ใครๆ ก็ว่าเชียงใหม่เป็นสวรรค์แห่งการกิน คำนี้ไม่ผิดเลย เพราะมีร้านรวงอร่อยในตรอกซอกซอยเยอะแยะไปหมด ยิ่งสำหรับคนที่ใส่ใจเรื่องการกินดี เชียงใหม่คือแหล่งผลิตวัตถุดิบอาหารแบบออร์แกนิกแหล่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ การกินดีและกินอร่อยจึงเป็นเรื่องเดียวกันที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆที่เมืองนี้

เช่นเดียวกับ Bird nest café ร้านอาหารเล็กๆ ในซอยแคบๆ ที่อยู่ในเครือข่าย Slowfood Movement มีผู้คนแวะเวียนมาลิ้มลองรสชาติความอร่อยตลอดทั้งวัน เรียกว่าเป็นหนึ่งในร้านขวัญใจนักเดินทางจากทั่วโลกเลยก็ว่าได้ พี่เยาวดี ชูคง เจ้าของร้านบอกกับเราว่า “แค่ใช้วัตถุดิบดี อาหารก็อร่อยแล้ว”

ร้าน Bird nest café เป็นกึ่งคาเฟ่กึ่งบ้านหรือร้านอาหารสไตล์เอกเขนกที่ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนักในเชียงใหม่ ฉันว่าบรรยากาศทำนองนี้เหมือนคาเฟ่ในหลวงพระบาง ที่นักท่องเที่ยวมาดร็อปตัวเอง กินอาหาร แล้วก็เอกเขนกนอน อ่านหนังสือ งีบไปบ้าง ใช้เวลาครึ่งค่อนวันก่อนออกไปตะลุยเที่ยวเมืองกันต่อ เป็นวิถีสโลว์บาร์ที่ทำให้ผู้คนในร้านได้มีโอกาสพูดคุยปฏิสัมพันธ์กันจนเกิดมวลมิตรมากมายจากวงสนทนาบนโต๊ะอาหาร

ในร้านมีคาเฟ่ที่บริการกาแฟที่เลือกใช้เมล็ดกาแฟออร์แกนิกจากร้านฮกหลงและกาแฟชูใจ (อ่านสัมภาษณ์กาแฟชูใจได้ ที่นี่) เครื่องดื่มต่างๆ เช่นน้ำผลไม้ตามฤดูกาล ที่ดีที่สุดคือมี น้ำส้มคั้นสด เสิร์ฟได้ตลอดทั้งปี เพราะมีเครือข่ายผู้ผลิตส้มออร์แกนิกจากดอยเต่าคอยสนับสนุนวัตถุดิบให้

เสน่ห์ของอาหารในร้านนี้คือความสด ได้รสแท้จากธรรมชาติ โดยเฉพาะการที่แม่ครัวทำวัตถุดิบในการปรุงอาหารเองเกือบทุกอย่าง ตั้งแต่เครื่องแกงทุกชนิด ซอลปรุงรส โยเกิร์ตทำเอง ขนมปังเลี้ยงยีสต์เอง “ถ้ามีเวลา บางทีผงกะหรี่พี่ยังทำเองเลย” พี่เยาวดีว่าพลางหัวเราะ “ซื้อสำเร็จเขาผสมแป้งมา ทำเองอร่อยกว่าเยอะ” และแม้ไม่เรียกตัวเองว่าเป็นร้านออร์แกนิก แต่ก็คัดสรรวัตถุดิบที่ใช้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

“เราเป็นร้านอาหารที่คิดเรื่องสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ต้น เครื่องดื่มไม่ใช้หลอดพลาสติก ลดการใช้ถุงพลาสติกเพราะอยากส่งต่อสิ่งที่เราเรียนรู้ให้ลูกค้าด้วย วัตถุดิบบางอย่างไม่มีเราก็ลงไปสนับสนุนช่วยเหลือคนปลูกจนผลิตได้  ทุกวันนี้แทบจะพูดได้เลยว่าในร้านเรา มีวัตถุดิบออร์แกนิกครบเกือบทุกอย่าง ยกเว้น กระเทียม พริกหวาน หอมแดงที่จะหายากเพราะคนทำน้อยและไม่มีต่อเนื่อง ส่วนของพื้นฐานที่ร้านนี้และออร์แกนิกแน่นอนคือ ข้าว ไข่ เนื้อสัตว์  ถ้าไม่มีก็จะบอกลูกค้าเลยว่าหมด เพราะเราไม่อยากเอาของที่อื่นมาทดแทน ถ้าไม่มีก็ไม่เสิร์ฟ เพราะไม่อยากสนับสนุนของจากฟาร์มใหญ่ เรายอมไม่ขายดีกว่า ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็เข้าใจ”

“เราใช้วัตถุดิบอย่างสมเหตุสมผลในราคาที่จ่ายได้ เช่น น้ำมันรำข้าวแทนน้ำมันมะกอก เพราะราคาเหมาะสม และไม่ต้องเดินทางไกลมาจากต่างประเทศ กาแฟในร้านก็ใช้กาแฟออร์แกนิกเป็นหลัก ผู้ผลิตบางคนที่พออยู่ได้แล้ว เราจะเปลี่ยนมาสนับสนุนใช้ของจากเจ้าเล็กๆ แทนก็จะช่วยให้เครือข่ายการกินดีอยู่ดีเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืนจริงๆ” เจ้าของร้านยืนยันหนักแน่น

Bird nest café มีบริการทั้งอาหารไทยและฝรั่ง แต่เน้นไปทางอาหารฝรั่งมากกว่า อาหารไทยจะเป็นเมนูที่ชาวต่างชาตินิยมชมชอบ แต่รสชาตินั้นรับรองได้ว่าไทยแท้ๆ ทั้งแกงเขียวหวาน พะแนง ต้มข่า รวมถึงเมนูฮอตฮิตอย่าง ข้าวซอยไก่ ที่มีรสชาติจัดจ้านหอมกลิ่นเครื่องเทศ เพราะทุกอย่างทำสดใหม่ ไก่มาจากไก่บ้านไม่ใช่ไก่จากฟาร์ม เนื้อจึงแน่นหนึบ เป็นจานอร่อยที่เรียกความประทับใจได้ทุกครั้ง

เมนูที่น่าประทับใจคือ Thai Potato Hash ที่ผสมผสานผักพื้นบ้านหลากหลายชนิด เช่น ตำลึง ผักหวาน ผักเซียงดา แทนผักโขม พร้อมมันฝรั่งกรอบนอกนุ่มในที่ส่งตรงมาจากสวนพันพรรณของโจนจันใด เป็นมันฝรั่งลูกเล็กแต่รสชาติดีมาก เพราะปลูกในแหล่งที่มีสายน้ำแร่ไหลผ่านในอำเภอพร้าวจังหวัดเชียงใหม่ ราดด้วยไข่ดาว กินเข้ากันอร่อยสุดๆ  อีกจานคือ Granola fruit yogurt ที่ทางร้านทำโยเกิร์ตเอง เนื้อข้นเหนียว รสชาติสดชื่นเต็มความอร่อยจากนม หวานน้อย กินเคียงกับผลไม้หลากชนิดและกราโนล่าที่ทำเองเช่นกัน โดยใช้ความหวานจากกล้วยตากหั่นเต๋าแทนลูกเกด สดชื่นคลายร้อนได้ดีเหลือเกิน

มีบางเมนูที่ฉันเห็นแล้วนึกอยากลิ้มลอง (คงต้องเป็นคราวต่อไป) คือสลัดข้าว ที่คล้ายข้าวยำ คือใช้ข้าวผสมสมุนไพรหลากหลายคลุกเคล้ากับน้ำพริกเผาและมะพร้าวคั่ว ส่วนคนที่ชอบแนวขนมปังแนะนำให้ไปช่วงเสาร์อาทิตย์ เพราะขนมปังทำเองมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งขนมปังแซนวิชโฮลวีต พิต้า และเบเกิล

การได้พบเจอร้านอาหารดีและอร่อย จึงไม่เพียงช่วยให้เราอิ่มท้องอิ่มใจเท่านั้น หากยังได้เป็นอีกเรี่ยวแรงเล็กๆ เพื่อร่วมสร้างสังคมที่มีความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน

Bird nest café ตั้งอยู่ในซอยสิงหราชซอย 3 ถ.สิงหราช อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (เข้าซอยข้างวัดดับภัยและถนนเดินรถทางเดียว) ซอยค่อนข้างแคบ อาจจอดรถด้านนอกแล้วเดินเข้ามา เปิดบริการตั้งแต่มื้อเช้า 8.30-18.00 น. ทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร

Facebook: Bird nest café
ภาพถ่าย: สโรชา อินอิ่ม