ฝุ่นควัน รถติด ไวรัส และปัญหาอีกมากมายที่ต้องเผชิญอยู่ทุกๆ วัน คงทำให้คนเมืองหลายคนเหนื่อยล้าอยากหนีเข้าป่าไปพักผ่อนชุบชูร่างกาย แล้วจะดีแค่ไหนถ้าการเดินทางท่องเที่ยวของเราไม่เพียงแค่ได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด แต่ยังได้กินอาหารดีๆ เรียนรู้วิธีการปรุงวัตถุดิบปลอดภัยจากเชฟผู้เชี่ยวชาญ

เรากำลังพูดถึง Feast in the Forest หรือ วเนสัมโภชนัม (แปลว่าการเฉลิมฉลองด้วยอาหารในป่า) กิจกรรม food camp ที่ชวนคนเมืองมาตั้งเต็นท์ ทำและอาหารดีๆ นอนฟังเสียงน้ำและดนตรีเบาๆ ซึ่งจัดขึ้นโดยกลุ่ม Slow Food Youth Network Thailand การรวมตัวของคนรักอาหารดีทั่วไทยที่มักจัดกิจกรรมสื่อสารความรู้ความเข้าใจเรื่องอาหารและระบบอาหารให้กระจายสู่สังคมอยู่เสมอมา

“พวกเราเป็นกลุ่มที่เคยจัดงานกิจกรรมมาหลายครั้ง เช่นงาน Super freak new year party, Good Seed Good Food ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ชวนเชฟชวนคนเมืองมากินอาหารดีในรูปแบบที่ต่างกันไป ในช่วงหยุดยาวอย่างเช่นปีใหม่ เราจึงอยากสร้างกิจกรรมที่ชวนให้คนได้มาเที่ยว เข้าป่า ทำอาหารแบบช้าๆ เพราะเรารู้สึกว่าการทำครัวแบบต่อนยอนของเรามันช่างเหมาะกับป่าเขา” มะเป้ง-พงษ์ศิลา คำมาก หนึ่งในทีมผู้จัดบอกกับเราว่ากิจกรรมของ Feast in the Forest ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่าตื่นมาเตรียมวัตถุดิบ ทำอาหาร จากนั้นก็นั่งฟังเสียงลำธาร มองใบไม้ร่วงระหว่างที่นั่งรออาหารมื้อต่อไป

นอกจากการปรุงอาหารแบบสโลว์ฟู้ด อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของกิจกรรม Feast in the Forest คือการเลือกใช้วัตถุดิบอินทรีย์ในท้องถิ่นเป็นหลัก เพื่อให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้รู้จักที่มาของอาหาร อย่างกิจกรรมที่ผ่านมาที่จัด ณ ค่ายเยาวชนดอยหลวงเชียงดาว วัตถุดิบส่วนใหญ่จึงเป็นวัตถุดิบในฤดูกาลของเชียงใหม่ มะเป้งบอกเราว่านอกจากจะทำให้ได้กินอาหารปลอดภัยและช่วยลดภาระให้สิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน

“ปกติที่เราไปงานเฟสติวัลหรือจัดอีเวนต์ต่างๆ จะเห็นว่าอาหารที่อยู่ในงานมีแค่ 2-3 เมนูเองที่ทำมาจากวัตถุดิบท้องถิ่น ที่เหลือมันมาจากที่อื่น ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้นอกจากจะไม่สดใหม่แล้ว ยังมีต้นทุนในการขนส่ง ต้นทุนทางสิ่งแวดล้อมเช่นขยะต่างๆ ด้วย เราจึงรู้สึกว่าถ้าเรากินอะไรที่เป็นพื้นบ้าน มันจะช่วยลดต้นทุนของอาหารได้ ที่สำคัญคือได้ช่วยเกษตรกรคนเล็กๆ ในพื้นที่ได้ด้วย”

นอกจากจะได้ดื่มด่ำธรรมชาติ กินอาหารจากวัตถุดิบดีๆ ในท้องถิ่นที่ผลิตตามฤดูกาลแล้ว Feast in the Forest ยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อปทำอาหารกับคนในเครือข่าย Slow Food Youth Network ด้วย 

“หลายๆ คนชอบคิดว่าการทำอาหารเป็นเรื่องยุ่งยาก ต้องใช้อุปกรณ์เยอะๆ แต่ถ้ามาแคมป์ปิ้งกับเราจะเห็นว่าอาหารบางอย่างแทบจะไม่มีอุปกรณ์เลย มีแค่เตาถ่านก็สามารถทำอาหารได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นของคาว ของหวาน หรือขนมปัง” 

“ที่ผ่านมาเรานำเสนอวัตถุดิบดีๆ วัตถุดิบพื้นบ้านไป แต่คนก็ไม่รู้จะทำอะไร เราเลยอยากทำกิจกรรมที่ชวนให้เขามาทำกินเอง ให้เห็นว่ามันไม่ยุ่งยาก แล้วถ้าเราทำอาหารเป็นเราก็จะรู้ว่าเราสามารถซื้อวัตถุดิบดีๆ มาปรุงได้”

“จริงๆ แล้ววัตถุดิบท้องถิ่น วัตถุดิบอินทรีย์เดี๋ยวนี้มันหาง่ายมากโดยเฉพาะกับคนเมือง ถ้าเขารู้สึกว่าการทำอาหารไม่ได้ยาก เป็นกิจกรรมที่สนุกได้ด้วย ก็คงจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาสนใจซื้อวัตถุดิบดีๆ เพื่อไปปรุงอาหารกินเองมากขึ้น”

มะเป้งบอกกับเราว่า Feast in the Forest กำลังจะมีกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้เช่นกัน แต่จะเป็นกิจกรรมอะไรสามารถติดตามได้ที่ Feast in the forest วเนสัมโภชนัม หรือ Slow Food Youth Network Thailand

ภาพถ่าย: พงษ์ศิลา คำมาก