อย่างที่รู้ๆ กันว่าการกินของพวกเราสร้างผลกระทบต่อโลกใบนี้มากมายขนาดไหน ยิ่งเมื่อความต้องการมากขึ้น การปลูกพืชเชิงเดี่ยวซึ่งมีให้เห็นอยู่มากมายก็มีกระบวนการที่ทำลายหน้าดิน การฉีดพ่นสารเคมีก็ยังสะสมให้ดินเป็นพิษ พอเรากินเหลือ สิ่งเน่าเสียปริมาณมหาศาลก็ถูกทิ้งกลับลงดินอีก จนทำให้ตอนนี้โลกของเรากำลังประสบปัญหาดินเสื่อมโทรมซึ่งกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

แล้วถ้าเราไม่มีดินดีๆ เราจะมีอาหารที่ดีกินได้ยังไงล่ะ! 

นั่นเป็นเหตุผลให้ตอนนี้ ทั้งเกษตรกร สถาบันวิจัยต่างๆ และผู้ผลิตอาหารจากทั่วโลกพยายามสร้างนัดกระชับมิตรระหว่างมนุษย์และดิน ด้วยการพัฒนาระบบการปลูกและการกินแบบ soil-friendly ที่เป็นมิตรสมชื่อ และเชื่อว่าจะเป็นความหวังในการลดก๊าซเรือนกระจกรูปแบบใหม่ของโลกด้วย!

regenerative agriculture เกษตรแนวใหม่แบบเฟรนด์ลี่ที่ฟื้นฟูดินด้วยความหลากหลาย

เพราะแค่ออร์แกนิกอย่างเดียวอาจไม่พอ! 

ในตอนนี้ ฟาร์มหลายแห่งทั่วโลกเริ่มหันมาสนใจการทำเกษตรแนวใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า regenerative agriculture ซึ่งมีความละเอียดอ่อนกว่า ต้องใส่ใจภาพรวมมากกว่า กลายเป็นอีกเลเวลของการทำฟาร์มออร์แกนิกไปแล้ว โดยมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การฟื้นฟูให้ดินกลับมาอุดมสมบูรณ์ดังเดิม

นอกจากจะต้องปลอดสารเคมีแล้ว ฟาร์มแนวใหม่นี้ยังต้องเสริมด้วยการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ให้หลากหลายในพื้นที่เดียวกัน ไม่กำจัดพืชคลุมดินไม่ว่าจะเป็นวัชพืชหรือแม้แต่ใบไม้แห้ง และที่สำคัญคือการไม่ถอนรากถอนโคนพืชผักต่างๆ ยามเก็บเกี่ยว เพื่อให้พวกมันสามารถสร้างชีวิตใหม่ได้ และเป็นการทำให้สัตว์ใต้ดินต่างๆ กลับมาช่วยพรวนดินและสร้างดินที่มีสุขภาพดีอีกครั้ง เพราะเมื่อดินมีสุขภาพดีพวกมันก็จะสามารถกักเก็บก๊าซเรือนกระจกได้มากขึ้นด้วย

ด้วยเหตุนี้ สหรัฐอเมริกาถึงขั้นออกมาตรฐานใหม่เพื่อรองรับการทำการเกษตรที่ว่า ภายใต้ชื่อ Regenerative Organic Certified (ROC) ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์บนแบรนด์ต่างๆ เพื่อเป็นเครื่องยืนยันถึงความเป็นมิตรต่อดินของฟาร์มนั้นๆ โดยที่ฟาร์มเหล่านั้นจะต้องผ่านมาตรฐานออร์แกนิกเบื้องต้นมาก่อน ถึงแม้จะเพิ่งดำเนินการจริงจังกันมาได้ไม่ถึงปี แต่ก็มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการมากกว่า 30 องค์กรแล้ว 

ยกตัวอย่างแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง Patagonia ในตลาดแฟชั่นยั่งยืน ที่หันมาเน้นเรื่อง regenerative agriculture ในการปลูกฝ้ายจนเป็นหนึ่งในแบรนด์แรกๆ ที่ได้ร่วมใช้มาตรฐาน ROC แล้วขยายไลน์มาทำ Patagonia Provisions ขายวัตถุดิบออร์แกนิกจากฟาร์มยั่งยืนและแหล่งผลิตธรรมชาติ พร้อมกระบวนการเป็นมิตรต่อดินแบบครบวงจร โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างห่วงโซ่อาหารที่สมบูรณ์ เฟรนด์ลี่ต่อทั้งคนกินและสิ่งแวดล้อม จนได้รับความนิยมในหมู่นักปีนเขาใส่ใจโลกเป็นอย่างมาก

ห้างร้านเฟรนด์ลี่ก็มี! เพื่อคอยส่งต่อของดีจากฟาร์มมิตรภาพ

แน่นอนว่าเมื่อมีผู้ผลิตมาคอยกระชับมิตร ก็จะขาดผู้สานต่อความสัมพันธ์ดีๆ ไปไม่ได้เลย

พักหลังๆ มานี้ เราเลยเห็นร้านอาหารบางส่วนที่หันมาให้ความสำคัญกับวัตถุดิบจากฟาร์ม regenerative กันบ้างแล้ว ด้วยการสนับสนุนพืชผักและเนื้อสัตว์จากฟาร์มคุณภาพต่างๆ เช่น ร้าน 28 Well Hung ในลอนดอน หรือโครงการ Restore California ที่เข้าร่วมกับร้านอาหาร 30 แห่งในสหรัฐฯ ชาร์จราคาอาหารเพิ่มอีก 1 เปอร์เซ็นต์ เพื่อนำเงินไปฟื้นฟูสภาพดินตามฟาร์มในอเมริกาให้กลับมาสมบูรณ์แข็งแรง ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยให้ความรู้กับเกษตรกร

แถมตอนนี้ในสหรัฐฯ ก็ยังมีบริการพรีอออเดอร์วัตถุดิบส่งตรงแบบฟรีชิปปิ้งจากฟาร์มที่ทำ regenerative agriculture สำหรับใครที่นิยมปรุงอาหารเองมากกว่าจะออกไปกินข้าวนอกบ้านด้วย อย่างเว็บไซต์ Cooks Venture ซึ่งเป็นเว็บที่สร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร ร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์ ขายทั้งเนื้อสัตว์ พืชผัก และผลไม้ส่งตรงจากฟาร์มพื้นที่ 800 เอเคอร์ในเมืองอาร์คันซอ ที่การันตีทั้งเรื่องรสชาติและคุณภาพ โดยเงินทุกดอลลาร์ที่ได้มาเขาก็จะนำกลับไปพัฒนาดินในฟาร์มให้มีประสิทธิภาพขึ้นเรื่อยๆ เพราะพวกเขาเชื่อว่าการกินแบบ soil-friendly นี่แหละ คือการกินเพื่ออนาคต!

ลองเป็นผู้กินที่เฟรนด์ลี่ขึ้นอีกนิด ด้วยการใส่ใจเพิ่มขึ้นอีกหน่อย

ถึงแม้ในตอนนี้เราจะมีทางเลือกที่หลากหลายในการสร้างผืนดินให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แต่พอพูดคำว่า regenerative agriculture ก็ฟังดูจะเป็นหน้าที่ของเกษตรกรเสียมากกว่า ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย เพราะผู้บริโภคตัวน้อยอย่างเราก็สามารถมีบทบาทในการกระชับมิตรกับผืนดินด้วยการกินแบบ soil-friendly ได้โดยไม่ต้องรอให้มีฟาร์มแบบ regenerative เกิดขึ้นในเมืองไทย

โดยหลักการดังกล่าวเป็นหลักการง่ายๆ ที่ Soil Science Society of America เขานำเสนอขึ้นมาเพื่อให้ตอบรับกับเทรนด์ regenerative agriculture ที่กำลังค่อยๆ มีบทบาทมากขึ้น ผ่านการทำตามหลักการง่ายๆ 5 ขั้นตอน ได้แก่

1. กินให้หลากหลายเข้าไว้ ทั้งพืชผัก ผลไม้ ธัญพืช เพื่อให้เกษตรกรได้ปลูกผลผลิตที่หลากหลายตามไปด้วย 

2. สนับสนุนถั่วจากฟาร์มออร์แกนิก เพราะพืชต้นเล็กอย่างถั่วมีคุณสมบัติในการช่วยตรึงไนโตรเจน ที่สามารถนำไปใช้ในดินได้อย่างเหมาะสม พอปลูกถั่วเยอะๆ เข้าก็จะสามารถช่วยพัฒนาดินไปได้ในตัว แถมถั่วยังเป็นทางเลือกให้เกษตรกรนอกฤดูเก็บเกี่ยวด้วย

3. ถ้ายังกินเนื้อสัตว์อยู่ เลือกเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงอย่างเป็นมิตร เพราะกระบวนการเลี้ยงสัตว์ที่ต้องใช้อาหารจำพวกพืชจากฟาร์มเชิงเดี่ยวที่นำไปอัดเม็ดนี่แหละคือภัยร้ายต่อหน้าดิน

4. ลดการกินเหลือ เพราะอาหารที่เน่าเสียจะสร้างมลพิษ แถมบางทีเมื่อนำไปทิ้งหรือฝังกลบในดิน ก็กลายเป็นการเพิ่มหน้าที่ให้ดินทำงานหนักขึ้นเหมือนกันนะ

5. รู้จักการทำปุ๋ย เพราะเปลือกไข่ หรือเศษกาแฟต่างๆ ล้วนมีประโยชน์ต่อดินทั้งสิ้นถ้ารู้จักจัดการให้เป็น ยิ่งถ้ามีถังหมักประจำบ้านด้วยก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่

ถึงตอนนี้บ้านเราอาจจะยังไม่มีการทำการเกษตรแบบ regenerative อย่างจริงจัง แต่การสนับสนุนฟาร์มอินทรีย์ให้มากขึ้นก็เป็นอีกวิธีที่เราทำได้เลย เพื่อพวกเขาจะได้ปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ที่หลากหลาย กลายเป็นอีกวิธีผูกมิตรกับผืนดินและช่วยโลกแบบง่ายๆ ได้เหมือนกัน

ที่มาข้อมูล:
www.greenbiz.com
www.regenorganic.org
www.non-gmoreport.com
www.cooksventure.com
www.treehugger.com
www.patagoniaprovisions.com