ได้เวลาคว้าผ้าเช็ดเหงื่อ และเกลือแร่ขวดโตออกไปใช้แรงกันแล้ว กับกิจกรรมงานวิ่ง และสารพัดคลาสออกกำลังกายน่าใจของสายเฮลท์ตี้ที่เราเอามาฝาก โดยมีทั้งกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในเดือนนี้ และกิจกรรมที่จัดในช่วงเดือนอื่นๆ ของปี (แต่ถ้าไม่สมัครวันนี้ รับรองว่าเต็มแน่นอน) ถ้ากายพร้อม ใจพร้อม (เงินพร้อม) ก็อย่ารอช้า สวมชุดกีฬา แล้วออกไปเบิร์นกันเลย

Running

Kingdom of tigers RUN วิ่งนี้เพื่อแมวจร Season 2
กลับมาอีกครั้งสำหรับโครงการวิ่งปันน้ำใจที่มีโต้โผใหญ่เป็นเพจดังอย่าง Kingdom Of Tigers: ทูนหัวของบ่าว โดยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อหารายได้ช่วยเหลือ ‘โครงการรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร’ ที่ก่อตั้งขึ้นมาก่อนหน้านี้ ทว่าประสบภาวะปัญหาทางการเงินจนต้องชะลอตัวลง และเพราะทางผู้จัดเล็งเห็นว่ายังมีน้องแมวอีกมากมายที่รอให้ผู้ใจบุญทั้งหลายเข้าไปช่วยเหลือ เงินรายได้จากการวิ่งครั้งนี้ส่วนหนึ่งจึงจะถูกนำไปใช้ก่อตั้ง ‘มูลนิธิรักษ์แมว ปันน้ำใจให้แมวจร’ ให้ถูกกฎหมาย เพื่อจะได้สามารถเข้ามาจัดการช่วยเหลือได้อย่างจริงจัง ซึ่งงานนี้ไม่ว่าคุณจะเป็นนักวิ่งมืออาชีพหรือไม่ ก็สามารถมาร่วมสนุกสนานไปกับการวิ่งออกกำลังกายได้ทั้งนั้น เพราะเขามีให้เลือกทั้งระยะ แมวเล็ก (2.5 กม.) และ แมวใหญ่ (5 กม.) ตามแต่ร่างกายและใจจะสู้ ได้ยินแบบนี้แล้วเหล่าทาสแมวทั้งหลายรีบลงทะเบียนให้ไวเลยจ้า

วันวิ่งจริง: 6 สิงหาคม
สถานที่: สวนลุมพินี
ค่าสมัคร: แพ็กเกจ 2.5 หรือ 5 กม. พร้อมเสื้อวิ่ง+หมวกไวเซอร์ และเหรียญที่ระลึก 800 บาท แพ็กเกจ 2.5 หรือ 5 กม. พร้อมเสื้อวิ่ง+หมวกไวเซอร์+กระเป๋า และเหรียญที่ระลึก 1,000 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม:  www.runaroundthailand.com/kingdomoftigers2
เครดิตรูป: Kingdom Of Tigers: ทูนหัวของบ่าว

Classic Run Project

บางครั้งการมุ่งมั่นวิ่งไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการตั้งเป้าหมายก็เป็นอะไรที่ทำให้ความท้อใจมาเยือนได้ง่ายๆ โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นสำหรับใครที่ตั้งเป้าหมายอยากพิชิตสถิติหรือท้าทายตัวเองให้มากขึ้น การวางแผนสนามแข่งตลอดทั้งปีจึงเป็นอะไรที่สำคัญมาก แต่ถ้าคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่สามารถจัดตารางให้ตัวเองได้ล่ะก็  Classic Run Project ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ด้วยรูปแบบการวิ่งแบบพัฒนาตนเอง ซึ่งวางตารางแผนการวิ่งต่อเนื่อง 4 สนามแหล่งธรรมชาติทั่วไทย ตั้งแต่ เขาใหญ่ (20 สิงหาคม) หัวหิน ( 24 กันยายน) จันทบุรี (25 พฤศจิกายน) ก่อนจะมาสิ้นสุดที่ระยอง (3 ธันวาคม) เป็นสนามสุดท้าย งานนี้ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่หมายมั่นปั้นมือไปให้ถึง ฮาล์ฟมาราธอน หรืออยากพิชิต ฟูลมาราธอน สักครั้งในชีวิต ก็รับรองว่าโอกาสได้ลิ้มรสชัยชนะนั้นอยู่ไม่ไกลเกินคว้า กับการออกแบบโปรแกรมที่ช่วยให้นักวิ่งค่อยๆ เขยิบขีดความสามารถตามระยะทาง ดังนี้

Full Marathon (Division A)
เขาใหญ่ 25 กม.
หัวหิน 32 กม.
จันทบุรี 36 กม.
ระยอง 42.195 กม.

Half Marathon (Division B)
เขาใหญ่  12 กม.
หัวหิน 15 กม.
จันทบุรี 18 กม.
ระยอง 20.1 กม.

หรือแม้กระทั่งนักวิ่งระยะตั้งไข่ ที่อยากท้าทายตัวเองในช่วงเริ่มต้น ทางงานก็ยังมี Fun Run (Division C) 5 กม. ให้ได้ร่วมลงแข่งขันในทุกสนาม และเพื่อความสนุกยิ่งขึ้นไปอีกสำหรับนักวิ่งสายแข่งขัน ภายใต้ระบบ Time Score Challenge ทุกวินาทีที่ใช้ในการวิ่งแต่ละสนามจะถูกนำมาแปรค่าเป็นคะแนน สนามละ 1,000 คะแนน เพื่อเฟ้นหานักวิ่ง 100 อันดับแรกที่ทำคะแนนรวมได้ดีที่สุด และรับเหรียญเกียรติยศไปครอง

งานนี้ไม่ว่าคุณจะเป็นนักวิ่งสายเก็บสถิติที่อยากท้าทายขีดความสามารถของตัวเอง หรือนักวิ่งสายแข่งขันที่อยากมาลองวัดพลังดูสักตั้ง รับรองว่า Classic Run Project จะสามารถตอบโจทย์ที่ต้องการได้อย่างแน่นอน

วันวิ่งจริง:  เขาใหญ่ 20 สิงหาคม, หัวหิน 24 กันยายน, จันทบุรี 25 พฤศจิกายน, ระยอง 3 ธันวาคม
สถานที่: เขาใหญ่, หัวหิน, จันทบุรี, ระยอง
ค่าสมัคร: มีหลายเรทขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่สมัคร Full Marathon (Division A) และ Half Marathon (Division B) สนามละ 1,300 – 1,800 บาท
Fun Run (Division C) 700 – 1,000 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม:  amazingfield.net
เครดิตรูป: Classic Run Project

Run to School ปี 2

ตอนเป็นเด็กเจ็บสุดก็แค่วิ่งแล้วหกล้ม แต่โตขึ้นมาเจ็บสุดอาจเป็นวิ่งไม่ไหว-เข้าเส้นชัยไม่ทันก็เป็นได้ งานนี้จะรู้ได้ก็ต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง กับการกลับมาของงานวิ่งที่จะทำให้คุณคิดถึงชีวิตสมัยเรียนมากที่สุด! Run to School ปี 2 โดยมีให้เลือกทั้ง 5 กม. ของเด็กเรียนวัยใส และ 10 กม.สำหรับเด็กเฮี้ยววัยซ่า แล้วถ้าใครคิดว่ากล้าก็ต้องแต่งแฟนซีเข้าธีมมาประชันกันด้วย (ไม่ว่าจะขุดกรุเสื้อนักเรียน กระโปรงจีบ หนีบคอซองเบาๆ หรือแต่งเต็มชุดลูกเสือ-เนตรนารีก็เอาให้เต็มที่ไปเลยจ้า) ซึ่งมีแพ็กเกจให้เลือกทั้งแบบประถมฯ (ได้เสื้อกีฬา เหรียญรางวัลสุดเก๋ และ การ์ดพิมพ์ภาพวาดของน้องๆ ในมูลนิธิดวงประทีป) กับมัธยมฯ (เพิ่มหมวกและสายรัดข้อมือเข้ามา) โดยรายได้ส่วนหนึ่งของรายการนี้จะถูกมอบเป็นทุนการศึกษาแก่น้องๆ ในมูลนิธิดวงประทีป เพื่อใช้สำหรับการศึกษาและพัฒนาคนยากไร้ต่อไป

วันวิ่งจริง:  17 กันยายน
สถานที่: สวนลุมพินี
ค่าสมัคร: แพ็กเกจประถมฯ 515 บาท แพ็กเกจมัธยมฯ 818 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม:  www.facebook.com/weruntoschool
เครดิตรูป: Run To School 

Duathlon

Green Earth River Kwai Duathlon 2017

เพราะกาญจนบุรีไม่ได้มีดีแค่สะพานข้ามแม่น้ำแคว แต่ยังมีทิวทัศน์สวยๆ ที่โอบล้อมด้วยขุนเขา ป่าเขียว สุดสดชื่น ให้นักวิ่งนักปั่นสายอึดได้ชมระหว่างเส้นทาง วิ่ง-ปั่น-วิ่ง Cross Country ในรายการ Green Earth River Kwai Duathlon 2017 อีกด้วย หลังจากการปล่อยตัว ยกแรกจะเริ่มกันที่ถนนทางเรียบระยะทาง 10 กม. เป็นการวอร์ม ก่อนผู้เข้าแข่งขันจะต้องจะสวมบทสิงห์นักปั่น ควบจักรยานเสือภูเขาข้ามแม่น้ำแควน้อยบนถนนที่เป็นส่วนผสมของ ลาดยาง 60% คอนกรีต 35 % และลูกรังอีกราว 5 % ระยะ 65 กม. (แต่ถ้าใครไม่ไหวจริงๆ จะคว้าเสือหมอบกระโดดไปเส้นทางลาดยาง 100 % ระยะ 50 กม. ก็ไม่ว่ากัน) ก่อนตบท้ายด้วยการวิ่งข้ามทุ่ง เลาะฝั่งแม่น้ำแควที่มีฉากหลังเป็นภูเขาอีกราว 10 กม. เป็นอันจบบทพิสูจน์ความแข็งแกร่ง สำหรับใครที่อยากท้าทายตัวเองในสนามการต่อสู้สุดเร้าใจนี้ก็รีบสมัครด่วนๆ เพราะเขารับผู้แข่งขันแค่ 1,000 ที่เท่านั้น

วันวิ่งจริง: 30 กรกฎาคม
สถานที่: อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
ค่าสมัคร: สมัครก่อน 23 กรกฎาคม 2,000 บาท (ถ้าสมัครเฉพาะวิ่งข้ามทุ่ง 600 บาท)
สมัครหลัง 23 กรกฎาคม 2,500 บาท (ถ้าสมัครเฉพาะวิ่งข้ามทุ่ง 800 บาท)
รายละเอียดเพิ่มเติม:  amazingfield.net/event-detail-EN/Green-Earth-River-Kwai-Duathlon-2017
เครดิตรูป: Green Earth River Kwai Duathlon 2017

Pilates


Classical Pilates Workshop with Kyung Hye Sinclair
ไม่ต้องเดินทางไปถึงต่างประเทศก็สามารถเรียนรู้พิลาทิสฉบับ Original Classical Method ซึ่ง เป็นต้นฉบับของผู้คิดค้นการออกกำลังกายแบบพิลาทิสได้แล้ววันนี้ กับเวิร์กช็อปเต็มๆ สองวันที่ได้ คยอง ฮเย ครูสอนพิลาทิสคนเก่ง ดีกรี 1 ใน 12 ครูคลาสิคอลพิลาทิสที่ได้รับเลือกให้เป็นลูกศิษย์ของ เจย์ กริมส์ (ลูกศิษย์รุ่นแรกของ โจเซฟ เอช พิลาทิส) บินตรงมาสอนให้อย่างเข้มข้น งานนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เรียนพิลาทิสอยู่แล้ว หรือกำลังเริ่มต้นสนใจในศาสตร์ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่กำลังฮิตนี้ ก็สามารถเข้าร่วมได้ทั้งหมด โดยคลาสทั้งสองวันจะถูกแบ่งออกด้วยกันเป็น 4 เซสชั่น ที่มีชื่อว่า Movement & Flow of the Reformer, Two way stretch on the Mat, Improve your relationship with your Reformer และ Find your mat on the Reformer สำหรับคนที่อยากเข้าร่วมสามารถเลือกเรียนได้ทั้งหมด หรือเลือกเฉพาะเซสชั่นที่สนใจก็ได้ แต่แนะนำว่าให้รีบจองหน่อย เพราะโอกาสได้เรียนกับครูเก่งๆ แบบนี้มีมาไม่บ่อยนะ

วัน: 8 – 9กรกฎาคม
สถานที่: Origin I Am อาคารมณียา
ค่าสมัคร: 1 session 5,900บาท/ 1 วัน 11,800 บาท/ 2 วัน 23,600 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม:  www.facebook.com/wyns.life
เครดิตรูป: WYNS

Yoga

SUP Yoga by Muji
ถ้าการยืดเหยียดร่างกายและฝึกสมาธิด้วยโยคะธรรมดายังไม่สะใจพอ เราขอแนะนำการฝึกโยคะบนบอร์ดกลางน้ำใสไหลเย็นชื่นใจ (ที่ถ้าตกลงไปก็เปียกแน่นอน) ที่ช่วยเพิ่มความท้าทาย และความแปลกใหม่ให้กับคนรักโยคะ งานนี้นอกจากจะได้ออกจากห้องแอร์มาออกกำลังกายท่ามกลางสายลม แสงแดด (และแน่นอนว่ากลางน้ำด้วย) ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นแล้ว รับรองว่ายังมาพร้อมความบันเทิง ตลอดจนช่วยให้ผู้ฝึกได้เรียนรู้การควบคุมร่างกายตัวเอง และฝึกสมาธิได้อย่างเข้มข้นมากขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจ ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานด้านโยคะมาก่อน (แต่หากเคยเรียนมาบ้างก็จะช่วยให้การฝึกง่ายขึ้น) แต่ต้องว่ายน้ำเป็น หรือลอยน้ำได้ เพราะถ้าตกน้ำไปบอกเลยว่าตัวใครตัวมัน เอ้ย ต้องช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้นให้ได้ก่อนจ้า

วัน: 1, 16 กรกฎาคม
สถานที่: บึงตะโก้ กม.13 บางนาตราด
ค่าสมัคร: 1,000 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม:  www.facebook.com/MujiLoveYoga
เครดิตรูป: Muji Love Yoga