เราทุกคนมีความฝันที่แตกต่างกันไป ซึ่งนอกจากความฝันใหญ่ๆ สำหรับเรื่องหลักในชีวิต ฉันมั่นใจว่าเราแอบมีฝันเล็กฝันน้อยที่มีรายละเอียดยิบย่อยกันคนละหลายๆ อย่างแน่ๆ ตัวฉันเองก็มีฝันแบบยิบย่อยเยอะค่ะ และมาถึงวันนี้ก็เป็นจริงหลายอย่างแล้วด้วย
ความฝันเกี่ยวกับการอยู่อาศัยและใช้ชีวิตของฉันบางเรื่องก็ดูยากที่จะเป็นจริงได้เมื่อตอนที่อยู่ในกรุงเทพฯ อย่างเช่น ความฝันที่จะปลูกต้นพวงหยก หรือฝันอยากมีต้นกัลปพฤกษ์แสนสวยอยู่ในบ้าน เพราะบ้านในกทม.ที่ฉันอยู่มาตั้งแต่เด็กนั้น เป็นบ้านชั้นเดียวเล็กๆ มีพื้นที่แค่ 52 ตารางวา ซึ่งปลูกมะม่วง 3 ฤดูต้นหนึ่ง เขียวเสวยอีกต้นหนึ่งได้ แถมออกลูกให้กินด้วยนี่ก็น่าจะดีเกินจริงแล้ว ตอนนั้นฉันไม่เคยคิดเลยค่ะว่าตัวเองจะย้ายออกจากบ้านนั้น เพราะจริงๆ ฉันก็พอใจกับบ้านมาก และยังไม่เคยคิดว่าจะอยากย้ายออกจากกรุงเทพฯ ก็ฉันเกิดที่กรุงเทพฯ โตในกรุงเทพฯ เพื่อนฝูง และญาติของฉันล้วนอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นส่วนใหญ่ การออกมาอยู่ต่างจังหวัด ที่จริงแล้วฉันไม่เคยนึกฝันเลยด้วยซ้ำ แต่พอชีวิตพลิกผันให้ได้ย้ายมาอยู่ต่างจังหวัดจริงๆ ปรากฏว่ามันเป็นการตอบสนองความต้องการและความฝันของฉันได้มากมายเลยค่ะ
เมื่อสิบปีก่อนตอนที่ฉันขึ้นไปเที่ยวจังหวัดเชียงราย ฉันได้เห็นดอกพวงหยกเป็นครั้งแรก เป็นดอกไม้ที่มีสีเขียวหยกแปลกตา สวยประทับใจจนคิดว่าสักวันถ้าได้ปลูกดอกไม้นี้ที่บ้านเอาไว้ชื่นชมใกล้ๆ ก็คงดีสินะ แต่ไม่น่าจะได้เพราะดอกนี้จะออกในที่อากาศเย็นๆ เท่านั้น บ้านกทม.ไม่สามารถปลูกขึ้นแน่ คงได้แค่ฝัน แต่หลังจากนั้น เมื่อฉันย้ายมาปลูกบ้านอยู่ปากช่องอย่างที่ไม่เคยมีแพลนมาก่อน ในตอนที่ฉันกับคุณแม่ลิสต์รายชื่อต้นไม้ดอกไม้ที่เราจะเอาลงปลูกกัน พวงหยกเป็นชื่อแรกที่ขึ้นมาในหัวฉันเลยค่ะ เราถึงกับทำซุ้มระแนงที่มีโต๊ะเก้าอี้เอาไว้นั่งเล่นในสวน เพื่อที่จะมานั่งใต้ซุ้มพวงหยกนี่เลยทีเดียว ที่นี่พวงหยกปลูกง่าย ออกดอกดีซะด้วยสิคะ เป็นดอกไม้ไฮไลท์ที่เวลาแขกมาเยี่ยมบ้าน เราก็ต้องอวด เพราะว่าไม่มีดอกไม้อื่นที่มีสีแปลกตาได้ขนาดนี้แล้วค่ะ และเรายังปลูกต้นพวงโกเมนที่เป็นญาติกันแต่ออกดอกสีส้มแสดสวย ไว้ด้านหน้าตัวบ้าน เคยมีปีที่ออกดอกเยอะ สวยแสบตาจนมีคนขับรถเข้ามาในรั้วบ้านเพื่อมาดูดอกของมันใกล้ๆ เลย (ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีนะนี่) ส่วนกัลปพฤกษ์นี่ก็ปลูกโตง่ายโตไว พอออกดอกเต็มต้นก็สวยจนเราสามารถมโนว่ามีซากุระอยู่ในบ้านได้อย่างภาคภูมิ
นอกจากนั้นฉันมีฝันเล็กๆ ว่าฉันอยากมีครัวที่พอทำกับข้าวแล้วสาดน้ำล้างจานออกไปที่ดิน แล้วพริกเอย มะเขือเอย กะเพราเอย ก็ต่างงอกงามขึ้นเองจากน้ำที่เราสาดไปให้เราเก็บผลผลิตมาทำกับข้าวต่อได้ ตอนที่อยู่กทม. มันก็ดูไม่น่าจะทำได้อย่างนั้น เพราะข้างนอกครัวมีที่นิดเดียวที่โบกปูนไปแล้วอีกต่างหาก หน้าต่างครัวก็ติดทั้งเหล็กดัดและมุ้งลวด ดูไม่มีอนาคตจะมีสวนครัวงอกเองแบบนั้นได้เลย พอมาอยู่ปากช่อง ฉันทำครัวแยกเรือนออกมาเลยค่ะ ไม่ต้องติดมุ้งลวด หน้าต่างยาว 2 ด้าน ด้านนอกห้องครัวเป็นดิน ทีนี้ก็สนองความฝันฉันได้แล้ว อะไรที่เป็นขยะสดจากผักผลไม้ ฉันเอาออกมาเป็นปุ๋ยต้นไม้ต่อไปเลย มีพริก มีกะเพราขึ้นบ้างนานๆ ที ให้พอชื่นใจ แต่ที่ดีที่สุดคือฉันได้ปลูกผักและผลไม้ไว้กินเอง ได้ทำกับข้าวที่เด็ดสดจากสวนตรงมาสู่จานได้เลย ผักและผลไม้นี่มีทั้งปลูกเอาไว้และที่ขึ้นเอง ปีนี้ฉันมีมะม่วงน้ำดอกไม้ที่อร่อยมากๆ เพราะเด็ดจากต้นตอนที่ลูกแก่จัดกำลังดี ถ้าเราซื้อของที่เขาขายมักจะไม่ได้แบบนี้ แถมเราปลูกเองนี่ปลอดภัยจากสารเคมีใดๆ เพราะไม่ใส่อะไรเลย ปล่อยเทวดาเลี้ยงจริงๆ น้อยหน่าก็เหมือนกัน วันนี้ระหว่างที่เขียนคอลัมน์นี้อยู่คือ ฉันได้ออกไปเด็ดน้อยหน่าจากต้นที่ขึ้นเองมากินวันละลูกสองลูก ความที่เก็บตอนแก่จัด เลยดูเหมือนต้องแย่งกันกับนกกินเลย ตอนเช้าเล็งแล้วว่าจะเก็บลูกที่นิ่มๆ นี้กิน พอสายหน่อยมาเด็ด แหว่งไปแล้วครึ่งลูกค่ะ เห็นเจ้าตัวร้ายบินหนีไปกับตา แต่มันก็สนุกดีและอร่อยมากด้วย
และอีกหนึ่งความฝันน้อยๆ ของฉันที่สำเร็จแล้วก็คือ การที่ฉันได้ตัดดอกไม้ในสวนมาถวายบนหิ้งพระและจัดแจกันดอกไม้สดบนโต๊ะได้ทุกวัน ซึ่งถึงแม้จะเป็นฝันเล็กๆ แต่มันใหญ่ตรงที่ในบ้านจะต้องมีไม้ดอกมากมายและหลากหลายพอที่จะผลัดกันออกมาให้ชื่นชมได้ตลอดปี ถึงวันนี้ฉันก็ได้ทำแบบที่ฝันไว้แล้ว
อย่าลืมมีฝันเล็กๆ ไว้นะคะ การทำให้ฝันเป็นจริงได้ทีละอย่างสองอย่างมันดีต่อใจเรามากทีเดียวค่ะ ชีวิตคนไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่เรื่องหลักๆ ค่ะ เอาเข้าจริง ความสุขของคนขึ้นกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตมากอย่างที่เราคาดไม่ถึงเลยล่ะค่ะ