เบื้องหลังสินค้าที่เราเห็นบนชั้นวาง มากกว่าดีไซน์สวยหรือราคาที่โดนใจ ยังเต็มไปด้วยความตั้งใจและความรับผิดชอบของคนทำธุรกิจ เพราะทุกวันนี้ผู้บริโภคไม่ได้เลือกซื้อของเพียงเพราะใช้ดี แต่ยังมองหาคุณภาพที่ไว้ใจได้ พร้อมอยากสนับสนุนแบรนด์ที่ทำธุรกิจอย่างมีจริยธรรม ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคมไปพร้อมกัน

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) จึงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้ก้าวสู่เวทีโลก ผ่านการมอบตรา Thailand Trust Mark (T MARK) สัญลักษณ์แห่งความไว้วางใจที่ช่วยบอกกับผู้บริโภคทั่วโลกว่าสินค้าและบริการจากประเทศไทย มีคุณภาพระดับมาตรฐานโลก ตลอดจนดำเนินธุรกิจตามมาตรฐานแรงงาน คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม

ปัจจุบันมีบริษัทไทยกว่า 800 บริษัท ที่ได้รับตรา T MARK ซึ่งไม่เพียงสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดสู่ระดับสากล และในปี 2568 นี้ มีผู้ประกอบการไทย 20 บริษัท ที่ได้รับตรา T MARK พร้อมกับ 5 บริษัทชั้นนำ ที่คว้ารางวัล T MARK Honour Award สำหรับแบรนด์ที่รักษามาตรฐานสูงสุดและได้รับ T MARK ต่อเนื่อง 5 ครั้งติดต่อกัน อาทิ บริษัท ไทย-มีโก้ จำกัด, บริษัท ชาเขียว จำกัด, บริษัท ซินโก เทคโนโลยี จำกัด เป็นต้น

T MARK เล็ก ๆ ที่บอกโลกว่า…ของไทยไม่ธรรมดา
สำหรับผู้ประกอบการ การได้รับ T MARK ไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ แต่ถือว่าเป็นการเพิ่มโอกาสในการนำเสนอสินค้าและบริการของตนเข้าสู่ตลาดโลก พร้อมทั้งยังช่วยยกระดับและส่งเสริมศักยภาพประเทศไทยให้ก้าวไกลในระดับสากล ตัวอย่างเช่น บริษัท ไรน์แอนด์เฟรช จำกัด ผู้ผลิต-ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายจากธรรมชาติ ที่มีความเชื่อมั่นในคุณสมบัติของสารส้มที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรียบนผิว ปลอดภัยต่อร่างกายและไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม

“แรงบันดาลใจของเราคือการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ทั้งเรื่องประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และเรายังให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด และดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน” คุณสุปวีณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไรน์แอนด์เฟรช จำกัด กล่าว

ผลิตภัณฑ์ของไรน์แอนด์เฟรช ที่ได้รับตรา T MARK ปี 2568 ได้แก่ DEOKLEAR และ DEONAT ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายคุณภาพจากธรรมชาติ 100% ปลอดสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการแพ้หรือสารก่อมะเร็ง และยังเข้มงวดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่วัตถุดิบ ไปจนถึงการผลิตในโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP และ ISO โดยเฉพาะ

“ในแง่ของผู้ประกอบการ การได้รับ T MARK ถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการนำเสนอสินค้าของเราเข้าสู่ตลาดโลก และยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้คู่ค้าและเปิดตลาดใหม่ได้ง่ายขึ้น” คุณสุปวีณ์กล่าวเสริม พร้อมชี้ให้เห็นบทบาทของ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ที่สนับสนุนความรู้และการออกบูธต่างประเทศ ซึ่งช่วยให้บริษัทปิดการขายและขยายเครือข่ายคู่ค้าใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพในหลายประเทศ

มากกว่าของดี คือของดีที่ใส่ใจโลก
ลองนึกภาพสินค้าที่คุณเห็นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น อาหาร เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด หรือของใช้ประจำบ้าน ที่อยู่บนชั้นวาง พร้อมตรา T MARK นั่นไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ แต่เป็นเครื่องหมายรับรองว่าของชิ้นนี้ดีต่อ ผู้คน ชุมชน และโลก

โลกของเราต้องการการดูแลตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ อย่างการเลือกสินค้าหรือบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยลดผลกระทบต่อโลก ลดมลพิษและช่วยให้ทรัพยากรธรรมชาติยังคงอยู่ได้นานขึ้น เหมือนกับมาตราฐานของตรา Thailand Trust Mark (T MARK) ที่ครอบคลุม 4 ด้านหลักที่สำคัญต่อโลกและชีวิตประจำวันของเรา ได้แก่

  • คุณภาพสินค้าและบริการตามมาตรฐานสากล (Global Quality Certification)
  • มาตรฐานแรงงานไทย (Fair Labour)
  • ความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR-DIW)
  • การผลิตที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Green Industry)

และนี่แหละคือเรื่องราวของตราสัญลักษณ์เล็ก ๆ แต่มีความหมายใหญ่ ที่ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องหมายรับรอง แต่คือความตั้งใจของธุรกิจที่ใส่ใจคนทำงาน ห่วงใยชุมชน และดูแลโลกของเราไปพร้อม ๆ กัน

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจขอรับตรา T MARK สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง เว็บไซต์ DITP: www.thailandtrustmark.com เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเชื่อมั่นให้สินค้าไทยและส่งต่อสิ่งดี ๆ สู่ผู้บริโภคทั่วโลกอย่างภาคภูมิกัน!