ในยุคค่าไฟกระฉูดเช่นนี้ การวางแผนใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเลยเป็นเรื่องควรทำเป็นเงาตามตัว โดยเฉพาะการใช้เครื่องซักผ้าที่เราเชื่อว่าแต่ละบ้านต้องใช้งานอย่างน้อยสัปดาห์ละหน Greenery. เลยขอเสนอเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยประหยัดพลังงานและค่าไฟจากกิจกรรมซักผ้า แถมยังอาจทำให้ผ้าสะอาดกว่าที่เคยด้วย

ซักผ้าในน้ำเย็น
สำหรับผ้าทั่วไปที่ใช้ในชีวิตประจำวัน การซักด้วยอุณหภูมิแค่ 20°C – 30°C ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว การซักผ้าด้วยอุณหภูมิสูงกว่าไม่ได้แปลว่าความร้อนจะช่วยให้ผ้าสะอาดกว่า หากแต่กินไฟมากกว่าอย่างแน่นอน ส่วนอุณภูมิสูง 60°C เก็บไว้ซักผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัว ผ้าที่มีคราบสกปรกมากจะดีกว่า เพราะผ้าเหล่านี้ต้องใช้ความร้อนช่วยในการขจัดแบคทีเรีย และเพื่อให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น อาจตั้งค่าการซักเป็นโหมด eco ด้วย

ไม่เต็มถัง ยังไม่ซัก
ไม่ว่าจะใส่ผ้าครึ่งถังหรือเต็มถัง เครื่องซักผ้าก็ใช้พลังงานเท่าเดิม ทางที่ดีจึงควรซักผ้าเมื่อมีปริมาณเยอะพอจะใส่ให้เต็มถัง แต่ข้อควรระวังคือ อย่าใส่ผ้าจนแน่นถัง วิธีทดสอบว่าแน่นหรือยัง คือ ถ้ายังเหลือพื้นที่ให้สอดแขนเข้าไปได้ แปลว่าผ้าในถังอยู่ในปริมาณไม่อัดแน่นเกิน ที่ต้องกำชับแบบนี้ก็เพราะว่า การอัดผ้าใส่ถังเยอะเกินจะทำให้ตัวปั่นต้องทำงานหนักขึ้น อายุการใช้งานเครื่องซักผ้าสั้นลง และทำให้ซักผ้าได้ไม่สะอาดเท่าที่ควร

แยกน้ำหนักตอนปั่นผ้า
ในขั้นตอนการปั่นหมาดหรืออบแห้ง การแยกผ้าตามความหนักของผ้าช่วยลดการทำงานของเครื่อง และช่วยให้ผ้าแห้งไวขึ้น เช่น ไม่ปั่นหมาดเสื้อยืดกับผ้าเช็ดตัวพร้อมกัน

ใช้ลูกบอลอบผ้า
ทั้งลูกบอลอบผ้าที่ทำมาจากยางหรือขนสัตว์สามารถย่นเวลาในขั้นตอนการอบแห้ง เพราะเจ้าลูกบอลนี้จะเข้าไปช่วยเพิ่มกระแสลมในถัง ทำให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น ประหยัดไฟและพลังงานถึง 20%-25% ผลพลอยได้อีกอย่างคือ ลูกบอลอบผ้าช่วยให้ผ้านุ่ม จนถึงขั้นไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาปรับนุ่มในขั้นตอนก่อนหน้าเลย แถมยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่า เพราะใช้ซ้ำได้มากกว่า 1,000 ครั้ง และไม่ทิ้งสารปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม

ซักผ้าช่วงค่าไฟถูก
ติดตามข้อมูลจากการไฟฟ้าในพื้นที่บ้านตัวเอง เพื่อตรวจสอบอัตราค่าไฟฟ้าที่จะถูกลงเกินครึ่งในช่วงต้องการไฟฟ้าต่ำ หรือ Off-Peak โดยส่วนใหญ่แล้วค่าไฟช่วง Off-Peak ของบ้านเราตามที่ทั้งการไฟฟ้านครหลวงและส่วนภูมิภาคแนะนำเอาไว้ คือ 4 ทุ่มถึง 9 โมงเช้าในวันทำงาน และตลอดทั้งวันในวันหยุด หากต้องการประหยัดไฟอย่างจริงจัง ก็อาจปรับตารางการซักผ้าในบ้านตัวเองให้เข้ากับตารางค่าไฟฟ้าก็ได้นะ

ยืดอายุเครื่องซักผ้า
หมั่นทำความเครื่องซักผ้าทุก 3 เดือน อาจใช้น้ำยาทำความสะอาดเครื่องซักผ้า หรือผสมน้ำยาเองจากของที่มีอยู่ในบ้าน ด้วยการเทน้ำส้มสายชู 2 ถ้วยตวงลงในช่องใส่น้ำยาซักผ้า แล้วเปิดเครื่องซักผ้าให้ทำงานด้วยอุณหภูมิสูง หลังปั่นครั้งแรกเสร็จ ให้เติมเบกกิ้งโซดา ½ ถ้วยตวงลงไปโดยตรงในถังซัก แล้วเปิดเครื่องซักผ้าให้ทำงานด้วยอุณหภูมิสูงอีกครั้ง การหมั่นทำความสะอาดจะช่วยให้เครื่องซักผ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนใหม่

ฝาหน้าดีกว่าฝาบน
สำหรับบ้านไหนที่กำลังจะซื้อเครื่องซักผ้าใหม่ ขอแนะนำเป็นแบบฝาหน้าดีกว่า เพราะใช้พลังงานน้อยกว่า 45% และใช้น้ำน้อยกว่าถึง 50%

อ้างอิงจาก :
– energysavingtrust.org.uk/how-save-energy-when-using-your-washing-machine
– www.mea.or.th/profile/110/266
– www.cnet.com/home/kitchen-and-household/turns-out-there-is-a-wrong-way-to-do-laundry-and-its-costing-you-cash
– www.mirror.co.uk/money/washing-machine-hacks-keep-energy-26222424