ณ ดาดฟ้าของอาคารสำนักงานแห่งหนึ่งใจกลางเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศ เดนมาร์ก กลุ่มอาสาสมัครกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันสร้างชุมชนคนสวนดาดฟ้าขึ้นชื่อว่า ØsterGro พวกเขาเห็นปัญหาของคนเมืองที่ขาดความรู้เรื่องอาหารปลอดภัย เส้นทางอาหาร และขาดพื้นฐานเรื่องการผลิตอาหารด้วยตนเอง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการสร้างพื้นที่เกษตรในเมืองให้เป็นแหล่งอาหารและเป็นพื้นที่เรียนรู้สำหรับคนในชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในอาคารมีดาดฟ้า อีกทั้งยังต้องการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเมือง และเกิดการเชื่อมโยงคนเมืองกับเรื่องการผลิตอาหารด้วยตนเองอีกด้วย
ØsterGro เป็น โครงการลักษณะ CSA (Community Supported Agriculture ) โดยมีระบบให้ผู้ที่สนใจจ่ายค่าสมาชิก รายปี เพื่อเป็นค่าดำเนินการปลูกผัก เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว สมาชิกจะสามารถขึ้นมาเก็บผลผลิตของตนองได้ อาสาสมัครคนหนึ่งจากโครงการนี้ เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของโครงการ พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจาก สวนผักดาดฟ้าในเมืองใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และที่เมืองรอตเทอร์ดาม ประเทศเนเธอแลนด์ หลังจากตัดสินใจที่จะทำโครงการสวนเกษตรดาดฟ้านั้น ทางทีมงานอาสาสมัคร พยายามเสาะหาพื้นที่ดาดฟ้าต่าง ๆ ทั่วกรุงโคเปนเฮเกน จนมาได้ดาดฟ้าของตึกนี้มา ซึ่งถือว่าโชคดีมากที่เจ้าของตึกเองก็ต้องการใช้พื้นที่ว่างบนดาดฟ้าให้เป็นประโยชน์ เจ้าของตึกจึงอนุญาตให้อาสาสมัครกลุ่มนี้ใช้พื้นที่บนดาดฟ้าได้โดยไม่เก็บค่าเช่า แต่ต้องรับผิดชอบจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟเองเท่านั้น ข้อดี อีกอย่างของตึกนี้คือ ตึกนี้มีความเพียงสูงสามชั้น มีลิฟท์ขนของสะดวกสบาย และตัวตึกนี้ตั้งถัดจากอาคารสูงซึ่ง ช่วยทำหน้าที่บังแรงลมให้กับผักบนดาดฟ้าได้ และไม่มีปัญหาเรื่องแสงแดดสำหรับการเพาะปลูก
แปลงผักดาดฟ้าของ Øster Gro ถือเป็นสวนเกษตรดาดฟ้าแห่งแรกๆ ของเมืองโคเปนเฮเกน ที่มีความแตกต่างจากแปลงผักดาดฟ้าทั่วไปๆไปที่เคยเห็น โดยพื้นที่เกือบทั้งหมดจะยกพื้นสูงขึ้นมาจากพื้นดาดฟ้าแล้วใช้ดินประมาณ 110 ตัน เทลงไป ทำเป็นแปลงผักยาวเต็มเกือบทั้งพื้นที่ของดาดฟ้า ดินที่นำมาใช้เป็นดินชนิดเบา ผสมกับวัสดุปลูก เช่น เศษหินภูเขาไฟ ที่มีลักษณะเบาและมีแร่ธาตุ เหมาะสำหรับเป็นวัสดุปลูกผักบนดาดฟ้า โดยชั้นล่างสุดของพื้นที่จะวางแผ่นอุ้มน้ำ ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาคล้าย ๆ กับ ถาดใส่ไข่ไก่ แต่ทำมาจากพลาสติก มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำ เป็นเทคนิคที่ดีในการช่วยรักษาความชุ่มชื่นและทำให้ไม่ต้องรดน้ำบ่อย ๆ
ส่วนใหญ่ผักที่ปลูกเป็นผักตามฤดูกาล มีตั้งแต่ เคล ผักกะหล่ำ มะเขือเทศ มันฝรั่ง ฟักทอง กะเพรา สมุนไพร และดอกไม้กินได้ เป็นต้น โดยการรดน้ำของแปลงผักดาดฟ้าแห่งนี้ ติดตั้งระบบน้ำหยดอัตโนมัติ นอกจากแปลงผักที่มีขนาดเกือบ 70% ของพื้นที่ดาดฟ้าแล้ว พื้นที่ตรงกลางของดาดฟ้า เป็นที่ตั้งของโรงเรือนปลูกผักใช้สำหรับเพาะชำต้นกล้า และปลูกผักในกระถางต่าง ๆ อีกทั้งยังมีพื้นที่เล็ก ๆ ใช้สำหรับเลี้ยงผึ้งเพื่อสร้างระบบนิเวศที่สมดุลให้กับสวนและเมืองบริเวณโดยรอบ
อาสมัครทุกคนที่มาทำงานบนสวนดาดฟ้าแห่งนี้ บางคนมีพื้นฐานการทำเกษตรอยู่บ้าง บางคนไม่มีเลย ทุกคนอาศัยการศึกษาวิธีการปลูกผักกันเองและลองผิดลองถูกไปเรื่อย ๆ บางครั้งมีอาสาสมัครที่เป็นเกษตรกร มาช่วยให้คำปรึกษาและช่วยดูแลแปลงผักบ้างแลกเปลี่ยนความรู้กัน นอกจากนั้นงานอื่น ๆ เช่น การสร้างโรงเรือนเพาะชำ โรงเลี้ยงไก่ อาสาสมัครจะประกาศขอรับความร่วมมือจากนักเรียน และอาจารย์จากโรงเรียนฝึกอาชีพ มาช่วยสร้าง ซึ่งเด็กนักเรียน นักศึกษาก็จะได้ฝึกงานของนักเรียนไปในตัวด้วย
สำหรับสมาชิกผู้เข้าร่วมโครงการนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้ที่อยู่อาศัยอยู่ละแวกชุมชนนี้ บางคนเป็นคนที่อาศัยอยู่ตามตึกสูงละแวกนี้ เมื่อมองลงมาเห็นกิจกรรมบนแปลงผักสนใจก็เลยขอเข้ามาร่วมด้วย นอกจากนั้น พื้นที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ จัดกิจกรรมเวิร์กช็อป สาธิตการปลูกผัก เลี้ยงไก่ เลี้ยงผึ้ง และการทำอาหารออร์แกนิคบนดาดฟ้า และใช้พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่รวมตัวจัดกิจกรรมของคนในชุนชนอีกด้วย ถือได้ว่า เป็นที่ที่ได้รับความสนใจแห่งหนึ่งของคนบนดาดฟ้าทุกเพศ ทุกวัย ในกรุงโคเปนเฮเกนเลยทีเดียว