ร่างกายที่สะสมของเสียผ่านการกิน การใช้ การสัมผัส กับสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันยังต้องการการดีท็อกซ์ฉันใด หัวใจที่เหนื่อยล้าและอ่อนเพลียก็ต้องการดีท็อกซ์ด้วยกันฉันนั้น ไม่ว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาชาว Greenery จะเจอเรื่องหนักหนาสาหัสขนาดไหน ก็จงอย่าปล่อยให้หัวใจเหี่ยวเฉาเปล่าๆ ปลี้ๆ มาเติมความสดชื่นฟื้นคืนรอยยิ้มรับสัปดาห์ใหม่กันดีกว่า กับกิจกรรมแสนสดใจที่เราคัดสรรมาให้ ชนิดเรียกว่ารับประกันความละมุนใจทุกงาน

Greenery Activities

Greenery Talk 2017 & Greenery Market 01
วัน: 16-17 กรกฎาคม
เวลา: 10:00 – 21:30 น.
สถานที่: ห้องออดิทอเรียม หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร และลานพลาซ่า สยามดิสคัฟเวอรี่

ครั้งแรกของ Greenery ในฐานะผู้จัด ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยกิจกรรมหลากหลายในสัปดาห์นี้ อันได้แก่ Greenery Talk 2017 ชวนฟังแนวคิดกินดี กรีนดีของ 10 สปีกเกอร์ตัวจริงเสียงจริงในวงการอาหารปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นเชฟโบ แห่งร้าน โบ.ลาน คุณปรินซ์ เจ้าชายผัก กาย ไล มิตรวิจารณ์ แห่ง FACT Collective คุณโอ อรุษ จากสามพรานโมเดล พี่เสาวลักษณ์ จาก fisherfolk คุณแอคชั่นจาก Folkrice Ltd.พี่ปาณิศา จากตลาดสีเขียว ขอนแก่น คุณกฤตยา Thank God It’s Organic พี่ศิริลักษณ์ เจ้าของปลูกปั่น คุณธนภณ แห่งนกฮูก กรุ๊ป ผู้ปลุกปั้นกาแฟมูเซอ ในวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม เวลา 13:00 – 17:00 นี่ห้องออดิทอเรียม หอศิลป์กรุงเทพฯ สนใจฟัง แวะไปคลิก www.greenery.org/talk/ เพื่อดูรายละเอียดและจองบัตรได้เลย

ฟังทอล์กจบแล้วอยากช้อปต่อ แวะไปที่ตลาด Greenery Market ที่เปิดแผงรอท่าตั้งแต่ 10:00 – 21:30 น. วันอาทิตย์และจันทร์ที่ 16-17 กรกฎาคม บริเวณลานพลาซ่า สยามดิสคัฟเวอรี่ (ลานเชื่อมระหว่างห้างสยามดิสฯ กับสยามเซ็นฯ) แล้วแวะอุดหนุนสินค้าเกษตรกรตัวจริงปลูกเอง จับเอง ขายเอง ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์บ้านลานตากฟ้า กลุ่มข้าว 5 บ้าน ศาลายา กลุ่มเกษตรกรทำประมงปากน้ำปราณ หรือธนาคารปูม้า กลุ่ม Fisher Folk สินค้าประมงพื้นบ้าน ผลิตภัณฑ์กรีนเก๋จากร้าน Patom เสื้อผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติแบรนด์ดังอย่าง แม่ฑีตา และคาราวานอาหารสุขภาพ Trust Food Good Truck เป็นอาทิ นอกจากนี้ยังมีเวิร์กช็อปอาหารออร์แกนิกแบบฟิวชั่น ให้ได้ลองทำ ลองชิมกันด้วย รายละเอียดมากกว่านี้ คลิกไปที่ www.greenery.org/events/greenery-market-1/

Workshop

 Wagashi: Nerigiri
วัน: 15 กรกฎาคม
เวลา: 13.00 – 16.00 น.
สถานที่: Play Plearn

Wa จากคำว่า Wagashi มีความหมายถึงสิ่งที่เกี่ยวกับญี่ปุ่น ส่วน gashi ตัวหลังแผลงมาจากศัพท์ว่า kashi ซึ่งหมายถึงขนมหวาน ดังนั้นคำว่า Wagashi จึงเป็นคำที่แสดงถึงศิลปะดั้งเดิมแห่งขนมหวานญี่ปุ่นซึ่งสะท้อนแก่นแท้ตลอดจนรากวัฒนธรรมของดินแดนอาทิตย์อุทัยนั่นเอง จั่วหัวเสียขนาดนี้ก็คงพอจะรู้กันแล้วล่ะว่าคลาสที่เรานำมาฝากคราวนี้คงหนีไม่พ้นศิลปะการทำขนมหวานสัญชาติญี่ปุ่นสุดอร่อยไว้จิบกับน้ำชาหอมกรุ่นนั่นเอง ซึ่งเจ้าเมนูที่ทาง Play Plearn : เพลย์ เพลิน เลือกหยิบมาสอนครั้งนี้มีชื่อว่า Nerigiri หรือถั่วแดงบดรสหวานที่ถูกห่อหุ้มด้วยแป้งโมจิทรวดทรงน่ารัก ขนมยอดนิยมของขุนนางในสมัยก่อน งานนี้นอกจากผู้ร่วมคลาสทุกคนจะได้เริ่มต้นเรียนรู้ขั้นตอนการทำขนมญี่ปุ่นแบบพื้นฐาน ตั้งแต่การกวนไส้ กวนแป้งหุ่ม ผสมสี และขึ้นรูปโดยใช้เครื่องมือพิเศษจากญี่ปุ่นแล้ว แต่ละคนยังจะได้เจ้าขนมสีหวานบรรจุใส่กล่องสุดตะมุตะมิกลับไปฝากคนที่บ้านอีกคนละ 4 ชิ้นด้วย อ้อ งานนี้เพื่อความละมุนใจเข้าไปอีก ตอนกลับบ้านไปหัดทำเองอย่างลืมใช้ถั่วแดงและน้ำตาลออร์แกนิคกันด้วยนะ

ค่าใช้จ่าย: 3,000 บาท
FB: www.facebook.com/cafeplayplearn
เครดิตรูปภาพ: Play Plearn : เพลย์ เพลิน

เครื่องประดับจากไหม และสีธรรมชาติ
วัน: 15/ 16 กรกฎาคม
เวลา: 11.00 – 17.00 น.
สถานที่: The Cave Workshop Studio

หลายคนยังคงเข้าใจผิดว่าการถักโครเชต์นั้นเป็นกิจกรรมยามว่างที่สงวนไว้สำหรับแม่บ้านหลังเลิกงาน หรือกลุ่มผู้สูงอายุเท่านั้น ทุกวันนี้มีคนรุ่นใหม่ที่หันมาสนใจศิลปะอันละเอียดอ่อนนี้กันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่เพียงเพราะงานฝีมือสุดละเมียดละไมอย่างโครเชต์นับเป็นตัวช่วยในการฝึกสมาธิชั้นดี แต่หลายคนยังสามารถนำไปต่อยอดสร้างผลงานที่เป้นเอกลักษณ์ หรือกระทั่งสร้างแบรนด์ให้กับตัวเองได้อีกด้วย ในวันนี้เราเลยมีอีกหนึ่งคลาสงานโครเชต์มานำเสนอ กับการสอนถักโครเชต์ให้เป็นเครื่องประดับรูปทรงธรรมชาติ ซึ่งเหมาะกับมือใหม่ที่ยังไม่เคยมีความรู้ด้านนี้มาก่อน เพราะจะเริ่มมีการปูพื้นฐานกันตั้งแต่การอ่านแพทเทิร์น ไปจนถึงเทคนิคการถักที่ถูกปรับให้ง่ายขึ้น ที่สำคัญหลังจากถักชิ้นงานเสร็จแล้ว และเพื่อเพิ่มมูลค่าตลอดจนความแปลกใหม่ให้กับชิ้นงานที่ถูกผลิตขึ้น ทางสตูดิโอยังแถมอีกหนึ่งองค์ความรู้ นั่นก็คือการย้อมชิ้นงานด้วยสีจากธรรมชาติ อาทิ สารภี, มะเกลือ และ ครั่ง ให้อีกด้วย งานนี้ใครอยากเรียนรู้การสร้างงานฝีมือตั้งแต่พื้นฐานซ้ำยังเป็นมิตรต่อโลก ห้ามพลาดคลาสนี้อย่างเด็ดขาดเลยจ้า

ค่าใช้จ่าย: 1,800 บาท
FB: www.facebook.com/thecaveworkshopstudio
เครดิตรูปภาพ: The Cave Workshop Studio 

Happiness is Here and Now (เปิดรับสมัคร)
วัน: วันเดินทางจริง 29 -31 กรกฎาคม
สถานที่: บ้านรื่นรมย์ จังหวัดสุรินทร์

ถ้าชีวิตในเมืองใหญ่นั้นวุ่นวายเกินกว่าจะจัดการด้วยตัวคนเดียว ลองแพ็คกระเป๋าหอบผ้าหอบผ่อนหนีมาพักหาจุดสมดุลในชีวิตกับคลาสสั้นๆ สองคืนสามวันในบรรยากาศบ้านไร่ชายทุ่ง จังหวัดสุรินทร์ กันดูดีไหม กับเวิร์กช็อปชวนอบอุ่นใจและเป็นกันเองที่จัดโดยสองคู่รักชีวิตติดดิน โจ และ แก้ว แห่งบ้านรื่นรมย์ เวิร์กช็อปที่ทั้งคู่ให้คำนิยามว่า เป็นการใช้ชีวิตแบบมีสุนทรียะในแต่ละขณะผ่านการสังเกตเรียนรู้ธรรมชาติรอบตัว โดยตลอดระยะเวลาภายใต้ชายคาของบ้านโฮมสเตย์หลังนี้ ทุกคนจะได้ร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวพันกับสรรพสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูปและระบายสีน้ำตามรู้สึกแบบง่ายๆ เรียนรู้วิถีการพึ่งพาตัวเองผ่านการทดลองทำของกินของใช้โฮมเมด อาทิ ขนมปัง เนยถั่ว น้ำเต้าหู้ สบู่ Cold Process และน้ำยาอเนกประสงค์ สูดอากาศบริสุทธิ์คลอเคล้าไปกับสายลมแสงแดด อิ่มอร่อยกับอาหารเพื่อสุขภาพที่สด สะอาด ปลอดภัย ตลอดจนได้ใช้เวลาอันแสนเงียบสงบอยู่กับตัวเองและเสียงหริ่งหรีดของเหล่าแมลงตัวจ้อยรอบข้าง แอบกระซิบเล็กน้อยว่าทริปนี้ปราศจากเครื่องปรับอากาศและ Wi-Fi ดังนั้นผู้มาร่วมคลาสจึงควรเป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย รวมถึงไม่มีงานเร่งด่วนอะไรให้ต้องคอยพะวงจนหมดสนุกตามจุดประสงค์ของคลาส

ค่าใช้จ่าย: 5,000 บาท
FB: www.facebook.com/RuenromOrganicLiving
เครดิตรูปภาพ: บ้านรื่นรมย์ Ruenrom Organic Living 

 

Kid Learning

เรียนรู้เมื่อหนูเล่น
วัน: 15 กรกฎาคม
เวลา: 10.30 – 12.00 น.
สถานที่: ห้องอาศรมสุขภาวะ ชั้น 3 อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ

สำหรับวัยเด็กที่เต็มไปด้วยความสดใสร่าเริงและพร้อมเปิดรับในสิ่งที่สนใจอยู่ตลอดเวลานั้น จะมีการส่งต่อความรู้ดีๆ รูปแบบไหนที่ดีไปกว่า การเรียนรู้ผ่านการเล่นสนุก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เด็กเกิดความอยากเรียนรู้ด้วยตัวเองโดยไม่รู้สึกต่อต้าน และสำหรับเสาร์ที่กำลังจะถึงนี้ทาง SOOK ก็ได้เปิดพื้นที่จัดกิจกรรมดีๆ สำหรับน้องๆ หนูๆ ที่มีอายุระหว่าง 7 -12 ปี ให้ได้เข้ามาเรียนรู้และเสริมสร้างพัฒนาการด้านต่างๆ ผ่านกิจกรรมแสนสนุก ผ่อนคลาย ที่ช่วยให้เด็กสามารถพัฒนาทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม ตลอดจนสติปัญญา อย่างสมวัย รวมไปถึงยังช่วยส่งเสริมคุณลักษณะพื้นฐานต่างๆ ที่เด็กพึงมีเมื่อเติบโตขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้น การควบคุมอารมณ์ การรู้จักเคารพสิทธิ์ตนเองและผู้อื่น และการอดทนรอคอย โดยกิจกรรมที่ทาง SOOK และ ครูบี บุษกร แก้วมรกต (จากสถาบันโยคะวิชาการ) ซึ่งจะมาทำหน้าที่นำความสนุกจัดเตรียมเอาไว้ให้ ก็มีหลากหลายตั้งแต่กิจกรรมเกี่ยวกับศิลปะ ดนตรี นิทาน ไปจนถึงโยคะ งานนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แต่คุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่สนใจต้องลงทะเบียนสำรองที่นั่งล่วงหน้ากันก่อนนิดนึงจ้า

FB: www.facebook.com/Sookcenter
เครดิตรูปภาพ: SOOK 

Volunteer

 

 ปรับปรุงพื้นที่ป่าเพาะกล้าไม้ในกรุง
วัน: 16 กรกฎาคม
เวลา: 9.00 – 15.30 น.
สถานที่: ซอยเพชรเกษม 3

ท่ามกลางตึกใหญ่สูงเสียดฟ้าและพื้นที่เมืองอันอัดแน่นไปด้วยคอนกรีต ยังมีพื้นที่เล็กๆ ที่ถูกทิ้งร้างอย่างเปล่าประโยชน์กระจัดกระจายซุกซ่อนอยู่ทั่วไป บ้างกลายเป็นพื้นที่ทิ้งขยะ บ้างกลายเป็นแหล่งเสื่อมโทรมโดยเปล่าประโยชน์ ทำให้มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคมเกิดไอเดียประสานงานขอพื้นที่ดังกล่าวมาสร้างประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม ด้วยการพลิกพื้นที่ร้างให้กลายเป็นสวนเล็กๆ สำหรับเพาะกล้าไม้ ไม่ว่าจะเป็นไม้ใช้สอย สมุนไพร ผัก ผลไม้ ไม้สวยงาม ภายใต้ชื่อโครงการว่า ‘สวนเกษมศานต์’ ซึ่งสวนแห่งนี้นอกจากจะมีประโยชน์ในตัวมันเองในแง่ของการปรับภูมิทัศน์และกลายเป็นแหล่งอากาศบริสุทธิ์ให้กับเมืองแล้ว ผลผลิตที่ได้ยังสามารถนำไปประกอบเป็นอาหารสำหรับผู้ยากไร้ ขณะที่กล้าไม้ก็ถูกนำไปมอบให้กับคนยากจนในชุมชนสำหรับลดค่าใช้จ่ายในการบริโภคได้อีกด้วย เพื่อการนี้ทางมูลนิธิฯ จึงเปิดรับอาสาสมัครที่สนใจอยากเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปรับปรุงพื้นที่ กับภารกิจเพาะต้นกล้า ซึ่งงานนี้อาจไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมากมาย แต่ต้องการแรงกาย แรงใจ และความอดทนเป็นหลัก ใครที่รู้ตัวว่าอยากทำกิจกรรมจิตอาสาและมีคุณสมบัติเข้าเค้าก็สามารถสมัครได้แล้ววันนี้โดยเขียนอีเมลล์ไปที่ volunteerservice@gmail.com เลย

เว็บไซต์: www.volunteerspirit.org
กล้าไม้ในกรุง