Q: อยากผอมก็ด้วย อยากช่วยลดโลกร้อนก็ใช่ แล้วจริงๆ การออกกำลังกายกับโลกร้อนมันเกี่ยวกันไหม
การออกกำลังกายกับโลกร้อนนั้นมีผลต่อกัน อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละกิจกรรม ซึ่งอาจจะมีทั้งผลบวกและลบ เพราะทุกครั้งที่เราออกกำลังกาย ไม่ว่าจะการเปิดแอร์ ใช้ลู่วิ่งไฟฟ้า การซื้ออุปกรณ์ชิ้นใหม่ๆ การเดินทางไปแข่งขันฯ ก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่การออกกำลังกายก็ช่วยให้คนสุขภาพแข็งแรง ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล หรือถ้าเปรียบเทียบกับกิจกรรมงานอดิเรกอื่นๆ ก็ต้องถือว่าค่าเฉลี่ยของการกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการออกกำลังกายนั้นน้อยกว่าอีกหลายกิจกรรมในชีวิต
ซึ่งเราสามารถประยุกต์การออกกำลังกายมาอยู่ในชีวิตประจำวันได้เช่นกัน โดยองค์การอนามัยโลกหรือหน่วยงานสุขภาพทั่วไปในสมัยนี้ เลือกจะรณรงค์ให้มีกิจกรรมทางกาย หรือขยับร่างกายให้มากขึ้นในชีวิตประจำวัน ดังนั้น ไม่ว่าจะการขึ้นบันไดแทนลิฟต์ การเดินในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น หรือการเลือกใช้จักรยาน ล้วนแล้วแต่ช่วยประหยัดพลังงานได้ทั้งสิ้น
Q: เราจะเลือกอุปกรณ์หรือแก็ดเจตออกกำลังกายยังไงดี ให้ดีต่อโลกด้วย
อุปกรณ์ที่แพงที่สุด คืออุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้ ดังนั้นการใช้อย่างคุ้มค่าน่าจะเป็นตัวชี้วัดที่ดีมากที่สุด
การสะสมหรือบริโภคอุปกรณ์ใหม่ๆ ตามกระแสนิยมอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก การเลือกใช้อุปกรณ์ที่บริษัทมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการเลือกใช้วัสดุรีไซเคิล หรือรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลายกลับมาทำลายอย่างเหมาะสม ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยโลกเราได้
Q: เป็นคนชอบไปงานวิ่ง แต่ไม่อยากสร้างขยะเลย ต้องทำยังไงบ้าง
เลือกอุปกรณ์ที่ช่วยลดขยะได้ เช่น การใช้ขวดน้ำหรือกระบอกน้ำพกพา แทนการซื้อน้ำขวดพลาสติกก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่หลายคนอาจจะประสบปัญหา คืออาจจะไม่กล้าวางขวดน้ำทิ้งไว้ในสวนสาธารณะ ไม่ว่าจะเพราะกลัวหายหรือกลัวไม่ปลอดภัย (คนอื่นมาดื่ม มีคนเอาสิ่งไม่พึงประสงค์มาใส่) ผมขอเสนอทางเลือกอย่าง การใช้เป้ใส่น้ำสะพายหลัง (อุปกรณ์สำหรับนักวิ่งเทรล) หรือกระเป๋าที่มีช่องใส่ขวดน้ำได้เป็นต้น
ในกรณีถ้าไปตามงานวิ่ง เราอาจจะสามารถใช้แก้วน้ำจากซิลิโคนที่พับได้แล้วเติมน้ำเอาแทนการรับแก้วพลาสติกจากงาน แต่ในกรณีที่เราต้องการทำเวลาหรือแข่งขัน การรอเติมน้ำอาจจะไม่สะดวกก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดมากเกินไป เพราะเราสามารถลดขยะในเหตุการณ์อื่นๆ ได้ ส่วนนักวิ่งทั่วไปก็ควรเข้าใจนักกีฬาเพราะนักวิ่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วอาจจะมีการทิ้งขยะไม่ตรงถังบ้างก็เป็นเรื่องปกติ ผู้จัดทั้งหลายก็พร้อมจัดการ มีทีมเก็บอยู่แล้ว ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ก็เกิดขึ้นในการแข่งระดับโลกเป็นปกติ
สำหรับผม เรื่องขยะที่เราควรจะจริงจังและกังวลก็คือ การวิ่งเทรลหรือการวิ่งเข้าไปในป่าเขา งานในไทยอาจจะยังไม่เคร่งครัดนัก แต่จะดีมากถ้าสามารถยกมาตรฐานให้เท่าเทียมสากลได้ อย่างเช่น นักกีฬาทุกคนต้องแจ้งสำแดงว่ามีอะไรติดตัวไปบ้าง เช่น ซองอาหาร เจลเติมพลังงาน ถุงพลาสติกฯ ผู้จัดจะเขียนชื่อเราลงไปทุกชิ้น และเมื่อเราวิ่งเข้าเส้นชัยเราต้องเอาขยะเหล่านี้มาสำแดงว่าเก็บกลับมาครบหรือไม่ เพื่อให้เห็นว่าเราไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ในป่า เพราะการทิ้งขยะไว้ในป่าอาจจะทำให้สัตว์ป่ากินเข้าไปจนเกิดอันตรายได้
Q: ผิดต่อโลกมากไหม ถ้าอยากออกกำลังกายแต่ในยิม ในห้องแอร์ ก็อากาศมันร้อน
เนื่องจากสภาพสังคมในปัจจุบัน ไม่ว่าจะสิ่งแวดล้อม มลพิษ สภาพอากาศ จราจร ความปลอดภัย ทำให้หลายคนเลือกจะออกกำลังกายในร่ม ในห้องแอร์ และใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า (แม้แต่ในสวนลุมพินียังมีฟิตเนสติดแอร์มีลู่วิ่งไฟฟ้าให้บริการ) แต่ถ้าจะให้ผมแนะนำ สิ่งที่เราพอทำได้ เช่น เลือกลู่วิ่งที่ไม่ใช้ไฟฟ้า (ในปัจจุบันมีลู่วิ่งที่มีทรงโค้งหรือลาดชันโดยเมื่อเราก้าวเท้าขึ้นไป สายพานก็จะเลื่อนลงมา) หรือถ้าจะเปิดแอร์ก็ไม่จำเป็นต้องเร่งจนหนาว ถ้ากังวลเรื่องมลพิษเราก็สามารถติดฟิลเตอร์กรองอากาศไว้ที่หน้าต่างเพื่อที่จะเปิดระบายอากาศได้ การเลือกออกกำลังกายในบ้านหรือใกล้บ้านไม่ต้องเดินทางแค่นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ลดโลกร้อนได้
การดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องของทุกคน สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือทุกคนต้องช่วยกัน แต่ก็ควรรักษาสมดุลกับการไม่เคร่งเครียดกับตัวเองและคนรอบตัวมากเกินไป ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้ดูแลสุขภาพกายสุขภาพใจและดูแลสิ่งแวดล้อมให้ดีได้ทั้งหมดนะครับ
ภาพประกอบ: npy.j