นิยามคำว่า ‘กินดีอยู่ดี’ สำหรับย่านสุขุมวิท ไล่ตั้งแต่อโศก พร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย อาจจะหมายถึงการที่ย่านนี้อุดมไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้า และซูเปอร์มาร์เก็ตสุดหรูสำหรับคนเมือง แต่ถ้าได้ลองเสาะหาดีๆ จะพบว่าย่านสุขุมวิทยังเป็นแหล่งรวมร้าน ‘กินดีอยู่ดี’ ที่ใส่ใจต่อสุขภาพจริงๆ ในหมวดที่หลากหลายเหลือเกินอีกด้วย เราจึงขอรวบรวม 5 ร้านดีในดวงใจในแต่ละหมวดมาแนะนำ ครั้งหน้าไปเที่ยวสุขุมวิทจะได้มีตัวเลือกใหม่ๆ ที่ควรค่าแก่การเคาะประตูทำความรู้จักกันเอาไว้

หมวดกินคลีน

Mix & Munch
พิกัด: ปากซอยสุขุมวิท 20
เวลาเปิด: ทุกวัน 8.30-21.30 น.
เมนูแนะนำ: ข้าวไรซ์เบอร์รี่สลัดทูน่าราดซอสซีฟู้ดวาซาบิ

ทำไมพูดถึงอาหารคลีนถึงต้องนึกถึงไก่ต้มจืดๆ? ทำไมอาหารคลีนถึงไม่ค่อยมีหน้าร้านให้นั่งกิน? คำถามทั้งหมดที่ว่ามานี้สะกิดให้ แมน-ถิรธร เบญจรงคกุล ตัดสินใจหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแบบเพื่อสุขภาพที่ชื่อ Mix & Munch ขึ้น ไอเดียของร้านสร้างสรรค์ขึ้นจากปัญหาของกลุ่มเป้าหมายคือ คนออกกำลังกายและคนลดความอ้วนแต่ละคนมีหลักในการเลือกกินอาหารไม่เหมือนกัน ดังนั้น ลูกค้าของร้านจะต้องมีสิทธิเลือกส่วนผสมทุกอย่างในจานของตัวเอง เริ่มจากหมวดคาร์โบไฮเดรต (ข้าวขาว ข้าวไรซ์เบอร์รี่ พาสต้า) โปรตีน (ไก่ หมู เนื้อ ปลา) ซอสก็มีให้เลือก 6 แบบ (รับรองว่าไม่จืด) ตามด้วยผักที่มีทั้งแบบปรุงและสด ซึ่งทุกส่วนผสมที่เลือกทางร้านจะมีตัวเลขพร้อมคำนวณให้ว่าจานอาหารที่เรากินเข้าไปมีแคลอรี่สิริรวมเท่าไหร่ นอกจากจะมีที่นั่งให้กินในร้านสบายๆ ยังสั่งเดลิเวอรี่ใส่กล่องชานอ้อยไปกินที่ออฟฟิศหรือที่บ้านก็ได้ เหมาะกับคนเมืองยุคนี้ที่ชีวิตมีเรื่องให้วุ่นวายมากมายแต่ก็ยังใส่ใจสุขภาพไปด้วยในเวลาเดียวกัน

หมวดปลอดสารพิษ

Sustaina Organic Shop & Restaurant
พิกัด: ซอยสุขุมวิท 39
เวลาเปิด: ทุกวัน 9.30-20.30 น.
เมนูแนะนำ: ราชาเต้าหู้ 4 อย่าง

สำหรับเราร้านนี้คืออาณาจักรออร์แกนิกขนาดย่อม เพราะมาทีเดียวได้ทั้งกินและช้อปของดีในเวลาเดียวกัน เจ้าของร้านคืออดีตผู้บริหารชาวญี่ปุ่น โช โอกะ ผู้พลิกชีวิตมาทำไร่ปลูกผักออร์แกนิกที่ปากช่องเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน ล้มลุกคลุกคลานถึงขั้นต้องขายบ้านที่ญี่ปุ่นมาทำไร่ ปัจจุบันกลายเป็นเจ้าของฟาร์มที่แปรรูปผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกภายใต้แบรนด์ Harmony Life ที่ติดตลาดไทยและตลาดโลกหลายอย่าง (อาทิ บะหมี่ผักโมโรเฮยะ) และมีหน้าร้าน Sustaina แห่งนี้เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตปล่อยของ ส่วนชั้น 2 เป็นโซนร้านอาหารที่เกิดขึ้นเพื่อให้คนได้ลิ้มรสด้วยตัวเองว่าอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบปลอดสารพิษมันอร่อยกว่ายังไง เมนูเป็นสไตล์ญี่ปุ่นแบบฟิวชั่นที่คิดมาเป็นพิเศษไม่เคยเห็นที่ไหน แถมฝีมือเชฟก็ถูกปากเราจริงๆ เมนูที่พลาดไม่ได้คือทูน่ารมควันชาปลอดสาร และราชาเต้าหู้ ที่รวมเอาน้ำเต้าหู้ เต้าหู้เหนียว เต้าหู้สด ฟองเต้าหู้ไว้ในชามเดียวกันแล้วอร่อยเฉย!

หมวดซูเปอร์ฟู้ด

Brekkie
พิกัด: ซอยสุขุมวิท 49/11
เวลาเปิด: ทุกวัน 9.00-18.00 น.
เมนูแนะนำ: Acai Bowl

ร้านอาหารแนวซูเปอร์ฟู้ดที่มาถูกเวลามากๆ แถมบรรยากาศในร้านยังน่ารักน่านั่งนานแห่งนี้ เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจของเจ้าของร้านที่เป็นคนชอบออกกำลังกายและชอบทำอาหารสุขภาพกินเอง พอเจอทำเลที่ดีย่านสุขุมวิทและจังหวะที่ใช่ จึงตัดสินใจเปิดร้าน Brekkie ขึ้น เมนูอาหารที่นี่เลือกใช้ส่วนผสมและวัตถุดิบที่มีสารอาหารสูงหรือที่เรียกกันว่า superfood ได้แก่คีนัว ผัก และผลไม้แต่มาปรุงให้มีรสชาติทั้งแบบไทยและแบบฝรั่งผสมผสานกัน โดยคุณเบิร์ด-ธีรภพ มั่นเจริญ ผู้จัดการร้าน ได้แนะนำเมนูสุดแซ่บให้กับเรานั่นก็คือ คีนัวผัดต้มยำแห้งและแซลม่อนหั่นเต๋า ต่อด้วย superfood bowl หรือผลไม้ปั่นรวมแบบเข้มข้นชามใหญ่บึ้มที่ชื่อ Acai bowl มีส่วนผสมหลักเป็นเบอร์รี่รสเปรี้ยวสดชื่นได้ใจ ปิดท้ายด้วยน้ำผลไม้สกัดเย็นสูตรเฉพาะของร้าน บอกเลยว่ากลับบ้านไปแล้วรู้สึกขับถ่ายคล่องแบบสุขภาพดีมากๆ

หมวดผลิตภัณฑ์ปลอดภัย

Oleaf organic
พิกัด: ซอยสุขุมวิท 49/11
เวลาเปิด: อังคาร-อาทิตย์ 10.00-18.00 น.

ตอนแรกเดินผ่านอาจไม่ได้สนใจอะไร แต่ถ้าแวะเข้าไปจะพบว่านี่คือขุมทรัพย์ชัดๆ เพราะที่ Oleaf Organic รวมผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกสุดละมุนละไมทั้งแบรนด์ไทยและเทศไว้เยอะมากๆ จนเราตกใจว่าอัดแน่นอยู่ในร้านขนาดคูหาเดียวได้ยังไง ร้านนี้ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มเพื่อนที่รักในวิถีธรรมชาติ เลยคัดสรรผลิตภัณฑ์หลากหลายหมวดที่เน้นคุณภาพ ทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ใช้ในบ้าน สเปรย์ เทียนหอม ขนม อาหาร ชา กาแฟ ยาดม ยันของใช้เพื่อสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณ แต่หมวดที่เรา (และสาวๆ) น่าจะปลื้มที่สุดในร้านที่หมวดเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีให้เลือกหลากหลาย หลายชิ้นเราก็ไม่เคยรู้ว่ามีแบบออร์แกนิกหรือปลอดภัยให้เลือกด้วย เรียกว่าเข้าร้านนี้มีเดินเลือกเดินลองกันจนตาลายได้เลยแหละ

หมวดผลไม้และผักสด

Mizuho
พิกัด: ซอยสุขุมวิท 42
เวลาเปิด: ทุกวัน 9.30-18.00 น.
รายการแนะนำ: เมล่อนญี่ปุ่นส่งตรงจากจังหวัดอิราบากิ

ร้านขายผักผลไม้ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในซอยหายากสักหน่อย แต่คุ้มค่าแก่การบุกตะลุยเข้าไปหา เพราะหลังจากได้คุยกับคุณยูมิ อิกุจิ เจ้าของร้านคนปัจจุบันทำให้เราได้รู้ว่าร้านขายผักชื่อ Mizuho แห่งนี้ไม่ธรรมดา แต่เป็นถึงเครือข่ายที่คิดค้นโดยเกษตรกรชาวญี่ปุ่น สร้างระบบให้เกษตรกรเป็นสมาชิก ขายของดีในราคาที่เป็นธรรมต่อตัวเกษตรกรเอง คือยิ่งของมีคุณภาพดีเท่าไหร่ยิ่งขายได้ในราคาที่แพงขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้ดีและมีกะจิตกะใจจะปลูกผักผลไม้ปลอดสารพิษให้คนกินมากขึ้น แม้จะไม่ได้ออกตัวว่าผักผลไม้สดทุกชนิดในร้านเป็นออร์แกนิกแบบเต็มปาก แต่รับรองว่าปลอดสารพิษในระดับมาตรฐานการตรวจสอบของประเทศญี่ปุ่น โดยผักผลไม้ขายดีของร้านคือ สตรอว์เบอร์รี่ เมล่อน องุ่น พีช เชอร์รี่ มันม่วง มะเขือเทศ ซึ่งจะมีตามฤดูกาล โดยผลไม้สดเหล่านี้จะส่งตรงจากสนามบินญี่ปุ่นวันพุธและมาถึงไทยแบบสดมากทุกวันพฤหัส ติดตามตารางผักผลไม้ได้ที่เพจเฟซบุ๊กของร้าน ใครกลัวหมดสั่งจองล่วงหน้าได้ด้วยนะ

ภาพถ่าย: ดวงสุดา กิตติวัฒนานนท์, กานต์ ตันติวิทยาพิทักษ์