ต้องถือว่าความรักและหวงแหนธรรมชาติของพระเอกอย่างลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ นั้นไม่ธรรมดาและนับวันจะทุ่มเทและทุ่มทุนเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติในแบบที่เราต้องปรบมือให้แบบยอมใจพี่เขาเลยจริงๆ

โดยโปรเจ็กต์ล่าสุดที่ตกเป็นข่าวไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เห็นจะหนีไม่พ้นข่าวที่เขาเทเงินกว่า 43 ล้านเหรียญ ผ่านองค์กรที่ทำงานด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่าง Rewild เพื่อสนับสนุนทุนในการปกป้องและฟื้นฟูธรรมชาติอันงดงามของหมู่เกาะกาลาปากอส และบรรดาเกาะต่างๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกแถบละตินอเมริกา

ถามว่าทำไมต้องเป็นองค์กรนี้ คำตอบก็คือเพราะนี่คือองค์กรที่ก่อตั้งโดยตัวเขาเอง ร่วมกับกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ด้านการอนุรักษ์ที่มีชื่อเสียงอีกจำนวนมาก รวมทั้ง Galápagos National Park Directorate กลุ่มอนุรักษ์เกาะและกลุ่มคนท้องถิ่น และที่สำคัญยังเป็นองค์กรที่เพิ่งก่อตั้งในปีนี้ด้วย

เงินจำนวน 43 ล้านเหรียญนี้ จะลงไปสนับสนุนโครงการที่ช่วยฟื้นฟูเกาะสำคัญแห่งหนึ่งในหมู่เกาะกาลาปากอสที่ชื่อ Floreana Island

ที่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ชนิดต่างๆ ที่กำลังเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ในขณะเดียวกันก็จะช่วยคืนสัตว์ท้องถิ่นที่เคยสูญพันธุ์ไปแล้วกว่า 13 ชนิดให้กลับมาใช้ชีวิตที่นี่ได้อีกครั้ง รวมถึงนกม็อกกิ้งเบิร์ดฟลอเรียอานา ที่เป็นนกม็อกกิ้งเบิร์ดชนิดแรกที่นักชีววิทยาอย่างชาร์ลส์ ดาร์วิน บรรยายไว้ในงานของเขาด้วย

ถ้าเข้าไปดูเว็บไซต์ของ Re:wild เชื่อว่าหลายคนน่าจะตื่นตาตื่นใจกับการทำงานของพวกเขาไม่น้อย ซึ่งเราก็ชอบตั้งแต่ tagline ของเขาแล้วที่บอกว่า Biodiversity is The Solution  (ความหลากหลายทางชีวภาพคือหนทางแก้ปัญหา) แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ เรื่องราวและข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์หายากบนเกาะกาลาปากอส เช่น พระเอกที่อยู่หน้าแรกของเว็บไซต์ก็คือ Pink Iguana หรืออีกัวน่าสีชมพู (ที่หน้าตาน่าเอ็นดูสำหรับเรามาก) ซึ่งตามข้อมูลบอกว่า นี่คือสัตว์ที่ใช้ชีวิตอยู่บนภูเขาไฟที่สูงที่สุดบนเกาะ (Wolf Volcano) เป็นภูเขาไฟที่อยู่บนเกาะอิซาเบลลา (ถึงตรงนี้ ก็อย่าเพิ่งสับสนชื่อเกาะ เพราะความจริงหมู่เกาะกาลาปากอส เป็นเกาะใหญ่ที่ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยอีกเป็นจำนวนมากนั่นแหละ) ดังนั้น เจ้าอีกัวน่าสีชมพูที่ว่า จึงได้วิวที่ดีที่สุดของเกาะนี้ไปครอง

แต่ขณะเดียวกัน อีกัวน่าสีชมพูกลับเป็นสัตว์อีกชนิดที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เพราะภูเขาไฟนี้ก็มีเวลาปะทุของมันเช่นกัน

เนื่องจากเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่สงบ และถ้าเกิดอะไรขึ้น ประชากรอิกัวน่าสีชมพูที่มีอยู่ราวๆ 200-300 ชีวิต ก็จะเป็นอันตรายไปด้วย และไม่ใช่แค่ภูเขาไฟที่เป็นอันตรายกับอิกัวน่าชนิดนี้ ยังมีแมวที่คนนำเข้ามาอยู่ในเกาะ และไล่ล่าอิกัวน่าชนิดนี้จนใกล้สูญพันธุ์อีกต่างหาก เนื่องจากเวลาที่อีกัวน่าวางไข่ แมวก็จะทำอันตรายไข่ที่กำลังจะฟักเป็นตัวไปซะ (อันนี้ก็ไม่รู้ว่าทำไมแมวถึงช่างดั้นด้นขึ้นไปล่าได้) กลุ่มนักอนุรักษ์ก็เลยต้องหาวิธีในการปกป้องอิกัวน่าชนิดนี้ไว้ เช่น ย้ายที่ฟักไข่และหาที่อภิบาลตัวอ่อน เพื่อป้องกันแมวมาคาบไปกินก่อนจะไม่เหลือเผ่าพันธุ์อีกัวน่าให้เห็นอีกในอนาคต นี่คือส่วนหนึ่งของภารกิจที่กลุ่ม Rewild มุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จต่อไปให้ได้ ตามความตั้งใจของกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้ง ที่มีความรักและห่วงใยธรรมชาติบนเกาะกาลาปากอสเหนือสิ่งอื่นใด

เรื่องนี้เห็นได้จากที่ลีโอนาร์โด เคยให้สัมภาษณ์ถึงประสบการณ์การไปเยือนหมู่เกาะกาลาปากอสว่า ตอนที่เขาไปเที่ยวที่นั่น เขาได้พบกับฮีโร่ด้านสิ่งแวดล้อมจำนวนมาก ที่ทำงานเช้าจดเย็นเพื่อช่วยปกป้องสถานที่แห่งนี้ อย่างยากจะมีที่ไหนบนโลกมาทดแทนได้

“ทั่วโลกใบนี้  ผืนป่าตามธรรมชาติกำลังลดลง เพราะพวกเราได้ทำให้ป่ากว่าสามในสี่ เสียหายและทำให้สัตว์กว่า 1 ล้านชนิดเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ผืนป่าที่เห็นอยู่ในโลกทุกวันนี้ อาจหายไปครึ่งหนึ่งในไม่กี่สิบปีข้างหน้า ถ้าเราไม่รีบทำอะไรสักอย่าง”

การทำอะไรสักอย่างของเขา จึงออกมาในรูปแบบของการก่อตั้งกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างจริงจังอย่างที่เห็น และหลังจากนี้ เขาก็ยังอนุญาตให้นักอนุรักษ์จาก Rewild ที่ชื่อ พอลลา คาสตาโน่ (Paula Castaño) ซึ่งเป็นหนึ่งในคนทำงานที่เขาประทับใจตอนไปเยือนกาลาปากอส ได้รับบทบาทดูแลสื่อโซเชียลมีเดียของเขาอย่างทวิตเตอร์และอินสตาแกรม เพื่อสื่อสารกับกลุ่มแฟนจำนวนหลายสิบล้านคน ให้เห็นคุณค่าของธรรมชาติรวมทั้งเห็นความสำคัญของการทำงานอนุรักษ์หรือ Rewild Galapagos ไปพร้อมๆ กันด้วย

ที่ผ่านมา ลีโอนาร์โดทุ่มเงินไปมากกว่า 100 ล้านเหรียญ ในหลายๆ โปรแกรมและสารพัดโครงการที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านมูลนิธิ Leonardo DiCaprio Foundation จนแทบจะไม่ใช่พระเอกแล้ว แทบจะเป็นนักอนุรักษ์คนหนึ่งไปแล้ว (ขอเลียนแบบสำนวนที่กำลังดังตอนนี้หน่อย)

การลงมือทำและแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังของเขา นอกจากจะเป็นตัวอย่างที่ดีแล้ว ก็ยังเป็นความหวังที่จะทำให้คนดังคนอื่นๆ หันมาเห็นความสำคัญของเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนพวกเรา ในฐานะประชากรโลก หากมีโอกาสสนับสนุนโครงการดีๆ แบบนี้ ในเว็บไซต์เขาก็มีปุ่มให้กดบริจาค หรือถ้าอยากทำความเข้าใจกลุ่ม Re:wild ก็ลองไปตามอ่านเรื่องสนุกๆ ได้เลย (แน่นอนว่าเวลาทำงานลงพื้นที่จริงๆ เราเชื่อว่าหนักหนาสาหัสไม่น้อย)

ปิดท้ายบทความนี้ ด้วยคำพูดของลีโอนาร์โด ที่สะท้อนให้เห็นตัวตนของความเป็นคนรักธรรมชาติและโลกใบนี้ได้อย่างชัดเจนกันอีกครั้งก็แล้วกัน

“เมื่อเราก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ใครก็ตามที่คิดว่าตัวเองเป็นพวกที่นิยมความจริงแล้วละก็ ต้องยกให้เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นความสำคัญลำดับสูงสุด เพราะความจริงก็คือ สัญญาณเตือนของโลกใบนี้ได้หยุดดังแล้ว นี่คือเวลาที่เราต้องตื่นขึ้นมาและลงมือทำอะไรเสียที” –กล่าวในโอกาสที่เป็นประธานในงาน Earth Day ปี 2000

ที่มาข้อมูล:
www.globalcitizen.org
www.theguardian.com
www.rewild.org

เครดิตภาพ: 123rf, www.leonardodicaprio.org