Q: จริงไหมที่การออกกำลังกาย จะช่วยให้เรามีภูมิต้านทานสู้ไวรัสต่างๆ ได้?

ร่างกายมนุษย์ถูกวิวัฒนาการมาพร้อมกับการที่ต้องขยับร่างกายทั้งวัน จึงมีหลายๆ ระบบในร่างกายที่ต้องมีการขยับร่างกายถึงจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่พฤติกรรมการนั่งทำงานนานๆ เพิ่งมีมาไม่กี่ร้อยปีนี้เอง ดังนั้นการขาดกิจกรรมทางกายจึงเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เป็นต้น

ในช่วงที่มีไวรัสระบาดอย่างนี้ หน่วยงานสุขภาพทั้งหลายต่างสนับสนุนให้มีกิจกรรมทางกายให้เพียงพอสม่ำเสมอ เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

Q: ในหนึ่งสัปดาห์เราควรออกกำลังกายแบบไหนและแค่ไหน ถึงจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง พร้อมรับมือกับโควิด-19 หรือโรคระบาดใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในวันหน้า?

ไกด์ไลน์การออกกำลังกายในช่วงไวรัสระบาดยังสามารถใช้ไกด์ไลน์เดียวกับการดูแลสุขภาพทั่วไปได้ นั่นก็คือควรมี กิจกรรมทางกายประเภทแอโรบิก หรือกิจกรรมที่เคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้หัวใจเต้นแรง หายใจเร็ว เช่น เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ ฯลฯ ที่ความเหนื่อยระดับปานกลาง (ความหนักประมาณที่ร้องเพลงไม่ไหวแต่ยังพูดได้) รวมแล้วให้ได้อาทิตย์ละ 150 นาที ผ่อนชำระตามสะดวก 

จะให้ดีกว่านั้น เราควรใช้ชีวิตให้กระฉับกระเฉง ไม่ควรนั่งนิ่งๆ นานติดต่อกันเกิน 1 ชั่วโมง ควรมีการลุกขึ้นมาขยับยืดเส้นยืดสายบ่อยๆ ได้ยิ่งดี และต้องมีการสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง จะเป็นการกายบริหาร ใช้ยางยืด หรือเข้าฟิตเนสก็ได้ โดยเน้นการฝึกท่าที่ใช้หลายข้อต่อ ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น สควอต เดดลิฟท์ วิดพื้น ดึงข้อ เป็นต้น เลือกความหนักที่ทำได้เกิน 8 ครั้งแต่ไม่เกิน 12 ครั้งได้ยิ่งดี ท่าละ 1-3 เซ็ต

Q: พฤติกรรมการออกกำลังกายที่เปลี่ยนไปหลังสถานการณ์โควิด-19 มีข้อดีอะไรที่เราควรนำมาใช้ต่อไปได้บ้าง?

ก่อนหน้าจะมีไวรัสระบาด หลายคนคงยังไม่เคยออกกำลังกายที่บ้านกันอย่างจริงจัง หลายคนอาจจะไม่ได้ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเพราะความไม่สะดวกต่างๆ แต่ตอนนี้เชื่อว่าหลายคนน่าจะได้ลองออกกำลังกายที่บ้านกันอย่างจริงจังแล้ว ก็จะพบถึงความสะดวกสบายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง การได้ทดลองเรียนออกกำลังกายออนไลน์ การสามารถเลือกเวลาออกกำลังกายได้ตามสะดวก ฯลฯ ซึ่งผมก็หวังว่าจะทำให้พฤติกรรมการออกกำลังกายเป็นประจำที่บ้านนี้สามารถทำต่อได้อย่างยั่งยืนต่อไป

การที่เราต้องพยายามดูแลร่างกายให้แข็งแรงเพื่อจะได้มีภูมิคุ้มกันจากไวรัส แม้อนาคตจะไม่มีไวรัสระบาดแล้ว การออกกำลังกายก็สามารถช่วยป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรังทั้งหลายได้ และรวมถึงการที่เราสนใจสุขอนามัยในการออกกำลังกายมากขึ้น ทั้งการใช้อุปกรณ์ร่วมกับคนอื่น การเข้าร่วมกิจกรรมออกกำลังกายเป็นกลุ่ม ฯลฯ ซึ่งถ้าเรายังคงมาตรฐานการระวังตัวไว้ ก็สามารถช่วยเราป้องกันตัวจากเชื้อโรคอื่นๆ ได้เช่นกัน

Q: ทำไมหลังจากนี้ เราถึงควรลุกขึ้นมาออกกำลังกายให้ได้ทุกวัน?

เพราะการดูแลร่างกายนั้นไม่ใช่แค่เป็นการบอกรักตัวเอง แต่ยังเป็นการใส่ใจดูแลคนในครอบครัว เพราะถ้าเราไม่ป่วยไม่ติดเชื้อง่าย ผู้สูงอายุในบ้านก็มีความเสี่ยงลดลง หรือต่อให้เราติดเชื้อแล้ว ถ้าเรามีร่างกายแข็งแรงก็อาจจะมีอาการไม่หนัก มีโอกาสหายมากขึ้น ลดภาระในการรักษาพยาบาลช่วยให้งานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเบาลง

ดังนั้น การออกกำลังกายดูแลตนเองก็เป็นการช่วยเหลือสังคมในอีกทางหนึ่ง

ที่สำคัญอนาคตต่อจากนี้จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีร่างกายที่แข็งแรงก็ช่วยให้เราพร้อมสู้กับปัญหาต่างๆ ที่จะเข้ามา ซึ่งผมก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันนะครับ

ภาพประกอบ: npy.j