เราคงปฏิเสธความฮิตของเครื่องดื่มอย่าง ‘ชานมไข่มุก’ ในเวลานี้ไม่ได้ แต่เมนูยอดนิยมของสาวๆ ออฟฟิศอย่างนี้ ดูน่าจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับอาหารดีสุดๆ ทั้งน้ำตาลที่สูงปรี๊ดในแต่ละเเก้ว ไหนจะไขมันทรานส์จากนมผงและนมข้นหวาน จึงเป็นเรื่องน่าสนใจเมื่อเราได้ยินชื่อของชานมไข่มุกสายเฮลท์ตี้อย่าง Cha Bar
Cha Bar เกิดขึ้นจากการรวมตัวของ นาว – แพรวไพลิน ศรีแสงนาม นิว – พลอยแพรว ศรีแสงนาม และเจ้น – ธันยพร รุ่งเรืองธัญญา 3 สาวคนยุคใหม่ที่อยากจะมอบทางเลือกที่ดีกว่าให้เหล่าชานมไข่มุกเลิฟเวอร์ แต่ความสุขภาพดีที่แบรนด์โปรยไว้ ไม่เพียงแค่เรื่องการเลือกใช้ส่วนผสมที่ไขมันต่ำ แคลอรี่น้อย พวกเธอยังมองไปถึงการเลือกใช้วัตถุดิบไทยๆ โดยหวังจะให้คนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงอาหารดีได้ง่ายๆ ผ่านเมนูที่เขาโปรดปราน
ชานมเมนูที่ใครๆ ก็ชอบ
“เราเป็นแฟนชานมฮ่องกงไต้หวันสุดๆ ตอนแรกเราคิดง่ายๆ เลยนะว่าอยากกินชานมไข่มุกทุกวัน เหมือนทำงานเหนื่อยๆ แล้วรู้สึกว่าอยากกินชานมไข่มุกเวลานี้ ตอนนี้ แต่มันไม่มี เราเลยไปปรึกษาเจ้นว่าถ้าอยากกินชานมไข่มุกที่สามารถกินได้ทุกวัน จะทำยังไงได้บ้าง” นาวเล่าถึงที่มาของไอเดียก่อนจะเกิด Cha Bar เธอบอกว่าเครื่องดื่มแก้วละ 500 กิโลแคลอรี่ ดูจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเท่าไหร่สำหรับการดื่มในทุกวัน
“เราบริโภคชานมกันเยอะมากๆ ถึงจะรู้ว่ากินแล้วอ้วน กินแล้วไม่ดีต่อร่างกาย แต่ก็ยังกิน ซึ่งมันอาจเพราะไม่มีเราทางเลือกหรือเปล่า ก็เลยมาปรึกษากันว่ามันจะดีไหมถ้าเราสร้างทางที่ดีกว่าให้คนเลือก”
เจ้นซึ่งรับหน้าที่ในการพัฒนาสูตรร่วมกับนิว เมื่อเธอได้รับโจทย์ดังกล่าวก็นำไปต่อยอด รวมถึงผสมผสานความสนใจในวัตถุดิบท้องถิ่นไทยของตัวเองลงไปด้วย “เราเรียนทำอาหาร เรียนทำขนมมาอยู่แล้ว จึงรู้เรื่องเบสิกของส่วนผสมในอาหารต่างๆ อย่างส่วนผสมปกติของชานมก็จะเป็นนมผง น้ำตาลทราย น้ำเชื่อม นมข้นหวาน พวกนี้มันเลยไม่ค่อยดีต่อสุขภาพ จึงมาคิดกันว่าถ้าใช้นมสดแทนและเปลี่ยนวัตถุดิบอื่นๆ ได้ไหม ที่มันไม่ทำร้ายเราเกินไป” จากความชอบกินและชอบขายของนาว เมื่อรวมกับความสามารถในการทำของหวานของนิว และความสนใจในวัตถุดิบไทยๆ ของเจ้นกลายเป็นไอเดียทางธุรกิจอันสนุกสนานอย่าง Cha Bar
โอกาสสำคัญที่ทำให้เกิดร้าน Cha Bar
“ตอนแรกเราไม่ได้คิดว่ามันจะใหญ่ขนาดนี้ คิดว่าทำสเกลเล็กๆ ทำเป็นขวด ขายออนไลน์ ไม่ได้ชงสดด้วยซ้ำ แต่เจ้าของโครงการ Pyti ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนมาชวนไปทำเป็นร้านใน Co-Healthy Space ของเขา ซึ่งตอนนั้นพวกเราก็ยังไม่พร้อม 100% หรอก แต่คิดว่าต้องลุยเลย เพราะว่าโอกาสแบบนี้มันไม่ได้มาหาง่ายๆ” นาวเล่าถึงจากไอเดียธุรกิจสนุกๆ เริ่มกลายเป็นเรื่องใหญ่ ภายในเวลาสองเดือนพวกเธอต้องพัฒนาสูตรเพื่อให้ได้ชานมที่โดนใจ อร่อย ขายได้ และสุขภาพดี พร้อมๆ กับเตรียมตัวเปิดร้านครั้งแรกในโครงการ Pyti Co-Healthy Space ที่สีลมซอย 3
“ตอนแรกนาวคิดว่าการทำชานมมันง่ายมาก เจ้นคงทำได้ใน 2 วัน ก็แค่ผสมเอง แต่พอเรามาประชุมเลยรู้ว่ามีรายละอียดเยอะมาก เราทำงานหนักมากกว่าจะได้ชาแต่ละแก้ว ทำทุกอย่างเองมาตั้งแต่ต้น เดินทางไปหาวัตถุดิบ ไปดูใบชาแล้วนำมาเบลนด์เอง ต้มชา ทำนมข้นหวาน ทำมุกเองด้วย” น้อยคนนักที่จะรู้ว่าชานมแต่ละแก้วของ Cha Bar ต้องผ่านการคิดและกระบวนการผลิตที่พิถีพิถันมากแค่ไหน อาจเพราะเรายังติดภาพของเหล่าร้านชานมไข่มุกแฟรนไชส์ที่เห็นมากมายทั่วทั้งกรุงเทพมหานคร เหมือนที่เจ้นบอกเราว่า “ชานมไข่มุกผุดเป็นดอกเห็ดได้เลย เพราะบางที่ทำง่ายๆ แค่ใส่ผง ใส่น้ำ แล้วเขย่าก็มี แต่มันก็ร้านที่ใส่ใจ เลือกสรรวัตถุดิบที่ดี มีขั้นตอนที่พิถีพิถันก็มีเหมือนกัน ซึ่งเราก็อยากเป็นหนึ่งในคนที่บอกว่าชานมไข่มุกที่คนทำใส่ใจมันมีจริงๆ”
ชานมทางเลือก เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า
สิ่งหนึ่งที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาหารสุขภาพคือคิดว่าเป็นอาหารลดน้ำหนัก ซึ่ง Cha Bar เองก็ถูกเข้าใจผิดไม่ต่างกัน
“ชาแต่ละเเก้วเราคำนวณเเคลอรี่ให้อยู่แล้ว แต่การกินเมนูชานมไข่มุก คุณก็ไม่ได้คิดหรอกว่ามันจะผอม เราแค่อยากให้ Cha Bar เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่สุขภาพดีกว่าที่อื่น”
นาวเล่าถึงตอนที่เธอได้ชิมชานมซึ่งพัฒนาสูตรโดยเพื่อนๆ ครั้งแรก “ตอนที่พัฒนาสูตรกัน เจ้นกับนิวก็เอาให้นาวมาลองชิม พอเราชิมก็รู้สึกทำไมมันจืดจัง จะขายได้เหรอ อาจเพราะเรายังติดรสชาติของชาที่อื่น แต่พอลองเอามากินเทียบกันจริงๆ ถึงได้รู้ว่าร้านอื่นมันหวานแค่ไหน ก็ตกใจเหมือนกันว่าที่เรากินมาตลอดมันหวานขนาดนี้เลยเหรอ ฉะนั้นสัมผัสแรกที่ได้จากชานมของเราคือมันหวานน้อยลง แต่ก็ไม่ได้ทิ้งเอกลักษณ์ยังมีความเป็นชานม อาจให้รสสัมผัสที่เบากว่า เพราะเราทำจากชาจริงๆ จากนมสดจริงๆ ส่วนผสมที่ดีกว่าที่ดีกว่าเหล่านี้ทำให้เรามองว่า Cha Bar คือทางเลือกที่ให้คุณกินชานมแบบไม่รู้สึกผิดมากได้”
เจ้นเสริมอีกว่าอยากให้มองถึงโภชนาการ ถึงคุณประโยชน์ที่แตกต่างในชานมแต่ละแก้วของ Cha Bar
“เราอยากให้ดูที่คุณค่าทางโภชนาการมากกว่าตัวเลขของแคลอรี่ อย่าง Cha Bar เราเปลี่ยนน้ำตาลทรายมาเป็นน้ำตาลมะพร้าว ก็ถือว่าได้ประโยชน์จากน้ำตาลมะพร้าวที่มีค่า GI หรือดัชนีน้ำตาลน้อยกว่าน้ำตาลทั่วไป ซึ่งมันจะส่งผลเสียต่อร่างกายเราน้อยกว่า แล้วก็ไข่มุกเรามีแป้งข้าวไรซ์เบอรรี่ซึ่งมีสารอาหารมากกว่าไข่มุกจากแป้งมันสำปะหลังแบบปกติด้วย”
วัตถุดิบจากไทย คือความภูมิใจของ Cha Bar
ทั้งสองคนบอกเราว่าอีกหนึ่งในความภาคภูมิใจในการทำ Cha Bar คือการเลือกใช้วัตถุดิบตั้งแต่ชา นม ไข่มุก และน้ำตาลที่หาได้ในประเทศไทย “นาวเคยรู้สึกว่าคนไทยเราอินกับของต่างประเทศ รู้สึกว่าอะไรที่นำเข้าก็ดีหมด เราไม่รู้เรื่องอาหารเลยในตอนแรก ก็ถามเจ้นว่าทำไมไม่เอาชาจากไต้หวัน จากญี่ปุ่นล่ะ มันไม่อร่อยกว่าเหรอ แต่พอเอามาทำจริง ตัวนาวเองรู้สึกว่ารสชาติมันต่างกันไม่มาก แถมยังมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์มากกว่า”
เจ้นเล่าว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอสนใจวัตถุดิบไทยๆ เป็นเพราะการได้ไปทำงานในต่างประเทศแล้วรู้ว่าวัตถุดิบไทยได้รับการยอมรับแค่ไหน รวมถึงแนวคิดเรื่องความยั่งยืนที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนทำอาหารด้วย
“เราเองสนใจเรื่อง zero kilometer หนึ่งในแนวคิดเกี่ยวกับอาหารยั่งยืนอยู่แล้ว คือเราเชื่อว่าไม่จำเป็นต้องไปหาวัตถุดิบที่อยู่ไกลโพ้น เพราะของที่ดีที่สุด มันคือสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด เราจึงคิดกันว่าชานมไข่มุกมันไม่จำเป็นต้องเป็นของจากไต้หวัน ไม่จำเป็นต้องไปอิมพอร์ตจากญี่ปุ่น เราสามารถหาของในท้องถิ่นมาทดแทนกันได้”
นาวได้เล่าเพิ่มเติมว่าโดยพื้นฐานเธอไม่ได้สนใจเรื่องวัตถุดิบอะไร แต่การได้มาทำ Cha Bar การที่เจ้นได้พิสูจน์ให้เห็นว่าชานมไทยมุกจากวัตถุดิบไทยๆ มันเป็นไปได้ และทำให้ความคิดของเธอเปลี่ยนไปเช่นกัน “จากคนที่ไม่ได้สนใจหรือมีความรู้เรื่องวัตถุดิบเลย พอมาทำแบรนด์นี่เราก็ได้เรียนรู้ไปด้วยว่าจริงๆ แล้วของดีมันอยู่ใกล้ตัวมากๆ ยิ่งเมืองไทยเราเป็นประเทศเกษตรกรรมอยู่แล้ว วัตถุดิบของเราก็มีดีเยอะ มันเลยเป็นความภูมิใจเล็กๆ ของตัวเองว่านี่คือชานมของคนไทยนะ ไม่ได้มีของนำเข้าจากที่ไหนเลย เวลามีคนมาถามว่านี้ของญี่ปุ่นเหรอ เราก็บอกว่าไม่ใช่ค่ะของคนไทย เขาตื่นเต้นรู้สึกว่าดีจังเลยของคนไทย เราเองก็ดีใจไปด้วย”
การถ่ายทอดเรื่องราวและคุณค่าของวัตถุดิบไทยๆ ให้คนรุ่นใหม่เข้าใจ จึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่ Cha Bar พยายามสื่อสารในช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ของพวกเธอ “หน้าที่เราคือทำอย่างไรให้คนรุ่นใหม่เปิดใจ ไม่คิดว่ามันสุขภาพดีแล้วจะดูแก่หรืออะไร โดยเราจะบอกก่อนมันมาอย่างไร เมนูนี่มาจากไหน นาวว่าคนชอบอ่านอยู่แล้ว เวลาคนอ่านรู้ว่าไอเดียนี้มาจากไหนเขาก็จะเปิดใจได้มากขึ้น พอมาเจอแพคเกจอะไรที่มันสมัยใหม่ คนเราก็จะยิ่งเปิดใจมากไปอีก สิ่งพวกนี้มีส่วนที่ทำให้วัยรุ่นคงไม่รู้สึกว่าน่ากลัวเกินไปที่จะลอง”
สุขภาพดีๆ ที่มาพร้อมเทรนด์
เปิดมาเพียงครึ่งปี Cha Bar ได้รับเสียงตอบรับดีแบบที่พวกเธอคาดไม่ถึง การย้ายสาขาจาก Pyti Co-Healthy Space มายังพื้นที่ร้านใหม่เพื่อรองรับลูกค้าให้มากขึ้นสามารถพิสูจน์ความนิยมของ Cha Bar ได้ดี “ตอนแรกเรากะจะไปลองตลาดก่อนว่าสิ่งที่เราคิดสามารถขายได้จริงๆ ไหม แต่กระแสตอบรับดีกว่าที่เราคาดไว้มากๆ ช่วงแรกๆ ที่เปิดคนอาจจะยังไม่รู้หรอกว่ามันเพื่อสุขภาพอย่างไร เขาจะแค่รู้สึกว่าอยากลองเพราะเป็นร้านใหม่ ด้วยภาพลักษณ์ที่เราตั้งใจว่าจะยังไม่ให้มันดูเฮลท์ตี้เกินไป อยากจะค่อยๆ แทรกซึม ให้คนค่อยๆ เปิดใจ แล้วอธิบายว่ามันเป็นทางเลือกให้คุณนะ เป็นชานมที่สุขภาพดี รสชาติใช้ได้ด้วยก็มีเหมือนกัน”
“แต่มันก็ไม่ใช่ว่าไม่มีข้อติเลย คนยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับคำว่าเฮลท์ตี้เยอะ แต่อย่างที่บอกไปว่าชานมเราไม่ได้ถึงขั้นกินเพื่อลดน้ำหนัก เราอยากให้มองเรื่องคุณค่าโภชนาการมากกว่า อีกอย่างคือเรื่องระดับความหวานยังเป็นปัญหาใหญ่ เพราะคนก็ยังติดความหวานแบบชานมร้านอื่นๆ มีบางคอมเมนต์ที่บอกว่าจืดแบบนี้มาขายได้ไงด้วย บางครั้งก็มีสั่นคลอนบ้าง เคยท้อเลยนะว่าทำสิ่งนี้ดีจริงไหม ทำชานมนี่ทำมาให้โดนด่าป่ะเนี่ย”
นาวเล่าถึงปัญหาที่เจอหนักๆตลอดการทำธุรกิจ 7 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเจ้นบอกว่าสิ่งที่ทำให้พวกเธอยังมีกำลังใจคือลูกค้าที่เข้าใจในธุรกิจของเธอ “แต่คนที่ชอบเราก็มีเยอะ เราเลยเอาจุดนี้มาเป็นกำลังใจในการทำธุรกิจ ส่วนเรื่องคอมเมนต์เราก็เอามาปรับปรุงเท่าที่ทำได้ด้วยเหมือนกัน เราก็อยากบอกทุกคนว่าเราเป็นน้องใหม่มากๆ ในวงการชานมไข่มุก จึงอยากให้ทุกคนลองเปิดใจและเราก็พยายามพัฒนาไปให้ได้ตามความต้องการของทุกคนด้วย”
การผสมผสานเรื่องสุขภาพกับความอินเทรนด์ให้ดูเข้าถึงง่าย ทำให้ชื่อของ Cha Bar เป็นที่คุ้นเคยของลูกค้ามากมายรวมถึงคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของเธอ “สิ่งที่เห็นได้ชัดจากการเปิดร้านคือคนรุ่นใหม่สนใจเรื่องวัตถุดิบมากขึ้น ชานมนี้ทำจากอะไรกลายเป็นคำถามยอดฮิตมากๆ สำหรับร้านเรา เราตกใจเหมือนกันว่าตลาดกลุ่มเฮลท์ตี้ค่อนข้างใหญ่ แต่ก็ดีใจด้วยเพราะได้เห็นว่า สมัยนี้ใครๆ ก็ใส่ใจสุขภาพได้ คือไม่จำเป็นต้องรอให้อายุเยอะแล้วค่อยมาใส่ใจสุขภาพ แต่เป็นวัยรุ่นเราก็รักตัวเองได้”
ลูกค้าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย ทำให้เราเห็นว่าใครๆ ก็สามารถมาดูแลสุขภาพ หันมาสนใจเรื่องการกินดี ได้เหมือนที่เจ้นบอกเราว่า
“ใครๆ ก็อยากใส่ใจสุขภาพ ถ้าคนที่รู้ว่าเรามีทางเลือกที่ดีกว่า”
ซึ่ง Cha Bar คือผู้สร้างทางเลือกนั้นเช่นกัน
Cha Bar
ชั้น 1 อาคารสีลม 64 BTS สถานีศาลาแดง
เปิดทุกวันจันทร์-เสาร์ เวลา 8:00-20:00 น.
FB: www.facebook.com/chabarbkk