ถ้าถามว่ากินผักหน้าไหนอร่อยที่สุด? เชื่อว่าหลายคนน่าจะคิดตรงกันว่าหน้าหนาว ผักสดกรอบอวบน้ำ ยิ่งผักเมืองหนาวส่งตรงจากทางเหนือยิ่งอร่อยกว่าฤดูอื่นเป็นไหนๆ และใช่ เมนูกินผักที่ง่ายตลอดกาลนั้นหนีไม่พ้นสลัดจานโต

ด้วยเสน่ห์ของสลัดไม่ใช่เพียงแง่มุมสุขภาพ แต่ยังอยู่ตรงที่เราสามารถหยิบจับปรับเปลี่ยนวัตถุดิบในจานได้อย่างอิสระและมีศิลปะ การเลือกผักสดกรอบมาเข้าคู่กับผลไม้รสหวาน หรือผลไม้แห้ง เพื่อเพิ่มรสสัมผัสแปลกใหม่ หรือใครชอบกินผักย่าง ผักต้ม หรือเนื้อสัตว์อื่นใดก็เติมใส่ในชามสลัดได้ทั้งนั้น

ยิ่งหลังจากที่เราได้เดินทางไปเรียนรู้วิถีการกินแบบอิงธรรมชาติ ณ สวนเกษตรอินทรีย์และศูนย์การเรียนรู้ พันพรรณ จังหวัดเชียงใหม่ สีสันในจานสลัดของเราก็ยิ่งจัดจ้านขึ้นด้วยเทคนิคการเลือกผักให้สอดคล้องกับร่างกาย รวมถึงการปรุงน้ำสลัดสุดง่ายสูตรไม่ต้องกลัวอ้วน แถมยังเข้าคู่กันดีกับผักเมืองหนาว จึงเหมาะยิ่งที่จะกลายเป็นของฝากน่ารักสำหรับวาระเทศกาลช่วงปลายปี 

ผักสายร้อน หรือผักสายเย็น?

ในวิถีกินผักแบบพันพรรณ สิ่งที่เราเรียนรู้ประการแรกคือผักแต่ละชนิดมี ‘อุณหภูมิ’ แตกต่างกันออกไป คลี่ให้เข้าใจง่ายคือ ธาตุอาหารในผักแต่ละประเภทนั้นแตกต่างกันตามธรรมชาติ และเหมาะกับสภาพร่างกายของเราในช่วงเวลาที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ กล่าวคือ ผักอุณหภูมิร้อนหรือผักฤทธิ์ร้อน ช่วยอบอุ่นร่างกาย ถอนพิษไข้ บรรเทาอาหารแน่นภายในร่างกาย ตัวอย่างผักตระกูลนี้ที่ครัวไทยรู้จักกันดีก็เช่น ขิง ขมิ้น พริก พริกไทย ที่มักผสมใส่ในแกงหรือบรรดาน้ำพริกอยู่เป็นปกติ แต่หลายครั้งตำรับฝรั่งก็หยิบเอาวัตถุดิบสายร้อนมาปรุงน้ำสลัดด้วยเช่นกัน อย่างน้ำสลัดอุดมด้วยพริกไทย หรือน้ำสลัดที่มีส่วนผสมของขมิ้นที่ให้กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์และช่วยขับลม  

ส่วนผักสายเย็นหรือผักฤทธิ์เย็นนั้น มีคุณสมบัติสำคัญคือย่อยง่าย เนื้อฉ่ำน้ำ รสชาติไม่เผ็ดร้อนจึงกินแล้วสบายท้อง ตัวอย่างผักตระกูลนี้ก็เช่น ผักหวาน ตำลึง วอเตอร์เครส มะเขือเทศ มะเขือยาว รวมถึงบรรดาผักสลัดที่เราคุ้นรสกันดี ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายและเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายอีกด้วย 

น้ำสลัดแบบใส หรือน้ำสลัดแบบข้น?

มาถึงสิ่งที่ทำให้สลัดอร่อยและมีสีสันอย่างน้ำสลัดกันบ้าง ปกติแล้ว เราแบ่งชนิดน้ำสลัดออกกว้างๆ ได้เป็นแบบข้นและแบบใส แบบใส ก็เช่นเหล่าน้ำสลัดบัลซามิก น้ำสลัดโชยุ หรือน้ำสลัดอิตาเลียนที่ปรุงรสด้วยน้ำมันมะกอก กระเทียม และเครื่องเทศ ซึ่งให้พลังงานน้อยกว่า แบบข้น เช่น น้ำสลัดซีซาร์ น้ำสลัดเทาซันไอซ์แลนด์ หรือน้ำสลัดครีม ที่มีส่วนผสมของไข่และน้ำมัน บางสูตรอาจรวมถึงมายองเนสและน้ำตาลทรายหลายช้อนโต๊ะ แต่ก็ต้องยอมรับตรงๆ ว่าน้ำสลัดแบบข้นนั้นช่วยทำให้เรากินผักอร่อยขึ้นมหาศาล

แล้วถ้ามีน้ำสลัดแบบข้นที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพล่ะ?

นั่นเป็นชอยส์ที่แม่ครัวสายมังสวิรัติจากสวนพันพรรณนำเสนอให้เราชิม เป็นน้ำสลัดเนื้อข้นคลั่กทำจากพืชฤทธิ์ร้อนอย่างฟักทองอินทรีย์ กินกับเหล่าผักสลัดฤทธิ์เย็นที่เก็บกันในสวนใกล้ๆ และได้กลายเป็นมื้อสลัดที่อร่อยเป็นลำดับต้นๆ ในความทรงจำ สำคัญคือ น้ำสลัดสูตรนี้ปราศจากทั้งไข่และนม จึงเฟรนด์ลี่ทั้งกับคนกินมังสวิรัติและคนแพ้นมหรือไข่ รวมถึงคนรักการกินผักแบบเรา 

ถึงตรงนี้ ถ้าอยากเข้าครัวกันแล้ว ต่อไปนี้คือการปรุงน้ำสลัดฟักทองแสนอร่อย ที่ทำให้การกินผักในหน้าเทศกาลรื่นรมย์ขึ้นกว่าเก่าแน่นอน

น้ำสลัดฟักทองอินทรีย์ข้นคลั่ก สูตรมังสวิรัติกินได้ อร่อยด้วย


ส่วนผสมสำคัญ

ฟักทองแก่ นึ่งหรือย่างจนสุก 300 กรัม
นมถั่วเหลือง 1/2 ถ้วย
กระเทียม 10 กลีบ พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
น้ำมันมะกอก 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มหมักธรรมชาติ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลและเกลือป่นเล็กน้อย **แนะนำให้ชิมก่อนปรุง
งาขาวคั่ว

ขั้นตอนการปรุง 

1.ปั่นฟักทองกับกระเทียมจนเข้ากันดี 

2.จากนั้นเติมนมถั่วเหลือง น้ำมันมะกอก น้ำส้มหมักธรรมชาติ ปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน 

3.จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลและเกลือ ชิมรสจนพอใจ 

4.โรยงาขาวคั่ว จัดเสิร์ฟพร้อมกับผักสดหรือผักย่าง หรือเก็บใส่ในกระปุกที่ฆ่าเชื้อแล้ว 

5.ปิดฝาให้สนิทแช่ใส่ในตู้เย็นอยู่ได้นานราว 1 สัปดาห์

enjoy!

ภาพถ่าย: ม็อบ อรุณวตรี