ใกล้เทศกาลปีใหม่แล้ว อยากชวนมาทำขนมอบง่าย ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้กันค่ะ คุกกี้แป้งข้าวหอมมะลิ ที่จะชวนคุณมาลองทำกันนี้มีคุณค่าทางกายและคุณค่าทางใจเมื่อส่งมอบให้คนที่เรารัก แทนความห่วงใย

คุกกี้หน้าตาธรรมดาทว่าเราซ่อนความพิเศษไว้ตรงวัตถุดิบที่เลือกมาใช้ เพราะปกติคุกกี้ทั่วไปจะมีแป้งสาลีเป็นส่วนผสมหลัก บ้างใช้แป้งอเนกประสงค์ บ้างก็ใช้แป้งเค้ก หรือใช้แป้งทั้งสองชนิดผสมกัน แต่วันนี้คุกกี้เนื้อนุ่ม (Soft Cookies) ที่จะพาคุณผู้อ่านมาลองทำกัน เราเลือกใช้แป้งข้าวหอมมะลิมาทดแทนแป้งสาลี ที่สำคัญยังเป็นแป้งข้าวออร์แกนิกจากจังหวัดร้อยเอ็ดอีกด้วยค่ะ เพราะแป้งข้าวไม่มีกลูเต็น กลุ่มคนที่มีอาการแพ้กลูเต็นก็สามารถรับประทานได้ ทั้งยังได้สนับสนุนผลิตภัณฑ์จากข้าวของชาวนาไทยอีกด้วย

การทำคุกกี้จากแป้งข้าวต้องมีความเข้าใจตัวแป้งที่ใช้อย่างลึกซึ้ง และเทคนิคสำคัญอีกนิดหน่อยจึงจะได้ขนมที่ออกมาดีอย่างใจหมาย เพราะธรรมชาติของแป้งข้าวนั้นแตกต่างจากแป้งสาลี โดยเฉพาะคุณสมบัติในการดูดซึม ที่อาจต้องใช้เวลาสักเล็กน้อย ซึ่งยังจำแนกลงไปอีกว่า หากเป็นแป้งข้าวกล้อง จะต้องการปริมาณน้ำที่มากกว่าแป้งข้าวขาว ดังนั้นเพื่อให้เนื้อแป้งสามารถดูดซับรสชาติและความชื้นจากของเหลวและไขมันได้เต็มที่ จึงต้องใช้สัดส่วนน้ำให้เหมาะสมกับชนิดแป้ง และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ เมื่อผสมส่วนผสมแล้ว ต้องพักส่วนผสมไว้สักครู่ก่อนนำไปขึ้นรูป แล้วนำไปอบ เพื่อให้แป้งข้าวได้ดูดซึมรสชาติและความชื้นของของเหลวได้สมบูรณ์ก่อนนำไปอบ เทคนิคการพักส่วนผสมที่ว่านี้จึงถือเป็นขั้นตอนสำคัญของการทำขนมจากแป้งข้าวที่ละเลยไม่ได้

นอกจากแป้งข้าวที่เลือกนำมาใช้แล้ว เรายังเติมความหอมจากมะพร้าวอบแห้ง และเนยสด เพื่อให้ได้กลิ่นหอมธรรมชาติจากวัตถุดิบ จะได้ไม่ต้องพึ่งกลิ่นสังเคราะห์ใด ๆ เรียกได้ว่าใครได้รับคุกกี้นี้ไปก็ได้ทั้งใจและได้ทั้งสุขภาพดีเป็นของขวัญปีใหม่กันอย่างแน่นอน

ว่าแล้วมาดูส่วนผสมของวัตถุดิบที่ใช้ค่ะ

  • แป้งข้าวหอมมะลิออร์แกนิก 120 กรัม (1 ¼ ถ้วยตวง)
  • เบ้กกิ้งโซดา 1.5 กรัม ( ½ ช้อนชา)
  • น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม (1/2 ถ้วยตวง)
  • ไข่ไก่อารมณ์ดี 1 ฟอง
  • เนยสด (อุณหภูมิห้อง) 100 กรัม (1/2 ถ้วยตวง)
  • มะพร้าวอบแห้ง 150 กรัม
  • เกลือสินเธาว์ 2 กรัม (1/4 ช้อนชา)
  • เมล็ดอัลมอนด์ (อบไฟอ่อนพอสุก) สำหรับตกแต่งหน้าคุกกี้

วิธีทำ
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 นาที เตรียมไว้

2. ร่อนแป้งข้าวหอมมะลิออร์แกนิก เบกกิ้งโซดา และเกลือป่นเข้าด้วยกัน พักไว้

3. ใช้หัวตีตะกร้อ ตีเนยด้วยความเร็วปานกลางจนเนียน ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปจนหมด ต่อมาจึงใส่น้ำตาลทรายแดงแล้วตีต่อจนน้ำตาลละลาย ใส่ไข่ไก่ลงไปตีจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันและเนื้อเนียนดี

4. ใส่แป้งที่ร่อนไว้ลงไปครึ่งหนึ่ง ใช้พายตะล่อมให้เข้ากันจากนั้นใส่แป้งส่วนที่เหลือผสมให้เข้ากัน

5. ค่อย ๆ ใส่มะพร้าวอบแห้งตะล่อมให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี ตั้งพักไว้ 10 นาที

6. ใช้สกู๊ปตักไอศกรีมขนาดเล็กหรือช้อนตักส่วนผสมปั้นเป็นก้อนกลม วางลงบนถาดที่รองด้วยกระดาษรองอบ ใช้ส้อมกดให้แบนเล็กน้อย ตกแต่งด้วยอัลมอนด์

7. นำเข้าอบประมาณ 12 นาที จากนั้นยกออกจากเตาตั้งพักไว้ 5 นาที แล้วค่อยแซะคุกกี้ออกจากถาด วางพักไว้บนตะแกรง จนคุกกี้เย็นสนิท

คุกกี้นี้มีเสน่ห์ตรงที่พอกัดเข้าไปคำแรก เราจะได้กลิ่นหอมของแป้งข้าวหอมมะลิออร์แกนิก ตามมาด้วยกลิ่นเนยสด และมะพร้าวอบแห้งค่ะ แถมได้รสมันและสัมผัสกรุบกรอบจากอัลมอนด์ เคี้ยวเพลินไปเลย หากเราต้องการจะใส่เมล็ดธัญพืชอื่น ๆ ก็ได้เช่นกันนะคะ อบให้พอสุก มีกลิ่นหอมนิด ๆ เป็นใช้ได้ นำมาตกแต่งหน้าคุกกี้ได้ตามชอบ

แป้งข้าวที่ใช้ทำคุกกี้สูตรนี้เป็นแป้งข้าวเจ้าค่ะ แต่เราสามารถเปลี่ยนสายพันธุ์ของข้าวที่นำมาทำแป้งได้ค่ะ เช่น แป้งข้าวมะลิแดง แป้งข้าวหอมปทุม แป้งข้าวสังข์หยด ฯ ทั้งนี้สีและกลิ่นของคุกกี้ก็จะแปรเปลี่ยนไปตามสายพันธุ์ของข้าวที่นำมาทำค่ะ

Tips กระซิบจากนักอบ :

  • คุกกี้สูตรนี้ มีสัดส่วนของ เนย และ น้ำตาล เท่า กัน ขนมจะหวานแบบพอดี หากชอบขนมแบบหวานน้อย สามารถลดปริมาณน้ำตาลลงครึ่งส่วนได้ แต่ไม่ควรต่ำกว่านั้น เพราะโครงสร้างของคุกกี้จะไม่ขึ้นฟูสวย
  • เพื่อความรวดเร็วในการทำ สามารถปั่นน้ำตาลทรายไม่ขัดสี ด้วยเครื่องปั่นสับให้ละเอียดก่อนนำมาใช้ จะช่วยให้น้ำตาลละลายตัวเวลาตีผสมกับเนยสดได้ดี
  • ทำแป้งข้าวอินทรีย์มีวางขายหลากหลายที่ แต่หากคุณต้องการทำแป้งข้าวใช้เอง ก็ทำได้โดยนำข้าวสารไปปั่นในเครื่องสับปั่น หรือ เครื่องบดสมุนไพรแบบครัวเรือน แล้วนำมาร่อนผ่านกระชอนที่มีตาข่ายถี่ ๆ เช่น เบอร์ 80 หรือ เบอร์ 100 ก็จะได้เนื้อแป้งข้าวที่เนียนละเอียด และสามารถนำมาใช้ทำขนมได้
  • หากเผลอตัวส่วนผสมของเหลวผิด และทำให้ส่วนผสมคุกกี้เหลวไป แก้ไขได้โดยเติมแป้งข้าวลงไปได้
  • คุกกี้สูตรนี้เป็นสูตรซอฟต์คุกกี้ หากต้องการให้คุกกี้มีความกรอบขึ้น เมื่ออบครบเวลาแล้ว ให้นำคุกกี้ออกมาพักให้เย็นสนิท แล้วนำกลับไปอบอีกครั้งด้วยอุณหภูมิเดิม ระยะเวลาเป็นครึ่งหนึ่งที่ระบุไว้ ก็จะได้คุกกี้ที่มีความกรอบมากขึ้น

ภาพ : ศศิธร มูลสาร