ช่วงเวลาปิดเทอมกำลังจะวนกลับมาอีกครั้ง!

ครอบครัวไหนที่ยังไม่มีแพลนสำหรับกิจกรรมช่วงปิดเทอมที่กำลังจะมาถึง หรือเบื่อหน่ายกับสถานที่อันจำเจที่ไปซ้ำแล้วซ้ำอีก เราอยากขอแนะนำการท่องเที่ยวที่อาจจะแปลกใหม่สำหรับใครหลายๆ คน แถมยังได้เปลี่ยนบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ กับฟาร์มสเตย์ทั้ง 4 ภาค ที่ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวสายเดินทางใกล้หรือเดินทางไกล เราก็คัดสรรที่พักน่าสนใจมาให้อย่างดี แล้วแน่นอนว่าปิดเทอมนี้จะกลายเป็นปิดเทอมที่ได้เอนจอยกันทั้งครอบครัวอย่างแน่นอน!

ไปง่ายๆ ใกล้กรุงกับฟาร์มสเตย์จิ๋วแต่แจ๋ว

Machill Home นครปฐม

ด้วยความตั้งใจที่จะเบียดเบียนโลกให้น้อยที่สุด ทั้งเกล้าและกุ้ง สองเจ้าของ Machill Home ใกล้เมืองกรุงแห่งนี้ จึงเริ่มต้นจากการทดลองผลิตอาหารด้วยตนเองผ่านการทำฟาร์มขนาดกะทัดรัดที่มีผักอร่อยๆ ปลอดสารพิษ มากพอจะนำไปทำอาหารเองได้ จนขยายมาสู่บ้านพักขนาดเล็ก 2 หลังซึ่งยินดีต้อนรับทุกครอบครัวที่อยากจะมาเปลี่ยนบรรยากาศ ใกล้ชิดธรรมชาติ แถมยังได้เรียนรู้วิธีการรักษ์โลกแบบง่ายๆ ติดตัวกลับไปด้วย เพราะที่นี่มีโจทย์อันท้าทายคือการเป็นบ้านพักแบบ zero waste ที่จะใช้ประโยชน์จากขยะทุกชิ้นให้ได้มากที่สุด

ถึงจะจิ๋วแต่ที่นี่ก็อัดแน่นไปด้วยกิจกรรมแจ๋วๆ แถมยังน่าทำ ที่เราเชื่อว่าจะสนุกกันได้ทั้งครอบครัวแน่ๆ ทั้งการมาเก็บผัก ร่วมกันทำฟาร์ม ทำขนมโฮมเมด แล้วแวะถ่ายรูปน่ารักๆ ก่อนจะแยกย้ายไปพักในห้องสไตล์มินิมอลบรรยากาศสบายๆ แต่สำหรับครอบครัวไหนที่จองมาไม่ทัน ที่นี่ก็ยังมีกิจกรรมออร์แกนิกฟาร์มดินเนอร์ ให้มากินได้แบบเช้าไปเย็นกลับ โดยมีตัวชูโรงคือพิซซ่าโฮมเมด ที่มีหลายเสียงการันตีมาว่าอร่อยๆ สุด แถมถ้าสะดวกจะแวะมาช่วยกันทำก่อนกินที่นี่ก็ยินดีต้อนรับด้วยล่ะ

ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกกิจกรรมของ Machill Home ควรจะจองคิวกันล่วงหน้าสัก 1 อาทิตย์ หรือติดตามตารางกิจกรรมที่น่าสนใจ แล้วจองให้เรียบร้อยในเพจเฟซบุ๊กก่อนที่จะยกครัวกันไปทำกิจกรรมนะ 

FB: www.facebook.com/machillhome

บ้านกลางทุ่งออร์แกนิกโฮมสเตย์ กาญจนบุรี

เปลี่ยนเวลาอันแสนวุ่นวายในเมืองใหญ่ให้ช้าลงที่บ้านกลางทุ่ง จังหวัดกาญจนบุรี ด้วยแนวคิดของป้าแอ๊ด ซึ่งย้ายจากตัวเมืองเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่หนองขาว อำเภอเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากอำเภอเมือง แต่มีความสงบ ร่มรื่น และมีวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจ จนทำให้เธอและชุมชนร่วมกันตัดสินใจทำโฮมสเตย์แบบเรียบง่ายไว้คอยต้อนรับผู้มาเยือน 

“เรามีคอนเซ็ปต์คือ มาอยู่แบบฉัน มาใช้ชีวิตแบบฉัน ดังนั้นคนที่มาจะต้องสนใจเรื่องวิถีสุขภาพก่อนเป็นอันดับแรก เพราะที่นี่เราเน้นทำอาหารง่ายๆ จากวัตถุดิบออร์แกนิกที่เราปลูกเป็นหลัก โดยเราจะดูแลแขกที่มาพักอย่างใกล้ชิด คือถึงแม้จะมีบ้านพักแยก แต่เราก็ชวนกันมาทำอาหาร มากินข้าว มาทำกิจกรรมร่วมกันได้” ป้าแอ๊ดอธิบาย

นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีกิจกรรมให้เลือกทำอีกมากมาย ทั้งสอนทำอาหารไทยแบบง่ายๆ สอนร้อยมาลัย สอนสานปลาตะเพียนตามฉบับวิถีไทย และถ้าหากทำกิจกรรมในบ้านจนเบื่อแล้ว ป้าแอ๊ดยังยินดีพาเราออกไปเที่ยวเล่นในชุมชน เรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น อย่างการไปดูกระบวนการทอผ้าขาวม้าร้อยสี ซึ่งเป็นสินค้าโอท็อปของชุมชน ไปดูโรงสีข้าวโบราณ แล้วแวะไหว้พระในวัดสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง หรือถ้ามาในช่วงเทศกาล ป้าแอ๊ดก็คอนเฟิร์มกับเราว่ายังมีกิจกรรมสนุกๆ ที่รอต้อนรับอยู่อีกเพียบ

FB: www.facebook.com/bktorganichomestay

ขึ้นเหนือรับลมหนาวบนที่พักกลางหุบเขา

บ้านทาปันรักษ์ ลำพูน

บ้านทาปันรักษ์เป็นหนึ่งในศูนย์การเรียนรู้เรื่องออร์แกนิกฟาร์มต้นแบบของออร์แกนิกไทยแลนด์ ด้วยความที่ก้อย เจ้าของฟาร์มเป็นติวเตอร์มาก่อน เธอจึงชวนเด็กๆ ในชุมชนเข้ามาเรียนรู้เรื่องบ้านดิน แล้วร่วมแรงร่วมใจกันสร้างในเวลาสั้นๆ จนได้บ้านดินสองชั้นในราคาประหยัดมาหนึ่งหลัง ที่ต่อมาได้เปิดเป็นห้องพักให้กับผู้ที่สนใจเข้ามาเรียนรู้เรื่องการทำฟาร์มออร์แกนิก หรือครอบครัวเล็กๆ ที่อยากมาเข้าพักในบรรยากาศแบบสวนที่บ้าน

“ช่วงแรกเราทำเป็นแปลงผักออร์แกนิกเฉยๆ แต่ต่อมาเรารู้สึกว่าแค่การลงมือปลูกมันไม่พอ สิ่งนี้มันสามารถขยายไปยังก้าวต่อๆ ไปได้ เราเลยเริ่มเปิดศูนย์การเรียนรู้ เพราะเรารู้สึกว่าการเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่หน่วยงานใหญ่ๆ ของภาครัฐหรือเอกชนเท่านั้น แต่จะเป็นใครก็ได้” ก้อยกล่าว

ดังนั้นหากใครมีโอกาสแวะมา นอกจากการทำกิจกรรมปลูกผักง่ายๆ แล้ว ที่นี่ยังมีเตาอบพิซซ่าให้เราได้ลองทำพิซซ่าสไตล์โฮมเมด หรือจะลองมาทำขนมและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากพืชผักออร์แกนิกในสวนไปเป็นของใช้ต่างๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

นอกจากนี้ พื้นที่เล็กๆ อีกส่วนหนึ่งของฟาร์มยังถูกดัดแปลงเป็นคาเฟ่ปลอดขยะ ที่เน้นรับขนมจากกลุ่มออร์แกนิกในชุมชนใกล้เคียงมาขาย และนำวัตถุดิบที่หาได้จากในฟาร์มมาทำเป็นขนมรักสุขภาพที่อร่อยได้ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ให้เราลองชิมด้วยนะ

FB: www.facebook.com/TapunrakOrganicFarm

สวนศิลป์บินสิ ลำพูน

เราขอออกตัวก่อนว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่โฮมสเตย์ แต่เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่เหมือนได้มาเข้าค่ายแบบใกล้ชิดธรรมชาติเสียมากกว่า

สวนศิลป์บินสิเป็น film farm school จากแนวคิดของเนาว์ ผู้กำกับสาวซึ่งย้ายถิ่นฐานจากเมืองกรุงมาเพื่อรักษาอาการป่วยของพ่อ จนพบว่าสถานที่แห่งนี้มีดีมากกว่าแค่บรรยากาศดีๆ ไม่มีมลพิษ เพราะมันคือการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของครอบครัวเธอด้วย และเมื่อเจอสิ่งที่ดีเนาว์จึงอยากจะบอกต่อ ดังนั้นการมาเยี่ยมเยือนที่นี่จึงเป็นการเข้ามาเรียนรู้ทั้งเรื่องทักษะชีวิตและการเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติอย่างไรให้สมดุล

“เราเริ่มจากการทดลองทำคอร์สบ้านดิน เพื่อสอนทักษะชีวิต จนหลังๆ เราพบว่าคนที่มาเข้าร่วมเป็นคนเมืองกับชาวต่างชาติเสียเยอะ และเมื่อเขากลับไปมันเอาไปทำจริงไม่ได้ แต่ที่เขามาเพราะเขาอยากได้แรงบันดาลใจ เราเลยเริ่มขยายคอร์สออกมาให้หลากหลายมากขึ้น โดยอาศัยสิ่งที่เราเรียนรู้จากการเป็นผู้กำกับและการใช้ชีวิตที่นี่ ทั้งคอร์สสอนทำสารคดี สอนทำอาหาร สอนทอผ้า ไปถึงการออกแบบพื้นที่ชีวิต” เนาว์เล่า

จนหลังๆ เมื่อมีผู้มาร่วมเรียนรู้หลากหลาย เนาว์จึงเริ่มเปิดคอร์สสนุกๆ ให้กับเด็กๆ ระหว่างที่มารอคุณพ่อคุณแม่ทำกิจกรรม โดยเธอเล่าว่าที่นี่มีกิจกรรมเหมาะกับเด็กทุกวัยทั้งการวิ่งเล่นบนดินให้ใกล้ชิดธรรมชาติ ลงแปลงนา แล้วมาทำงานศิลปะ สำหรับเด็กเล็กๆ ไปจนถึงกิจกรรมที่เป็นจริงเป็นจังขึ้นมาหน่อยแต่สนุกไม่แพ้กันสำหรับเด็กโต

ดังนั้นครอบครัวไหนที่สนใจ เราก็ขอแนะนำว่าให้ลองเข้าไปหาคอร์สที่ใช่และลงตัวกันทั้งครอบครัวก่อนได้ในเพจเฟซบุ๊ก หรือจะทักไปถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากเนาว์เพื่อเลือกคอร์สที่เหมาะสมก่อนจองคิวก็ยังได้ แล้วปิดเทอมนี้ก็จะกลายเป็นปิดเทอมที่ได้ใช้เวลากันอย่างคุ้มค่าทั้งครอบครัวแน่นอน

FB: www.facebook.com/filmsfarmschool

Hippo Campus เชียงดาว

บ้านพักที่อุ่นทั้งกายอุ่นทั้งใจเมื่อได้มานอน น่าจะเป็นสิ่งที่อธิบายความเป็น Hippocampus ได้มากที่สุด เพราะพิมและเรียวผู้โยกย้ายตัวเองจากกรุงเทพฯ มาลงหลักปักฐานอยู่ที่นี่เล่าให้เราฟังว่า พวกเขาอยากให้สถานที่แห่งนี้เหมือนการได้มานอนพักแล้วกินข้าวอร่อยๆ ที่บ้าน ดังนั้นอะไรที่พวกเขาคิดว่าดีก็จะถูกส่งต่อมาถึงเราทั้งหมด

พวกเขาพยายามสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองแต่ก็เป็นส่วนตัวสุดๆ ให้กับผู้มาเข้าพัก ดังนั้นหากครอบครัวไหนอยากพาเด็กๆ มาวิ่งเล่น แล้วคุณพ่อคุณแม่จะมานั่งชมวิวกินบรรยากาศก็ไม่ว่ากัน หรือถ้าอยากจะมาขอทำกิจกรรมร่วมกันแบบสนุกทั้งครอบครัว ที่นี่ก็ยินดีต้อนรับเสมอ เพราะที่นี่มีทั้งแปลงนาขนาดเล็กให้มาช่วยเก็บเกี่ยวตามฤดูกาล หรือจะมาเก็บเมล็ดกาแฟ ช่วยปลูกผัก ยาวไปจนช่วยเลี้ยงเป็ด ไก่แบบง่ายๆ ก็ย่อมได้ 

“เพราะเราเป็นคนกรุงเทพฯ มาก่อน ดังนั้นเราเลยพยายามหาความสมดุลให้กับทุกสิ่งที่เราทำและพยายามทำให้วิถีชีวิตที่นี่ยังมีความสนุกแบบคนเมือง แต่ก็สงบสุขใกล้ชิดธรรมชาติแบบต่างจังหวัด” พิมเล่า

เมื่อทำกิจกรรมจนเหนื่อยแล้ว ที่นี่ก็ยังมีคาเฟ่โฮมเมดและแกลเลอรี่หมุนเวียนเล็กๆ ให้มานั่งพักกินขนมอร่อยๆ แล้วเสพงานศิลป์กันได้ทั้งครอบครัว เพื่อเป็นการชาร์จพลังบวกและเติมแรงบันดาลใจให้ได้กลับไปแบบเต็มอิ่มสุดๆ

FB: www.facebook.com/HippocampusChiangdao

แวะอีสานไปนอนสวนเกษตรผสมผสาน

วณพรรณออร์แกนิก การ์เดน ขอนแก่น

วณพรรณออร์แกนิก การ์เดน เป็นทั้งฟาร์มสเตย์และศูนย์การเรียนรู้ทางการเกษตรแบบผสมผสานที่เริ่มต้นจากการดัดแปลงที่นาของครอบครัวมาลองทำเกษตรทฤษฎีใหม่และทำธนาคารต้นไม้ของชุมชนเพื่อศึกษาเรื่องคาร์บอนเครดิตอย่างจริงจัง ซึ่งนอกจากปกติที่เปิดต้อนรับผู้เข้ามาศึกษาดูงานแล้ว นักท่องเที่ยวหรือครอบครัวไหนที่อยากจะเข้ามาพักผ่อนสบายๆ แต่ได้ความรู้ก็สามารถแวะเวียนเข้ามาได้เช่นกัน เพราะแขกและออย-สองผู้ก่อตั้งใช้เวลาศึกษาและลงมือปฏิบัติจริงนานนับสิบปี เพื่อให้แน่ใจว่าการทำเกษตรผสมผสานของที่นี่จะเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ยั่งยืนที่สุด

ดังนั้นนอกจากการลงไปเรียนรู้การทำนาและการทำการเกษตรตามฤดูกาลอย่างที่อื่นๆ แล้ว ที่นี่ยังมีจุดเด่นเรื่องการแปรรูปพืชผลต่างๆ ในสวนให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ทั้งสบู่ เครื่องสำอาง ถ่านหอมอโรม่า ที่นอกจากจะมีให้เราทดลองใช้ในที่พักแล้ว ยังสามารถจัดเป็นเวิร์กช็อปเล็กๆ เพื่อแบ่งปันวิธีการให้เราสามารถนำกลับไปต่อยอดเองที่บ้านก็ยังได้

FB: www.facebook.com/วณพรรณออร์แกนิก

ชวนลงใต้สัมผัสที่พักวิถีชุมชน

บ้านปันสุข เพชรบุรี

ฟาร์มสเตย์แบบเรียบง่าย ที่เน้นการอยู่กับธรรมชาติให้กลมกลืนที่สุดและพึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุด คือคอนเซ็ปต์ของบ้านปันสุข ด้วยที่พักแบบกระท่อมและบ้านไม้สบายๆ ให้ความรู้สึกเหมือนได้กลับมาเยือนบ้านต่างจังหวัดอีกครั้ง

โอ๊ตบอกว่า จุดเริ่มต้นของบ้านปันสุข คือการดัดแปลงที่นาซึ่งตกทอดมาจากรุ่นย่า ให้เป็นสถานที่ที่ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด ทั้งการปลูกผักออร์แกนิก เลี้ยงสัตว์ ทำนา และปลูกผลไม้ โดยเขาค่อยๆ ทดลองทำมาทีละอย่างสองอย่าง จนมีพืชผักเต็มสวน แล้วจึงตัดสินใจเปิดโฮมสเตย์เล็กๆ ให้ผู้เข้าพักได้ลองมาสัมผัสประสบการณ์ใกล้ชิดวิถีชุมชนแบบที่เขาทดลองมา

สิ่งที่น่าสนุกที่สุดของการมาเข้าพักที่นี่จึงเป็นการต้องดูแลตัวเองให้ได้ ทั้งการกางมุ้งนอนรับลมริมนา อาบน้ำจากโอ่ง ไปจนถึงกิจกรรมสนุกๆ ที่สามารถชวนเด็กๆ มาร่วมทำด้วยกันได้อย่างการเลี้ยงสัตว์ พรวนดิน และจุดเตาถ่านทำอาหาร ซึ่งเราต้องเตรียมวัตถุดิบจำพวกเนื้อสัตว์และข้าวมาเองจากบ้าน แล้วมาเลือกเก็บผักผลไม้ และไข่ของทางโฮมสเตย์ไปทำเองได้แบบจุใจ

FB: www.facebook.com/บ้านปันสุข-เพชรบุรี

บ้านไร่ชายเขา นครศรีธรรมราช

โฮมสเตย์เชิงเกษตรแห่งแรกของอำเภอเชียรใหญ่ น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวไหนที่ชอบเดินทางไกล แต่อยากได้บรรยากาศสวนกลางป่าแบบภาคใต้แท้ๆ 

ปัด-เจ้าของบ้านไร่ชายเขาบอกเราว่าสถานที่แห่งนี้เดิมทีเป็น ‘สวนสมรม’ หรือสวนที่อาศัยภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวใต้ปลูกไม้ดอก ไม้ผล ไม้ยืนต้นและพืชผักในพื้นที่เดียวกันโดยไม่ทำลายระบบนิเวศ เน้นให้พืชแต่ละชนิดพึ่งพาอาศัยกันเอง เมื่อเธอเริ่มอิ่มตัวกับงานประจำที่ทำอยู่เธอจึงตัดสินใจกลับมาสานต่อสถานที่แห่งนี้ และเพิ่มมูลค่าด้วยการเปิดโฮมสเตย์กลางสวนขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่

นอกจากพืชพรรณที่เราพบได้ในฟาร์มทั่วไปแล้ว ที่นี่ยังมีพืชผักผลไม้ท้องถิ่นที่เราเชื่อว่าน่าจะมีหลายชนิดที่เด็กๆ ยังไม่เคยเห็น ซึ่งจะกลายเป็นอาหารชาวใต้สไตล์บ้านๆ ด้วยฝีมือคนใต้แท้ๆ ให้คุณพ่อคุณแม่ได้อร่อยและให้เด็กๆ ได้ลองชิม ทั้งผัดกุ้งสะตอ แกงส้มปลากับมะมุด น้ำพริกกะปิผักสด และผัดผักจากพืชริมรั้ว รวมไปถึงสารพัดผลไม้ไทยทั้งส้มโอ มังคุด และเงาะตามแต่ฤดูกาลให้ติดไม้ติดมือกลับไปด้วย

กินข้าวกันจนอิ่มแล้วก็สามารถลงไปร่วมทำกิจกรรมตามวิถีชาวใต้กันได้ทั้งครอบครัว ทั้งไปเรียนรู้การตกปลา กรีดยาง แล้วมาลองทำรองเท้ายางพารา หรือจะทำขนมลาโบราณก็สนุกไปอีกแบบ

FB: www.facebook.com/BaanRaiChayKhaoFarmStay