ขยะอาหารกำลังเป็นปัญหาใหญ่ของโลก อาหารหลายล้านตันที่ถูกทิ้งกลายเป็นกองขยะเน่าเสียคือหนึ่งในสาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อน เพราะกองขยะเหล่านี้จะปล่อยก๊าซมีเทนออกมาผ่านขั้นตอนการย่อยสลายของอาหาร และปัญหาขยะอาหารจำนวนมหาศาลนี้เกิดจากการกินเหลือของผู้บริโภคมากที่สุด!
ปัจจุบัน คนไทยเราสร้างขยะต่อคนมากกว่า 1.14 กิโลกรัมในทุกๆ วัน และกว่า 50% เป็นเศษอาหารผัก ผลไม้ ฯลฯ ซึ่งขยะเหล่านี้มักจะไม่ได้รับการจัดการที่เหมาะสม ทำให้กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ส่งกลิ่นเหม็น และสร้างก๊าซมีเทนที่ก่อให้เกิดปัญหาสภาพแวดล้อมตามมาอีกมากมาย
การจัดการขยะให้ได้ตั้งแต่ในบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรให้ความสนใจ ซึ่งหนึ่งในวิธีการที่ได้ผลที่สุดคือการนำเศษอาหารทั้งหลายไปหมักทำเป็นปุ๋ยชีวภาพ แต่หลายคนมักจะกังวลเรื่องกลิ่นและแมลงต่างๆ หรือบางบ้านก็ไม่มีพื้นที่จะทำกองปุ๋ยหมักจริงๆ จังๆ เราจึงจะมาแนะนำตัวช่วยที่ทำให้ทุกบ้านสามารถทำปุ๋ยได้ง่ายๆ แม้แต่คนเมืองที่ใช้ชีวิตในพื้นที่จำกัด
Bio Trash กล่องปุ๋ยกระทัดรัด เพื่อครัวเรือนระดับเล็ก
หลังจากที่คลุกคลีอยู่กับการเปิดฟาร์มไส้เดือน สร้างกิจกรรมเวิร์กช็อปให้คนเมืองได้มาเรียนรู้วิถีการเลี้ยงไส้เดือนดิน เพื่อเปลี่ยนเศษอาหารให้การเป็นปุ๋ยคุณภาพดีมาอย่างยาวนาน ลุงรีย์-ชารีย์ บุญญวินิจ ก็พบว่ายังมีคนจำนวนมากที่อยากจัดการกับขยะอินทรีย์ แต่กลัวไส้เดือนและมีพื้นที่จำกัด ทำให้ไม่สามารถหมักปุ๋ยแบบเปิดเหมือนที่เขาทำได้ จึงเกิดเป็นไอเดียในการทำกล่องเศษอาหารที่ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการขยะ
เขาได้ร่วมมือกับอรรถ (อรรถพล ไชยจักร) เจ้าของไร่หลังฉาง Farm Behind the Barnในการออกแบบและพัฒนา Bio Trash ถังหมักขนาดกระทัดรัดที่สามารถจุอาหารได้ประมาณ 20 กิโลกรัม เหมาะกับครอบครัวเล็กๆ หรือคนที่อาศัยอยู่คนเดียว ที่ได้ไอเดียมาจากวิธีการหมักแบบโบกาฉิหรือการหมักแห้งแยกน้ำ โดยทำกล่องเป็น 2 ชั้น ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่น เพื่อให้คนเมืองที่อาศัยอยู่ในคอนโดสามารถใช้งานได้
Bio Trash สามารถหมักได้ง่ายๆ โดยการนำเศษอาหารที่กินเหลือในแต่ละวันมากรองน้ำออก จากนั้นนำเศษอาหารใส่ในถัง เมื่อเศษอาหารเต็ม 1 ชั้นให้นำ Starter ที่แถมมาด้วยกลบบางๆ ให้เศษอาหารกับสตาร์ทเนอร์ซ้อนกันเป็นชั้นๆ เมื่อใส่เศษอาหารจนเต็มถังแล้ว ให้ใส่ Finishing A ที่ด้านบน และยกถังใบบนขึ้น แล้วใส่ Finishing B ลงไปในถังใบล่างที่มีก็อกและกรองน้ำส่วนเกินจากถังเศษอาหารเพื่อลดกลิ่นและปรับสภาพให้เป็นปุ๋ยน้ำคุณภาพดี จากนั้นรอประมาณ 30 วัน ก็จะได้ปุ๋ยหมักและน้ำหมักมาใช้งาน
กล่อง Bio Trash 1 ชุด ประกอบไปด้วยถังย่อยขยะ 1 ชุด (ถัง 2 ใบซ้อนกัน) Starter ตัวช่วยย่อยสลาย 2 ถุง ตะแกรงย่อย 1 ใบ Finishing A จุลินทรีย์ตัวปิดจบปุ๋ยหมัก Finishing B แบคทีเรียน้ำหมัก และคู่มือสอนการใช้งาน 1 ชุด สนนราคา 1,500 บาท เหมาะกับมือใหม่หัดหมักมากเลยทีเดียว
FB: www.facebook.com/unclereefarm
ปั้นปุ๋ย ถังดินเผาใช้งานง่าย สำหรับครอบครัวขนาดกลาง
กระถางหมักปุ๋ยจากหน้าตาดีจาก ผักDone ธุรกิจเพื่อสังคมที่ต้องการส่งเสริมให้แต่ละบ้านสามารถจัดการขยะได้ด้วยตัวเองนี้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต่อยอดมาเพื่อเพิ่มตัวเลือกให้กับผู้ที่อยากจัดการเศษอาหารภายในบ้านจากกล่องรุ่นบุกเบิก
นิต้า-มานิตา วิวัฒน์เศรษฐชัย เจ้าของไอเดียปั้นปุ๋ยบอกว่า ผลิตภัณฑ์แรกของ ผักDone อย่างกล่องพลาสติกหมักปุ๋ยขนาดบรรจุ 40 ลิตร แม้จะใช้งานได้ดี แต่ก็ยังเห็นปัญหาบางอย่างซึ่งสะท้อนจากผู้ใช้ ทั้งในแง่รูปลักษณ์ที่ไม่สวยงาม ความไม่สะดวกในการใช้งานที่ต้องคอยเปิดฝากล่อง คอยพลิกเศษขยะดูความชื้น ซึ่งลูกค้ามือใหม่ที่ยังผสมเศษอาหารไม่ดีพอ ก็เสี่ยงที่จะเกิดความแฉะและเน่าตามมาได้ เมื่อเกิดปัญหาทำให้บางคนเลิกทำไปเลย จึงคิดหาเครื่องมือตัวเลือกที่น่าใช้และแก้ปัญหาได้ซึ่งนั่นก็คือถังดินเผาอย่างปั้นปุ๋ย
ถังดินเผาปั้นปุ๋ยนั้นมีระบบการทำงานไม่ต่างจากถังหมักปุ๋ยทั่วไป คือต้องนำเศษอาหารที่ผ่านความพยายามทำให้มันแห้งที่สุดมาคลุกกับ Compost หรือวัสดุตั้งต้นซึ่งแถมมาพร้อมกัน ประกอบด้วยเศษใบไม้ กากกาแฟ ปุ๋ยคอก และดินใบก้ามปู โรยน้ำตาลและหัวเชื้อที่แถมมาเช่นกันลงไป ทุกครั้งก่อนเทลงถัง จากนั้นปิดฝาทิ้งไว้ข้อดีคือไม่ต้องคอยพลิกปุ๋ยขึ้นมาดูความแฉะ เพราะดินเผาจะระบายความชื้นได้ดี ถ้าเกิดปัญหาเช่นแห้งไปแล้วขยะไม่ย่อย ก็สามารถแก้ได้ด้วยการพรมน้ำช่วย
ถังปั้นปุ๋ยนี้นอกจากจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ง่าย ยังสามารถเป็นของตกแต่งบ้านได้ด้วย เป็นการออกแบบที่สามารถลบภาพจำของกล่องหมักปุ๋ยใบโต ซึ่งถังปั้นปุ๋ย 1 ชุดนั้น สามารถรองรับขยะได้ประมาณวันละ 1 กิโลกรัม สามารถหมุนเวียนได้พอดีเหมาะกับครัวเรือนละขนาดกลางที่ทำอาหารกินเองในราคา 3,000 บาท
ซึ่งทางผักDone บอกว่าในอนาคตจะมีถังขนาดเล็กลงเหมาะกับคนโสดที่ใช้ชีวิตในคอนโดมาจำหน่ายด้วยเช่นกัน
FB: www.facebook.com/pg/PakDoneThailand
ถังหมักง่าย ถังหมุนใบใหญ่ เหมาะกับการใช้ทั้งครอบครัวขนาดใหญ่
จากความตั้งใจจะหาตัวช่วยที่ทำให้คนในครอบครัวลดความมักง่ายในการเอาเศษอาหารไปทิ้ง แล้วหันมาหมักปุ๋ยจากเศษอาหารได้ง่ายๆ กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์หมักง่าย อาร์ม อัศวรักษ์ เจ้าของแบรนด์บอกว่าเขาเองได้ทดลองใช้กล่องหมักปุ๋ยมาอย่างหลากหลาย แต่ปัญหาที่ยังเจอคือการใช้กล่องหมักปุ๋ยที่มีขายในตอนนี้ส่วนใหญ่ยังมีปัญหาเรื่องกลิ่นและความแฉะทำให้คนในบ้านไม่อยากช่วยหมักปุ๋ยสักเท่าไหร่
จนได้เจอกับถังหมักปุ๋ยแบบหมุนซึ่งเป็นโมเดลจากสหรัฐอเมริกา ที่มีจุดเด่นคือไม่ต้องคลุกเศษอาหารกับจุลินทรีย์ภายนอก ไม่ต้องเปิดฝาเพื่อเช็กดูความแฉะ สามารถนำเศษอาหารที่แยกน้ำออกมาใส่เข้าไปในถังได้เลย โดยใช้การหมุนกล่องเพื่อผสมวัตถุดิบและนำอากาศเข้าไปแทน ทำให้หมดปัญหาเรื่องความชื้นแฉะและขี้เกียจคลุกเศษอาหาร ที่สำคัญคือได้ปุ๋ยรวดเร็วใช้เวลาหมักเพียง 20-30 วันเท่านั้น
ถังหมักง่าย 1 ใบนั้นแบ่งออกเป็น 2 ช่องมีความจุช่องละ 80 ลิตร ทำให้สามารถรองรับอาหารได้มากกว่า 2 กิโลกรัมต่อวัน จึงเหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่มีสมาชิก 5-6 คน ที่ทำอาหารกินเองได้สบายๆ แต่เงื่อนไขที่ต้องมีคือพื้นที่ภายในบ้านเนื่องจากถังมีขนาดค่อนข้างใหญ่หากเทียบกับถังอื่นๆ ถังหมักง่าย 1 ใบสนนราคาอยู่ที่ 3,290 บาท ซึ่งลูกค้า 100 คนแรกจะได้รับแถมส่วนผสมของแห้งจำนวน 20L มาใช้งานด้วย