ใกล้ถึง ‘วันจ่าย’ แล้ว อาตี๋อาหมวย เตรียมจ่ายกันหรือยัง?

ก่อนถึงวันตรุษจีน เราอาจจะได้ยินคนไทยเชื้อสายจีนพูดถึงคำว่า ‘วันจ่าย’ อยู่บ่อยๆ ซึ่งมันไม่ได้หมายถึงการจ่ายซองอั่งเปาหรอกนะ แต่ความหมายที่ถูกต้องของวันจ่าย คือวันที่ตัวแทนของครอบครัวจะต้องออกไปจับจ่ายซื้อของมงคลสำหรับไหว้ ทั้งอาหาร ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ เพื่อมาไหว้เทพเจ้าต่างๆ ใน ‘วันไหว้’ นั่นเอง 

นอกเหนือจากอิทธิพลในแง่ความเชื่อที่สืบทอดกันมา ที่จริงแล้ว การเลือกจับจ่ายซื้อของใน ‘วันจ่าย’ นั้นมีผลกับชีวิตและสุขภาพของเราไม่น้อยเลยเช่นกัน เพราะของที่แต่ละครอบครัวเลือกซื้อมาไหว้เทพเจ้านั้นล้วนนับเป็นการบริโภค และสุดท้ายก็จะกลายเป็นอาหารที่กินเข้าไป หรือกลายเป็นสิ่งที่เราทิ้งไว้ให้กับโลกแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี

ลองมาดูกันว่าตรุษจีนปีนี้ ถ้าอยากเปลี่ยนของไหว้ตรุษจีนให้ดีกับสุขภาพตัวเองอีกนิด ดีต่อโลกขึ้นอีกหน่อย เราจะชวนอากง อาม่า ป่าป๊า หม่าม้า อาเจ็ก อาอี๊ อาเฮีย หรืออาเจ้ มาปรับตัวแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปกันยังไงได้บ้าง

1
เปลี่ยนใจจากส้มเคมีเปลือกสีสด
มาจ่ายให้กับส้มออร์แกนิกที่ดีจากข้างใน

มองไปทางไหนก็ส้ม เพราะส้มคือผลไม้มงคลแห่งเทศกาลตรุษจีนที่แต่ละครอบครัวไม่เพียงแค่ต้องเรียงใส่ถาดไว้ไหว้เจ้า แต่ยังต้องหาซื้อมาแลกกันเพื่อความเป็นมงคลอีกด้วย ถ้าตรุษจีนจะต้องการส้มเยอะขนาดนี้ ไม่แปลกที่เราจะเห็นซูเปอร์มาร์เก็ตแพ็กส้มใส่ถาดแดงขายกันแบบสำเร็จรูปเต็มไปหมด!

ส้มสีสดผลเงาทั่วไปที่วางขายในท้องตลาด ไม่ว่าจะนำเข้าจากต่างประเทศหรือของไทย ก็อาจเสี่ยงต่อการดัดแปลงพันธุกรรม (GMOs) รวมถึงสารเคมีที่ตกค้างในกระบวนการปลูก โดยผลตรวจสารเคมีตกค้างในผักผลไม้ปี 2562 ซึ่งส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการรับรองมาตรฐาน ISO-17025 ที่ประเทศอังกฤษ ผลการวิเคราะห์พบว่าผลไม้ที่พบสารตกค้างมากที่สุดคือส้ม และที่เสี่ยงไปกว่านั้นคือล่าสุดเมื่อปลายปี 2562 งานวิจัยคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ยังพบด้วยว่า มีสวนส้มที่ใช้ยาปฏิชีวนะแอมพิซิลลินฉีดเข้าลำต้น ซึ่งเสียงต่อการตกค้างและยังส่งผลให้เกิดแบคทีเรียที่ดื้อยาอีกด้วย 

คำแนะนำ เปลี่ยนมาซื้อส้มออร์แกนิกดีกว่า โดยหาแหล่งซื้อส้มออร์แกนิกที่ไว้ใจได้ที่มั่นใจว่าไม่ใช่แค่ปลอดสาร แต่ไม่ใส่สารเคมีเลยตลอดกระบวนการปลูก ภายนอกอาจจะไม่ได้สีส้มสด แต่ข้างในรสหวานฉ่ำแถมปลอดภัยแน่นอน

  • แนะให้ลอง – ส้มเขียวหวานเกษตรธรรมชาติ จ.แพร่ จากสวนลุงมนู จัดจำหน่ายโดย เลมอนฟาร์ม (ซึ่งจะมีขายถึงแค่เดือนกุมภาพันธ์เท่านั้นนะ)

2
เปลี่ยนใจจากเนื้อสัตว์จากระบบปศุสัตว์อุตสาหกรรม
มาจ่ายให้กับเนื้อสัตว์อารมณ์ดี ที่เลี้ยงและจับด้วยวิธียั่งยืน

ในความเชื่อของคนเชื้อสายจีน การไหว้ไก่ (แบบเต็มตัว) หมายถึงความสง่างามและความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การไหว้ปลา หมายถึงการเหลือกินเหลือใช้และอุดมสมบูรณ์ แต่ถ้ามองในมุมของสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ไก่ เป็ด หรือปลาที่ถูกเลี้ยงและจับด้วยวิธีการแบบปศุสัตว์อุตสาหกรรม นั่นสะท้อนถึงความไม่เป็นธรรมและความเสี่ยงต่อโรคร้ายที่จะตามมา

ไก่หรือเป็ดที่ถูกเลี้ยงในกรงตับ หรือระบบปศุสัตว์อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มักเติบโตขึ้นจากอาหารสัตว์แปรรูปที่ผลิตขึ้นเพื่อระบบโดยเฉพาะ อาหารสัตว์ที่มันกินเข้าไปอาจผ่านการดัดแปลงพันธุกรรม (GMOs) หรือตัวสัตว์เองก็อาจเสี่ยงต่อการฉีดฮอร์โมนและยาปฏิชีวนะ ซึ่งสุดท้ายอาจตกค้างมาถึงคนกินอย่างเรา

ส่วนปลาที่จับโดยเรือขนาดใหญ่ อาจถูกใช้อวนหรือแหลากขึ้นมาทีเดียวเยอะๆ (แน่นอนว่าปลาตัวเล็กก็อาจติดมาด้วย) และผ่านการแช่เก็บไว้บนเรือด้วยสารฟอร์มาลีนเป็นเวลานานก่อนจะมาถึงคนกินเช่นกัน

คำแนะนำ เปลี่ยนมาซื้อไก่โลว์ยูริก หรือไก่ที่เลี้ยงแบบอินทรีย์ อยู่ในกรงหรือคอกที่เลี้ยงปล่อย และเปลี่ยนมาซื้อปลาที่จับโดยประมงพื้นบ้าน ใช้เรือลำเล็กๆ ออกหาปลาแบบวันต่อวันดีกว่า

3
เปลี่ยนจากขนมที่ฟูลฟิลด้วยความหวาน
มาจ่ายให้กับขนมที่ลดหวานมันเค็มลงอีกนิด

ขนมเข่ง ขนมเทียน ขนมถ้วยฟู คือตัวแทนของความหวานชื่น ราบรื่นและเพิ่มพูนความรุ่งเรืองเฟื่องฟูในชีวิต เลยมักถูกซื้อมาไหว้เยอะๆ แบบเต็มถาด ไหว้เสร็จก็แจกญาติพี่น้องกันสนุกสนาน แต่อย่าลืมว่าชีวิตเราจะฟูเฟื่องไม่ได้อย่างใจถ้าเรากินหวานจนเกินขนาดนะ

สิ่งที่เราต้องระลึกไว้ก็คือ ขนมเข่งทำจากแป้งครึ่งนึง น้ำตาลปี๊บครึ่งนึง บางสูตรอาจมีน้ำกะทิ ส่วนขนมเทียนนั้นคือการเอาขนมเข่งมาเพิ่มไส้มะพร้าวบวกน้ำตาลให้หวานเพิ่ม หรือไส้เค็มที่เพิ่มถั่ว กระเทียม น้ำมันไปอีก นั่นแปลว่าถ้ากินเพลินๆ อาจจะมากเกินปริมาณที่ควรกินต่อวันไปโดยไม่รู้ตัวเลยนะ 

คำแนะนำ กินให้น้อย อาจจะแบ่งญาติหรือแบ่งกินไปหลายๆ วัน อย่าลืมว่าโควต้าการกินน้ำตาลของเราถูกจำกัดไว้แค่ไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวันเท่านั้น เพราะฉะนั้นต้องกินอย่างมีสติที่สุด อ่านวิธีเลี่ยงกินหวานได้ที่นี่ / หรือถ้าที่บ้านยังทำขนมเอง ลองปรับสูตรให้ลดความหวานลงสักครึ่งนึง น่าจะช่วยได้อีกแรงเลยล่ะ 

4
เปลี่ยนจากกระดาษเงินกระดาษทองกองพะเนิน
มาจ่ายให้กระดาษน้อยๆ ลงหน่อย

สูตรคลาสสิกของการไหว้เจ้าตรุษจีนต้องปิดท้ายด้วยการเผากระดาษเงินกระดาษทองที่จำลองว่าเป็นชุดเสื้อผ้า รองเท้า ของใช้ส่วนตัว เงิน ทองก้อน พาสปอร์ต โทรศัพท์มือถือ และเหล่ากระดาษ (ที่ลูกหลานต้องช่วยกันพับ) ทั้งหลาย เพื่อส่งไปให้กับบรรพบุรุษได้ใช้บนสวรรค์ อย่าลืมคำนึงด้วยว่าอีกด้านหนึ่ง กิจกรรมนี้นั้นร่วมสร้างฝุ่นควัน (ใช่ PM2.5 ก็ด้วย) ให้กับโลกที่เราอาศัยด้วยเช่นกัน 

คำแนะนำ ไม่ต้องหักดิบก็ได้ แต่ค่อยๆ ลดปริมาณกระดาษเงินกระดาษทองให้น้อยลง เหลือแค่พอดีหยิบมือ พอให้บรรพบุรุษมีกินมีใช้ จะได้เป็นอีกแรงที่ช่วยลดการเผากระดาษให้น้อยลงอีกหน่อย

เคล็ดลับ: จ่ายแบบพอดี ให้ไม่ต้องติดหนี้โลกมากนัก

เราอาจรู้ว่าปัญหาขยะเป็นเรื่องใหญ่ของโลก ซึ่งเป็นตัวการสำคัญให้เกิดภาวะเรือนกระจก แต่กลับไม่รู้ว่าขยะที่ถูกทิ้งบนโลกเกินครึ่งนั้นเป็นขยะอาหาร ดังนั้น ทุกๆ การกินเหลือของเรานั้นส่งผลต่อโลกกว่าที่เราคิด 

ในวาระตรุษจีนนี้ ถ้าอยากเฮงด้วยและดีต่อโลกขึ้นด้วยอีกนิด ลองปรับพฤติกรรมมาซื้อของไหว้ในจำนวนที่พอดีกับคนในครอบครัว ไม่ต้องเยอะเกินรับผิดชอบ จะได้ไม่เหลือทิ้งขว้างสร้างขยะให้กับโลก ลองมาค่อยๆ ปรับตัวไปพร้อมๆ กันนะ

ภาพประกอบ: npy.j