Q: ปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าต้องไปงานแต่งงานเพื่อนเพียบ อยากใส่สูทเข้ารูปหรือชุดราตรีโชว์เรือนร่าง เราจะลดพุงแบบด่วนๆ ด้วยวิธีไหนดี
เวลาที่ดีที่จะปลูกต้นไม้คือ 25 ปีที่แล้ว เวลาที่ดีรองลงมาคือวันนี้ นี่คือคำคมที่แสดงให้เห็นว่าเราควรทำทุกสิ่งแต่เนิ่นๆ ครับ แต่ถ้าปล่อยผ่านมาแล้ว อย่างน้อยวันนี้ก็เป็นวันที่ดีที่สุดที่จะลงมือทำ ไม่ต้องกลัวว่าจะสายเกินไป
ซึ่งจริงๆ แล้วการฟิตหุ่นเปลี่ยนแปลงรูปร่างในวิธีที่ถูก ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพอย่างน้อยต้องมีเวลา 6 สัปดาห์ขึ้นไปถึงจะเริ่มเห็นผลการเปลี่ยนแปลง แต่ส่วนมากก็จะมารู้ตัวกันตอนกระชั้นชิดเกินไปทำให้ไปพลาดท่าเสียทีกับสูตรลดน้ำหนักผิดๆ จนอาจจะทำให้ป่วย และเจอปัญหาน้ำหนักตัวเด้งขึ้นมาสูงกว่าเดิม เพื่อไม่ให้คุณต้องเหนื่อยฟรีและเกิดอันตราย ผมจึงมาอธิบายถึงวิธีการลดน้ำหนักฟิตหุ่นที่ได้ผลและปลอดภัยครับ
คำแนะนำจากหน่วยงานสุขภาพทั่วไปแนะนำว่า ในช่วง 1 เดือน สามารถลดน้ำหนัก ‘ไขมัน’ ได้อย่างมีคุณภาพและปลอดภัย ได้ไม่เกิน 2-4 กิโลกรัม ถ้าลดเยอะกว่านี้อาจส่งผลเสียกับสุขภาพ ส่วนทำไมการลดอย่างมีคุณภาพต้องเป็นการลดไขมันนั้น เพราะการลดผิดวิธี แม้จะลดได้เป็น 10 กิโลกรัม แต่ถ้าน้ำหนักที่หายไปส่วนมากเป็นน้ำในร่างกายและมวลกล้ามเนื้อที่หายไป ทำให้แม้ว่าคุณจะลดน้ำหนักลงมาได้ รูปร่างก็ไม่เปลี่ยนมากนัก หรือถ้าเปลี่ยน ก็จะพบกับอาการผิวหนังหย่อนคล้อย หน้าตาทรุดโทรม ผมร่วง ผิวหนังแห้งหยาบอีกด้วย
วิธีลดน้ำหนักที่เหมาะสมที่วิทยาลัยเวชศาสตร์การกีฬาแห่งสหรัฐอเมริกาแนะนำ คือ ห้ามลดการกินให้ต่ำกว่า 1,200 แคลอรี่ต่อวัน เนื่องจากเป็นแคลอรี่ขั้นต่ำเพื่อที่จะรักษาให้ร่างกายทำงานได้ปกติ เพราะแม้เราจะนอนเฉยๆ ทั้งวันร่างกายก็ยังต้องการพลังงานเพื่อไปทำให้หัวใจเต้น สมอง ปอด อวัยวะอื่นๆ ทำงาน และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
โดยในช่วงลดน้ำหนักนี้อาจจะเพิ่มสัดส่วนของโปรตีนให้มากขึ้นและลดสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรตลง อาจจะกินข้าวให้น้อยลงและเพิ่มนมไขมันต่ำหรือไข่ขาวเข้ามาแทน เน้นการบริโภคผักมากๆ เพราะแคลอรี่ต่ำ ทำให้อิ่ม แถมมีส่วนช่วยในการลดการดูดซึมแคลอรี่
Q: ออกกำลังกายวิธีไหนถึงจะลดน้ำหนักได้ แบบไม่โทรมด้วย
ถ้าอยากลดน้ำหนักได้เร็วๆ เยอะๆ โดยไม่เสียสุขภาพ แนะนำให้ออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ระดับความหนักต่ำ เช่น เดิน ปั่นจักรยานเบาๆ เพราะการออกกำลังกายแบบนี้ช่วยนำไขมันมาใช้ได้ดี โดยที่ร่างกายไม่ทรุดโทรม (เนื่องจากช่วงนี้กินน้อย จึงไม่ควรไปออกกำลังกายหนักๆ) แต่อาจจะต้องใช้เวลานาน วันละ 40 นาทีขึ้นไปจนถึงหลายๆ ชั่วโมง แล้วแต่ความขยัน โดยในส่วนนี้จะมีผลกับรูปร่างและการลดน้ำหนักมากที่สุด และก็ไม่ต้องตกใจไปที่ผมแนะนำให้เดินเป็นหลายๆ ชั่วโมง เพราะมนุษย์เราถูกออกแบบมาให้เคลื่อนไหวร่างกายทั้งวันอยู่แล้ว บางอาชีพ เช่น ยาม หรือแม่บ้านก็ต้องเดินทั้งวันก็ไม่ได้ทำให้เสียสุขภาพแต่อย่างไร แต่ถามว่าทำไมแม่บ้านหลายคนที่เดินทั้งวันก็ยังอ้วนได้ ก็เพราะการคุมเรื่องกินนั้นสำคัญมากเช่นกันครับ
ซึ่งเป้าหมายที่ตั้งไว้ก็คือต้องตั้งเป้าให้มีการ ใช้พลังงานมากกว่าอาหารที่กินไปในแต่ละวัน ถ้าต้องการลด 4 กิโลกรัมต่อเดือน ก็ต้องมีส่วนต่างพลังงานมากถึงวันละ 1,000 แคลอรี่ แน่นอนผมไม่อยากให้ไปลดอาหารมาก ดังนั้น พลังงานติดลบจากการกินน้อยลงกว่าปกติส่วนนี้จะแค่ 250-500 แคลอรี่ ส่วนการขยับให้มากขึ้น ก็ต้องทำถึง 500-750 แคลอรี่ (ถ้าวิ่งก็เกือบชั่วโมง แต่ถ้าเดินทั้งวันอย่างที่แนะนำก็น่าจะไหวนะครับ) อยากลดได้มากเท่าไหร่ก็ให้เพิ่มการเผาผลาญส่วนนี้ให้มากๆ
Q: ถ้าอยาก แขน-ขา เฟิร์มแบบเร่งรัด ต้องออกกำลังกายยังไงและท่าไหนดี
จริงๆ แล้วช่วงนี้ การออกกำลังกายแบบเวตเทรนนิ่งควรฝึกให้เบาลงครับ ลดท่าในการฝึกและลดน้ำหนักในการฝึกลงมา โดยอาจจะเหลือ ฝึกแค่วันละ 4-6 ท่า ท่าละ 2 เซ็ต แต่ละท่าใช้น้ำหนักที่ยกได้ประมาณ 15 ครั้ง อาทิตย์ละ 2-3 วันก็พอ เน้นท่าฝึกที่ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ ใช้หลายข้อต่ออย่าง เช่น ท่า squat ท่า dead lift ท่า bench press และท่า lat pull down เป็นต้น จุดประสงค์เพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อเท่านั้น เพราะการเล่นเวตเทรนนิ่งเป็นการทำให้กล้ามเนื้อเสียหายเพื่อจะได้มีการซ่อมแซมสร้างเสริมให้แข็งแรงกว่าเดิม ดังนั้น ถ้าช่วงนี้กินน้อยกว่าปกติ ผมจึงไม่แนะนำให้เน้นยกเวตช่วงนี้หนักๆ หรือบ่อยๆ ที่สำคัญสูตรนี้เป็นแบบเร่งด่วนแนะนำให้ทำช่วงสั้นๆ ไม่เกิน 2-4 สัปดาห์นะครับ หลังจากนั้นหันมากินอาหารออกกำลังกายให้ถูกสุขลักษณะจะดีกว่า
ส่วนอีกเคล็ดลับสำคัญของความเฟิร์มก็คือ ให้ออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน กายบริหารหรือเวตเทรนนิ่งก่อนไปงานเลี้ยงครับ ถ้าใครเคยเห็นเวลาพวกนายแบบนางแบบฟิตเนส ก่อนถ่ายงานหรือระหว่างถ่าย จะต้องมีการออกกำลังกายอยู่ตลอด เพราะเมื่อเราออกกำลังกายกล้ามเนื้อจะมีเลือดไปเลี้ยงมากขึ้นทำให้ดูเฟิร์มขึ้นครับ ซึ่งผลตรงนี้ก็จะอยู่ได้ประมาณครึ่งวันถึงหนึ่งวัน ก็ลองจัดตารางออกกำลังกายให้ตรงกับช่วงก่อนไปงานละกัน
Q: ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย เวลาถ่ายรูป เหนียงมักจะออกไม่รู้ตัว มีท่าออกกำลังไหนที่ช่วยลดเหนียงได้บ้าง
จากข้อมูลวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน เราไม่สามารถออกกำลังกายแล้วทำการลดเฉพาะส่วนได้ครับ แต่ไขมันที่ลดลงนั้นจะเฉลี่ยกันไปทั่วร่างกาย ดังนั้น ใครมีไขมันสะสมตรงไหนมากๆ ก็จะรู้สึกว่าตรงนั้นลดไม่ได้หรือลดยาก ซึ่ง การฝึกด้วยท่าบริหารต่างๆ นั้นช่วยให้ผิวหนังกระชับกล้ามเนื้อได้ แต่ไม่ได้ลดไขมันเฉพาะส่วน
โดยบริเวณเหนียงนั้น ไม่ใช่กล้ามเนื้อมัดใหญ่ ไม่ได้มีหน้าที่เคลื่อนไหวใช้แรงมาก ดังนั้น แทนที่จะเสียเวลาหาท่าลดส่วนนี้ ผมคิดว่าเราไปเน้นการสร้างกล้ามเนื้อมัดใหญ่หรือเน้นการเบิร์นเผาผลาญแคลอรี่ด้วยการออกกำลังกายแบบแอโรบิกดีกว่าครับ แต่สิ่งที่จะพอช่วยได้คือถ่ายรูปมุมกดลง ยกกล้องให้สูงหน่อย แล้วก้มหน้าเล็กน้อย ซึ่งพอก้มหน้าหลายคนเลยเหนียงออกก็เลยต้องแก้ปัญหาด้วยการเอนตัวมาด้านหน้า ดันสะโพกไปด้านหลัง ก็น่าจะพอช่วยได้ครับ
Q: ถ้าอยากผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูโกลว์ แบบไม่ต้องเสียเงินซื้อกลูต้า คอลลาเจน หรือวิตามินมากิน ต้องทำยังไง
อาหารเสริมทั้งหลายมักแอบอ้างสรรพคุณเกินจริงอยู่แล้ว ส่วนวิตามินกินมากไปก็ไม่ได้ประโยชน์แถมเป็นโทษอีกต่างหาก
ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดนอกจากจะใช้เครื่องสำอางหรือครีมบำรุงผิวแล้ว การออกกำลังกายและกินอาหารให้ถูกสุขลักษณะ ดื่มน้ำมากๆ เพิ่มการกินผักผลไม้ เลี่ยงอาหารหวานมันเค็ม พักผ่อนให้เพียงพอนั้นสามารถช่วยให้เราสวยออกมาได้จากภายในเลยครับ
ภาพประกอบ: npy.j