชื้นๆ ให้หมั่นพรมน้ำให้มีความชื้นอยู่เสมอ (ระวังไม่ให้ฝนตกใส่จนน้ำนอง ไส้เดือนอาจจมน้ำตายได้)

ไส้เดือนจะช่วยเปลี่ยนเศษอาหารให้กลายเป็นปุ๋ยขี้ไส้เดือน (เป็นเหมือนดินร่วนๆ สีดำ) และฉี่ไส้เดือน (ของเหลวสีเกือบดำ ถ้าอยากได้ฉี่ไส้เดือนต้องหาภาชนะรองใต้ภาชนะเลี้ยงไส้เดือนด้วย) ปุ๋ยขี้ไส้เดือนใช้ผสมดินปลูกผักสวนครัวบำรุงให้ผักงอกงามดี ส่วนฉี่ไส้เดือนเป็นเหมือนฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตของพืช ใช้เจือจางรดน้ำต้นไม้ เร่งดอกเร่งผลให้ต้นไม้ได้ หรือใช้ดับกลิ่นเหม็นบริเวณอ่างล้างจาน โถสุขภัณฑ์ และรางระบายน้ำ เช่นเดียวกับน้ำหมัก EM ได้เหมือนกัน ฉี่ไส้เดือนกำลังเป็นสินค้าที่มีราคาแพงและมีความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นสิ่งที่ใช้ทดแทนเคมีในระบบเกษตรอินทรีย์ได้ดีมาก หากใครเพาะเลี้ยงเป็นงานอดิเรกก็อาจหารายได้เสริมจากฉี่ไส้เดือนได้สบายๆ เลย

4.ธาตุอาหารเสริมสำหรับผักสวนครัว

เศษวัสดุบางอย่างสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อีกหลายอย่าง เช่น เปลือกไข่ นำไปตากแห้งบดให้ละเอียดเก็บไว้ ใช้โรยรอบแปลงผักหรือกระถางเพาะเมล็ด ช่วยป้องกันหอยทากมากินต้นอ่อนพืชได้ หรือใช้โรยในถังไส้เดือนช่วยลดความเป็นกรดของดินและกำจัดไรแดงในถังเลี้ยงได้ ส่วนเปลือกถั่วลิสง มีไนโตรเจนสูงตากแห้งแล้วบดหยาบๆ ผสมกับดินปลูก ช่วยบำรุงต้นไม้และพืชผักได้เป็นอย่างดี

4 วิธีการง่ายๆ แบบนี้น่าจะช่วยให้เศษอาหารในบ้านไม่ต้องกลายเป็นปัญหาอีกต่อไป แถมยังกลายเป็นขุมทรัพย์ขนาดย่อมๆ ของเราได้ด้วย เพราะเราจะมีปุ๋ยหมักชั้นดีไว้ปลูกผักสวนครัวกินเองอย่างปลอดภัย หรือจะทำขายเป็นอาชีพเสริมอีกทางก็น่าสนใจไม่น้อยเลย

อ้างอิงข้อมูล: กรมควบคุมมลพิษ
ขอขอบคุณผู้เอื้อเฟื้อข้อมูล: คุณกรชชนก หุตะแพทย์ สวนผักบ้านคุณตา และศูนย์วิจัยและพัฒนาไส้เดือนดินแม่โจ้ มหาวิทยาลัยแม่โจ้