ไข่ไก่คือวัตถุดิบยอดนิยมที่เราทุกคนต่างก็รู้จักกันดี ด้วยสารอาหารที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน เลซิทิน โคลีน วิตามินบี 12 และโอเมก้า 3 รวมไปถึงรสชาติอันคุ้นเคยและสามารถนำมาปรุงอาหารได้สารพัดเมนู ไม่แปลกใจที่ไข่จะเป็นวัตถุดิบติดบ้านที่ทุกคนจะขาดไม่ได้ แน่นอนว่าไข่ไก่นั้นทั้งอร่อยและหาซื้อได้ง่าย แต่จะมีสักกี่ครั้งกันที่เรารู้ว่าไข่ไก่ที่เรากินมาจากไหน มีการเลี้ยงดูอย่างไร ไปจนถึงปลอดภัยแค่ไหนเมื่อเข้าไปอยู่ในร่างกายเรา

แม่ไก่ในกรงตับ

ปัจจุบัน สถิติการกินไข่ของคนไทยนั้นอยู่ที่ประมาณ 240 ฟอง/คน/ปี และมีแนวโน้มว่าจะบริโภคเพิ่มขึ้นจากการส่งเสริมของรัฐ ความต้องการที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ไข่กลายเป็นสินค้าอุตสาหกรรมที่ผู้ผลิตต้องพยายามหาวิธีการต่างๆ เพื่อให้ได้ไข่ในปริมาณที่มาก หนึ่งในวิธีที่มักนำมาใช้กันคือการเลี้ยงไก่แบบกรงตับซึ่งเป็นการเลี้ยงระบบปิด โดยนำไก่เข้าไปอยู่ในกรงขนาดพอดีตัว ไม่ให้แม่ไก่ออกไปไหน เพื่อความง่ายและสะดวกในการเก็บไข่ การให้น้ำและอาหาร รวมถึงการดูแลของผู้ผลิต

แต่การเลี้ยงไก่แบบนี้มีผลข้างเคียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความเครียดของแม่ไก่เนื่องจากถูกจำกัดพื้นที่ในการชีวิต อาหารที่ไก่กินมักเป็นเมล็ดข้าวโพดซึ่งเป็นผลผลิตจากการเกษตรเชิงเดี่ยวมีมักมีการใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงในกระบวนการปลูกที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในหลายทาง มากไปกว่านั้น ไก่ในกรงตับนั้นยังมีความเสี่ยงต่อโรคที่สูงกว่าการเลี้ยงไก่แบบปล่อย ทำให้แม่ไก่เหล่านี้มักได้รับยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันโรคเป็นประจำ ล่าสุดผลทดสอบ ‘การตกค้างจากยาปฏิชีวนะในเนื้ออกไก่และตับไก่สด’ โดยมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) ร่วมมือกับเครือข่ายผู้บริโภคกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่าอกไก่และตับไก่กว่าร้อยละ 40 มีการตกค้างของยาปฏิชีวนะ การตกค้างเหล่านี้ส่งผลอันตรายทั้งต่อมนุษย์และสัตว์ เพราะการได้รับยาดังกล่าวในปริมาณมากและบ่อยครั้ง จะส่งผลให้เกิดการดื้อยาปฏิชีวนะในการรักษาโรคและอาจมีการแพ้ยา รวมถึงอาการไม่พึงประสงค์อื่นๆ ตามมาได้ ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าไข่ไก่ที่เป็นหนึ่งในผลผลิตจากแม่ไก่ ก็จะมีแนวโน้มของสารตกค้างไม่ต่างกัน

ไข่ดีจากไก่ดี

ไข่ไก่ทั่วไปในระบบอุตสาหกรรมที่มาจากแม่ไก่ในกรงตับนั้นมักเป็นไข่ที่มีไขมันสูงแต่คุณค่าทางสารอาหารต่ำ อีกทั้งยังไม่ค่อยปลอดภัยเนื่องจากการใช้สารเคมีและการกินอาหารสำเร็จรูป ในทุกวันนี้กระแสไข่ไก่อารมณ์ดีจึงเป็นที่สนใจของผู้บริโภค เนื่องจากไข่ไก่อารมณ์ดีนั้นจะมาจากแม่ไก่ในฟาร์มที่ใส่ใจในกระบวนการเลี้ยงดู ซึ่งแม่ไก่เหล่านี้จะมีความเป็นอยู่ที่ดี มีโอกาสได้วิ่งเล่นและใช้ชีวิตตามธรรมชาติที่ควรจะเป็น ไข่ไก่อารมณ์ดีนอกจากจะปลอดภัยแล้ว ยังมีผลวิจัยจากกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) ที่พบว่าในไข่ไก่ปลอดภัยนั้น มีเบต้าแคโรทีนมากกว่าไข่ไก่เชิงอุตสาหกรรมถึง 7 เท่า มีวิตามินอีมากกว่า 3 เท่า และมีกรดไขมันโอเมก้า 3 มากกว่า 2 เท่า

ชวนคนเมืองมาเลี้ยงแม่ไก่อารมณ์ดี

หนึ่งในวิธีการซึ่งเราจะมั่นใจว่าได้ไข่ไก่ที่ปลอดภัยจริงๆ คงหนีไม่พ้นการเลี้ยงไก่เอง แต่ชีวิตคนเมืองที่ถูกจำกัดทั้งพื้นที่ทั้งคงเป็นเรื่องยากที่เราจะมีโอกาสเลี้ยงไก่เองได้ โครงการไข่ยิ้ม จากมูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน จึงมาสร้างความเป็นไปได้ให้คนเมืองสามารถทั้งเรียนรู้เรื่องการเลี้ยงไก่และได้ไข่ที่ปลอดภัยโดยไม่ต้องลงไปเลี้ยงเองเต็มตัว

“โครงการนี้เริ่มต้นมาจาก ป้าหน่อย-พอทิพย์ เพชรโปรี แห่งร้าน Health Me ได้ไปดูพื้นที่ตั้งใหม่ของมูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน ซึ่งพื้นที่ด้านหลังเป็นดินถมที่มักจะปลูกอะไรไม่ขึ้น วิธีการบำรุงดินอย่างหนึ่งที่ป้าหน่อยคิดคือการเลี้ยงไก่ เพราะมันจะมีขี้ไก่ มีการคุ้ยเขี่ยของไก่ และได้ไข่ไก่ให้กับคนทำงานในมูลนิธิกินด้วย” ธีรพจน์ เมฆเอี่ยมนภา ผู้ดูแลระบบบอกเราถึงที่มาของโครงการ

“เราคิดต่อยอดกันว่าอยากให้พื้นที่ดังกล่าวสร้างทำประโยชน์ใช้สอยให้กับมูลนิธิฯ ได้ในระยะยาว โชคดีที่ได้พี่อำนาจจากแทนคุณฟาร์มออร์แกนิค ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเลี้ยงไก่ไข่ออร์แกนิกมาเป็นที่ปรึกษา ซึ่งพี่อำนาจประเมินพื้นที่ให้สร้างโรงเลี้ยงที่น่าจะสามารถเลี้ยงไก่ได้ประมาณ 300 ตัว บวกกับตอนนี้คนเมืองก็หันมาสนใจการเลี้ยงไก่ การกินไข่แบบปลอดสารปฏิชีวนะมากขึ้น โครงการไข่ยิ้มจึงเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา”

โครงการไข่ยิ้มเป็นการระดมทุน 2,000 บาท เพื่อนำมาเลี้ยงไก่ในโรงเลี้ยงที่จะอยู่บริเวณหลังตึกสถานที่ตั้งใหม่ของมูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน ซึ่งสมาชิกจะได้ไข่ไก่ที่ปลอดภัย 210 ฟอง ทยอยส่งถึงบ้านไปทุกเดือน นอกจากนี้ยังจะได้อบรมเรื่องการเลี้ยงไก่รวมถึงสามารถเข้ามาเก็บไข่และดูแลไก่ร่วมกับมูลนิธิได้ด้วย

“เราจะพูดบ่อยๆ กับคนเมืองที่สนใจว่าถ้าคุณต้องการแค่ไข่ไก่โครงการอาจจะไม่เหมาะ แต่ถ้าคุณอยากเลี้ยงไก่ แต่ยังไม่กล้าเพราะมันมีข้อจำกัดหลายๆ อย่าง ตรงนี้อาจจะเป็นพื้นที่ที่จะเรียนรู้ เผื่อวันหนึ่งจังหวะพร้อม โอกาสพร้อม ก็สามารถไปเลี้ยงไก่ได้เอง ในสถานที่ที่ตัวเองมี”

เส้นทางอาหารปลอดภัยเริ่มจากไข่ยิ้ม

โครงการไข่ยิ้มคือหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่จะทำให้คนเมืองได้เรียนรู้และเข้าถึงอาหารปลอดภัยได้ง่ายขึ้น “ไข่ไก่มันสามารถเล่าเรื่องได้มากมาย เราอยากชวนคนเมืองให้มาเรียนรู้ว่าอาหารที่เรากินมีหลากหลายมิติ ไม่ใช่แค่กินอร่อย อย่างเรื่องของไข่ไก่ เราก็พยายามจะอธิบายให้เข้าใจว่าหลักการของไก่แบบนี้มันต่างจากไข่ไก่ทั่วไปอย่างไร เราตั้งใจเอาไว้ว่าในเพจโครงการไข่ยิ้ม จะเป็นแหล่งให้เราจะเรียนรู้เรื่องการเลี้ยงไก่ เรื่องไข่ออร์แกนิก รวมถึงเครือข่ายอาหารปลอดภัยที่ยั่งยืนไปด้วยกัน”

โครงการไข่ยิ้มคือส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นใน City farm ฟาร์มคนเมือง หรือสวนชีววิถี พื้นที่แห่งการเรียนรู้ด้านเกษตรกรรมยั่งยืน ต.ไทรม้า จังหวัดนนทบุรี ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเรียนรู้เรื่องอาหารปลอดภัยและการเลี้ยงไก่ออร์แกนิก ผู้ที่สนใจสามารถสมัครหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการได้ทางเพจได้เลย

FB: โครงการ ไข่ยิ้ม
อ้างอิงข้อมูล: www.thaihealth.or.th/