เบื่อที่ต้องกินแต่อาหารแบบเดิมๆ ซ้ำซากทุกวัน เดินเข้าร้านตามสั่งนึกไม่ทันก็จิ้มแต่เมนูเก่าๆ อยากสุขภาพดีเหมือนคนอื่นเขาแต่ก็เบื่ออาหารคลีนสีจืดชืด ฯลฯ … เหล่านี้คือปัญหาที่คนส่วนใหญ่เผชิญในทุกๆ วัน ทำให้ ‘กินดี’ ไม่ได้สักที

Greenery อยากเห็นทุกคนสุขภาพดี ด้วยการเลือกกินอาหารที่ดี ที่สำคัญต้องอร่อย และถ้าสร้างสรรค์ได้ด้วยก็ยิ่งดี เราเลยหยิบเอาแนวคิดเรื่อง ขบวนการผักผลไม้ 5 สี มาแนะนำให้ทุกคนลองเอาไปใช้ เก็บไว้เป็นตัวช่วยเพื่อให้ ‘เลือกกิน’ และ ‘เลือกทำ’ อาหารมื้อถัดๆ ไปมีสีสันสดใสและสนุกกว่าที่เคย

ทำไมต้องครบ 5 สี

หลายคนรู้ว่าการกินผักนั้นดีต่อร่างกาย องค์การอนามัยโลกชี้ว่าการ กินผักผลไม้วันละ 400 กรัมขึ้นไป ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อาทิ ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ ขาดเลือด ลดอาการเส้นเลือดในสมองตีบ ลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งกระเพาะอาหาร ลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปอด ลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งลำไส้ ฯลฯ

โดยองค์การอนามัยโลกเองก็กำหนดไว้ด้วยว่าในผักผลไม้ 400 กรัมที่เราควรกิน ต้องประกอบด้วยเมล็ดธัญพืชและถั่วไม่น้อยกว่า 30 กรัม และต้องเป็นผักไม่รวมแป้ง เช่น มันฝรั่ง มันสำปะหลัง นั่นแปลว่าเราจะเลือกกินแต่ผักที่เราชอบอย่างเดียวซ้ำๆ ก็ไม่ได้

การเลือกกินแต่ผักเดิมซ้ำๆ นอกจากจะน่าเบื่อ ยังได้คุณค่าไม่ครบถ้วนเท่าที่ร่างกายต้องการอยู่ดี เพราะที่จริงแล้ว ผักหลากหลายสีนั้นธรรมชาติสร้างให้มีสารอาหารที่แตกต่างกัน ไม่ใช่แค่ความสวยงาม หรือความอร่อย แต่เพื่อมาช่วยกันรวมพลังในการดูแล รักษา และป้องกันร่างกายเราจากโรคร้ายนั่นเอง


ฮีโร่สีแดง
พลังพิเศษ: ไลโคพีน

ผักผลไม้สีแดงที่พบบ่อย ได้แก่ มะเขือเทศ แตงโม ทับทิม แก้วมังกร สตรอว์เบอร์รี่ ราสป์เบอร์รี่ ดอกกระเจี๊ยบ เชอร์รี่ เมล็ดทับทิม หัวบีท

พระเอกของผักผลไม้สีแดงที่คนโบราณเชื่อกันว่ากินแล้วผิวสวย ตาใส ก็คือมะเขือเทศ เหตุผลของความเชื่อนี้อธิบายได้ว่า มันคือพลังของสารไลโคพีน (Lycopene) ในผักผลไม้สีแดง ซึ่งมีฤทธิ์ต้านสารอนุมูลอิสระสูง มากกว่าวิตามินอี 100 เท่า และมากกว่ากลูตาไธโอนถึง 125 เท่า ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งต่างๆ รวมถึงยังช่วยให้ภาวะผิดปกติของร่างกายดีขึ้นได้ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคกระดูกพรุน


ฮีโร่สีเขียว
พลังพิเศษ: คลอโรฟิลล์

ผักผลไม้สีเขียวที่พบบ่อย ได้แก่ คะน้า ผักบุ้ง ผักโขม ผักปวยเล้ง ผักกาดหอม แตงกวา กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ใบชะพลู บวบ ขึ้นฉ่าย กุยช่าย ชะอม สะตอ

เราอาจจะรู้จักคำว่าคลอโรฟิลล์ในวิชาวิทยาศาสตร์ ซึ่งเจ้าสารคลอโรฟิลล์ในผักใบเขียวที่เกิดจากการสังเคราะห์แสงของพืชนี่แหละ เชื่อกันว่าเมื่อร่างกายเรารับเข้าไปจะเป็นสารตั้งต้นให้ในการสร้างเม็ดเลือดแดงให้กับร่างกาย กินแล้วจึงรู้สึกสดชื่น แถมยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันเซลล์ในร่างกายถูกทำลาย นอกจากสารตัวนี้ ในผักใบเขียวยังมีสารประกอบอื่นๆ เช่น ลูทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งอีกด้วย


ฮีโร่สีส้ม-เหลือง
พลังพิเศษ: เบต้าแคโรทีน

ผักผลไม้สีส้ม-เหลืองที่พบบ่อย ได้แก่ มะละกอ แครอท ฟักทอง มันเทศ ส้ม สับปะรด ขนุน ลูกพลับ มะนาว มะยม มะม่วง ทุเรียน ขมิ้นชัน เสาวรส

บางคนถูกสอนมาว่ากินแครอทแล้วตาสวย เหตุผลก็คือในผักสีส้มและสีเหลืองมีสารเบต้าแคโรทีนอยู่มาก ซึ่งเป็นวิตามินชนิดหนึ่งที่เป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ยังมีสารฟลาโวนอยด์ และสารลูทีน รักษาสุขภาพของหัวใจและหลอดเลือด ดูแลระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย


ฮีโร่สีม่วง-น้ำเงิน
พลังพิเศษ: แอนโทไซยานิน

ผักผลไม้สีม่วง-น้ำเงินที่พบบ่อย ได้แก่ กะหล่ำปลีสีม่วง มันสีม่วง เผือก องุ่นแดง ชมพู่ม่าเหมี่ยว ชมพู่แดง ลูกหว้า ลูกพรุน ลูกเกด ข้าวแดง มะเขือม่วง หอมแดง บลูเบอร์รี่ อัญชัน

ผักผลไม้สีม่วงมาแรงจริงๆ ในยุคนี้ ไม่ว่าจะมันม่วง มัลเบอร์รี่ หรือไรซ์เบอร์รี่ก็กลายเป็นสินค้ายอดนิยมของคนยุคปัจจุบัน เหตุผลที่คนเชื่อกันว่ากินแล้วดี เพราะในผลผลไม้สีม่วงมีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งมีส่วนช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตันในสมอง และยังยับยั้งเชื้ออีโคไลในทางเดินอาหารได้ด้วย


ฮีโร่สีขาว-น้ำตาล
พลังพิเศษ: ฟลาโวนอยด์

ผักผลไม้สีขาว-น้ำตาลที่พบบ่อย เช่น ลูกเดือย ขิง ข่า กระเทียม หัวไชเท้า งาขาว เมล็ดงา พุทรา ลางสาด แห้ว ลองกอง เงาะ ลิ้นจี่ ละมุด

ผักกลุ่มนี้มักพบในธัญพืชและผลไม้บางชนิด แม้สีจะไม่สดใส แต่ก็มีประโยชน์เด่นๆ คือสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ช่วยสร้างเซลล์ให้แข็งแรง ยับยั้งการเกิดเนื้องอกและลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็ง ต้านการอักเสบ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต ป้องกันเส้นเลือดอุดตัน ลดไขมันในเลือด รักษาระบบภูมิคุ้มกัน

สูตรง่ายๆ ของ ‘ขบวนการผักผลไม้ 5 สี’

หลักง่ายๆ ในการเข้าร่วมขบวนการผักผลไม้ 5 สี เพียงแค่คิดคำนวณให้อาหารแต่ละมื้อ แต่ละจาน ที่เรากำลังจะกินเข้าไป มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  • ในแต่ละมื้อ พยายามเลือกเมนูที่มีผักผลไม้เยอะสีมากที่สุด ได้ครบทั้ง 5 สียิ่งดี
  • กวาดสายตาดูว่า ในจานของเรามีผักอยู่ถึง 50% ของอาหารทั้งหมดในจานรึยัง เพื่อให้ครบ 400 กรัมต่อวัน
  • พยายามทำความรู้จักผักผลไม้ให้ครบทั้ง 5 สี สอดส่องมองหาไม่ว่าจะที่ตลาด ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านอาหาร ยิ่งเจอผักผลไม้สีสันแปลกใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งถือว่าบรรลุเป้าหมาย
  • ถ้าซื้อผักผลไม้มาปรุงเองจำนวนมาก แนะนำให้ล้างด้วยสารโซเดียมไบคาร์บอเนต (ผงฟู) 1/2 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 10 ลิตร ล้างด้วยน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 4 ลิตร แช่ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างผักผลไม้อีกครั้งด้วยน้ำสะอาด

และถ้าคุณเป็นนักปรุงที่มีหัวสร้างสรรค์แล้วล่ะก็ กรีนเนอรี่อยากขอเชิญชวนให้มาร่วมประกวดประกวดเมนูอาหารสุขภาพดีที่มีส่วนประกอบของผักผลไม้ 5 สี ในโครงการ Greenery Eat-Good Recipe Contest ถ้าได้เป็น 1 ใน 8 จานเด็ดที่ถูกใจกรรมการจะได้รับรางวัลสุดพิเศษ ติดตามรายละเอียดได้ในลิงก์ www.greenery.org/contest เลย!

ที่มาข้อมูล: http://resource.thaihealth.or.th/media/thaihealth/17125