ถ้าจะยกตำแหน่งเจ้าหญิงแห่งวงการดอกไม้ให้กุหลาบ เราเชื่อเหลือเกินว่ากุหลาบก็คงไม่เหนียมอายที่จะรับมงกุฏตำแหน่งนี้ไป ความสวยรูปพร้อมกลิ่นหอมนอกจากจะเติมความสดชื่นให้เราแบบดอกสดแล้ว ความหอมของกุหลาบยังถูกนำไปถนอมให้ยั่งยืนด้วยการนำไปแปรรูปสารพัดแบบ เช่น ถุงหอมจากกลีบกุหลาบ น้ำกลั่นจากกลีบกุหลาบ หรือใช้เป็นส่วนผสมสร้างกลิ่นละลายใจในน้ำหอมหรือน้ำมันหอมระเหย กุหลาบไม่ได้แปรรูปไปเป็นแค่ส่วนประกอบของเครื่องหอมเพียงเท่านั้น แต่ยังนำไปเติมความหรูหรา สร้างสีสันสวยๆ บวกรสและกลิ่นหอมหวานในเค้ก เยลลี่ พุดดิ้ง ไซรัป ไปจนถึงไวน์ได้ด้วย 

แต่รู้มั้ยว่า ภายในพุ่มกุหลาบต้นเดียวกัน อีกส่วนประกอบที่เป็นประโยชน์ไม่แพ้ดอก ก็คือโรสฮิป (rose hip) นี่แหละ 

โรสฮิปคืออะไร 

ออกตัวก่อนเลยว่า ก่อนหน้านี้เราเข้าใจว่าโรสฮิปคือพืชชนิดอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวโยงใดๆ กับต้นกุหลาบ จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วที่ออกไปเดินป่าแล้วเจอพุ่มผลไม้ลูกกลมๆ ขนาดพอๆ กับเบอร์รี่ สีแดงอมส้มสดใสจนโดดเด่นเกินหน้ากว่าพุ่มสีเขียวอื่นๆ ในละแวกเดียวกัน เราถามคนข้างๆ ว่าเจ้าต้นนี้คือเบอร์รี่อะไร แต่คำตอบที่ได้คือ ถึงหน้าตาและทำเลจะชวนให้เข้าใจว่าเป็นเบอร์รี่ แต่แท้จริงแล้ว เจ้าผลอูมๆ ที่มามีหนวดตรงปลายผลนี้คือ โรสฮิป ซึ่งถ้านับญาติกันแล้วก็คือลูกหลานร่วมต้นของต้นกุหลาบนี่เอง! 

โรสฮิปคือส่วนที่เป็นผลของต้นกุหลาบและเป็นกระเปาะเก็บเมล็ดกุหลาบที่จะใช้เพาะพันธุ์ต่อไปได้ แต่จะโผล่หน้าให้เราเห็นก็ต่อเมื่อดอกกุหลาบร่วงโรยไปแล้ว ที่ทุกวันนี้เราไม่ค่อยเห็นโรสฮิปในสวนก็เพราะเมื่อดอกกุหลาบเริ่มเหี่ยว ชาวสวนมักจะเล็มกิ่ง เพื่อกระตุ้นให้กุหลาบออกดอกเพิ่มอีก ฉะนั้นโรสฮิปจึงพบได้ง่ายกว่าในพุ่มกุหลาบป่า เพราะเมื่อกุหลาบโรยราไปตามฤดูกาล เจ้าผลโรสฮิปก็จะแทงยอดออกมาจากปลายกิ่งตามธรรมชาติ 

ต้นกุหลาบเป็นพืชร่วมวงศ์เดียวกับต้นแอปเปิ้ล ดอกและผลของกุหลาบจึงกินได้อย่างไม่ต้องสงสัย โรสฮิปมักนำไปแปรรูปเป็นไซรัป ซุป ชา และน้ำส้มสายชู โรสฮิปยังเป็นอาหารกึ่งยา เพราะเป็นแหล่งวิตามินซีชั้นเลิศ ช่วยต้านหวัดและรักษาอาการเกี่ยวกับท้อง เช่น ท้องเสีย ท้องผูกได้ด้วย 

ซุปโรสฮิป เมนูคลาสสิกของสวีเดน 

ลุงซามูแอลที่เราเคยไปเรียนทำอาหารสวีดิชด้วย (ย้อนไปอ่านได้ในตอน Swedish Nostalgic Food อาหารจากความทรงจำตำรับสวีเดน) เล่าให้ฟังว่า ซุปโรสฮิปหรือที่เรียกในภาษาสวีดิชว่า Nypon Soppa นั้นได้รับความนิยมมากในอดีต เหตุผลแรกคือ ในยุคที่สวีเดนยังยากจน จนหลายคนต้องอพยพไปยังอเมริกาด้วยความหวังถึงชีวิตที่ดีกว่า ซุปโรสฮิปเป็นอาหารประจำบ้าน เพราะสามารถหาเก็บโรสฮิปในป่าได้แบบฟรีๆ อีกเหตุผลหนึ่งคือ โรสฮิปออกผลในช่วงเดือนกันยาถึงตุลาก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว เลยกลายเป็นวัตถุดิบชั้นดีที่จะอบแห้งเก็บไว้เป็นสารอาหารสำหรับหน้าหนาวอันยาวนาน แถมโรสฮิปยังเปี่ยมไปด้วยวิตามินซี ดี อี แคลเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระที่ไม่ต่างจากยาจากธรรมชาติช่วยต้านหวัดได้อีก

ด้วยประโยชน์อัดแน่นของโรสฮิปนี่เองที่ทำให้เลื่องลือกันไปว่า แม่ๆ ชาวสวีดิชทั้งหลายต่างก็เคยสร้างธรรมเนียมให้ลูกๆ กินซุปโรสฮิปในมื้อกลางวันของวันอาทิตย์ เพื่อให้แน่ใจว่าเด็กๆ จะมีสุขภาพที่แข็งแรง

แต่ผู้ใหญ่บางบ้านก็นิยมกินเป็นอาหารเช้า บางบ้านก็นำไปเจือจางกับน้ำเปล่าเล็กน้อยแล้วดื่มเหมือนน้ำผลไม้ หรือบางบ้านก็จัดซุปโรสฮิปให้เป็นเมนูของหวานตบท้ายดินเนอร์ เรียกได้ว่า กลายเป็นซุปรายสะดวกที่กินเมื่อไหร่ก็ได้ไม่ว่ากัน เพราะประโยชน์ของซุปต่างหากที่เป็นสาระสำคัญยิ่งกว่าช่วงเวลาที่กิน  

ถึงอย่างนั้น ลุงซามูแอลก็บอกว่า ซุปโรสฮิปดูจะเสื่อมความนิยมลงไป กลายเป็นภาพคู่เคียงกับอาหารของผู้เฒ่าผู้แก่ การเข้าป่าในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเพื่อเก็บเห็ดก็ดูจะได้รับความนิยมมากกว่าเข้าป่าไปเก็บโรสฮิป แต่ลุงก็ยืนยันว่า นี่คือจานคลาสสิกที่สักครั้งในชีวิตควรต้องลองชิม 

สูตรซุปโรสฮิป 

เรามีโอกาสได้ชิมซุปโรสฮิปครั้งแรกในครัวของลุงซามูแอล ยอมรับเลยว่าช้อนแรกเต็มไปด้วยความเข้าใจยาก ด้วยสีสันและรสอมเปรี้ยวชวนให้เรานึกถึงน้ำมะเขือเทศ แต่ด้วยหน้าตาการเสิร์ฟที่มาในชามที่ทำให้เรารู้สึกว่านี่เป็นของหวานที่ดูผิดที่ผิดทาง แถมยังลอยหน้าด้วยวิปครีมตีสดและมาการูนอัลมอนด์ที่หากให้เทียบเคียงญาติใกล้ชิดทางรสชาติและเนื้อสัมผัสแล้วก็คือขนมผิง การจับสิ่งเหล่านี้มารวมกันทำให้เราได้ค้นพบรสชาติและรสสัมผัสแบบที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน จนช้อนถัดไปนั่นล่ะที่รสสดชื่นของซุปค่อยๆ ตีสนิทกับลิ้นสัมผัสของเรา รสใส โปร่ง สดชื่น ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมซุปชามนี้จึงคู่ควรแก่การเป็นความสดใสในฤดูหนาวอันมืดหม่น มาการูนกรุบกรอบยิ่งช่วยเพิ่มรสสัมผัสในเพดานปากให้สนุกยิ่งขึ้น แถมความหวานอ่อนๆ ของมาการูนและความเปรี้ยวจางๆ ของซุปก็ช่วยเสริมเติมรสแบบเข้าทีมเป็นที่สุด   

ปีนี้เรายังไม่ได้แวะไปหาลุงซามูแอลอีก แต่การเข้าป่ารอบล่าสุด แล้วเจอโรสฮิปออกผลเต็มต้นทำให้เราอดไม่ได้ที่จะนึกถึงลุง และอยากลองทำซุปตั้งแต่ต้นจนครบกระบวนความด้วยตัวเอง เราได้คำแนะนำมาว่าให้เลือกเก็บแต่ผลที่แดงจัดเท่านั้น เสร็จสรรพพอกลับถึงบ้านก็เริ่มบรรเลงตามสูตรที่ได้มา 

ขั้นตอนการเตรียมโรสฮิปมีหลายวิธี บ้างก็แนะนำให้ผ่าครึ่ง แล้วช้อนเอาเมล็ดออกให้หมด แต่วิธีนี้จะเสียเวลากว่า เราเลยเลือกวิธีล้างโรสฮิปให้สะอาด เด็ดส่วนที่เป็นหนวดทิ้งไป แล้วนำไปต้มประมาณ 15 นาทีจนนิ่ม จากนั้นนำไปปั่น แล้วคั้นเอาแต่น้ำ ขั้นตอนต่อไปคือเทน้ำโรสฮิปที่ได้ใส่หม้อ ค่อยๆ เติมแป้งข้าวโพดที่ละลายแล้วลงไปผสม เติมน้ำตาลเล็กน้อย บางสูตรอาจเติมน้ำส้มลงไปด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติ จากนั้นเคี่ยวประมาณ 10-15 นาทีจนซุปเดือดและหนืดตัว เสร็จแล้วก็ปิดเตาและพร้อมเสิร์ฟได้เลย 

ซุปโรสฮิปจะกินแบบอุ่นหรือแบบเย็นก็ได้ แต่ที่ขาดไม่ได้คือมาการูนอัลมอนด์ ส่วนของหวานเสริมอีกอย่างจะเป็นไอศกรีมวานิลลา วิปครีม หรือซอสวานิลลาก็ได้ตามแต่ถนัด

รอบนี้เราเลือกกินคู่ไอศครีมวานิลลา เพื่อทำให้ซุปชามนี้มีความเป็นเมนูของหวานมากขึ้น ก่อนจบขอบิวอลนัทโรยหน้าอีกเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็ได้ซุปโรสฮิปรสสดชื่นที่อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์แล้ว 

ป.ล. ถ้าหาโรสฮิปสดไม่ได้ บางสูตรก็ใช้ชาโรสฮิปแทนได้นะ

ภาพถ่าย: ณวรา หิรัญกาญจน์