ต้อนรับเดือนกรกฎาคมด้วยการชวนออกไปเช็กอินกิจกรรมสนุก ๆ ที่เราจัดลิสต์มาเสิร์ฟให้ทั้งในเมืองกรุงและต่างจังหวัด ทั้งพิกัดตลาดกรีนเอาใจสายคราฟต์และสายออร์แกนิก ให้ได้ช้อปวัตถุดิบอินทรีย์ที่ดีต่อเรา ดีต่อโลกกันอย่างอิ่มเอมใจ หรือจะเลือกไปหย่อนจิตหย่อนใจกับโชว์เคสเจ๋ง ๆ ที่จะช่วยเพิ่มพลังและสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ก็ชี้พิกัดมาไว้แล้ว มีที่ไหนบ้าง ไปดูกัน !
ตลาดสุขภาพ ณ อุทยาน จ.นครปฐม
วันและเวลา: ทุกวันพุธและวันศุกร์ เวลา 08.00-14.00 น.
สถานที่: โครงการอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา จ.นครปฐม
รายละเอียด: www.facebook.com/chaipatpark
ทุกวันพุธและวันศุกร์ ปักหมุดไว้ได้เลยว่ามี ตลาดสุขภาพ ณ อุทยาน จังหวัดนครปฐม ยิ่งช่วงนี้ฝนกำลังดี ผลผลิตวัตถุดิบอินทรีย์และสินค้าผักผลไม้ตามฤดูกาลกำลังโบกไม้โบกมือทักทายสายลมสายฝนกันจ้าละหวั่น ยิ่งเป็นโอกาสดีที่ไม่ควรพลาดไปเดินช้อปสินค้าสุขภาพกัน เพราะที่นี่ก็น่าเดินไม่แพ้ที่อื่นนะ
ผลผลิตของตลาดนี้ เป็นฝีมือจากศิษย์โครงการอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา จังหวัดนครปฐม และร้านค้าชุมชนได้นำผลผลิตของตัวเองมาจำหน่าย ไม่ว่าจะวัสดุทางการเกษตรจากศูนย์การเรียนรู้ของโครงการ อย่างน้ำหมักมูลไส้เดือน ปุ๋ยมูลไส้เดือน ปุ๋ยใบก้ามปู ขุยมะพร้าว มะพร้าวสับ แกลบดำ ขี้วัวแห้ง หรือจะเป็นผักผลไม้ตามฤดูกาลจากสวนที่ผู้ผลิตปลูกเองไร้สารเคมี อาหารปรุงพร้อมกินทั้งของคาวของหวาน เครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ รวมถึงงานคราฟต์อีกมากมายจากผู้ผลิตโดยตรง ส่งถึงมือนักช้อปอย่างเราในราคาประหยัด แบบนี้จะพลาดได้ไงจริงไหม ?
Rice, by your side ข้าว-เรื่อง
วันและเวลา: 13-16 ก.ค. 2566 | เวลา 10.00-20.00 น.
สถานที่: Impact Exhibition Center เมืองทองธานี Hall 5 ห้อง Venus 2
รายละเอียด: www.facebook.com/wwfthailand
สำหรับใครที่อยากทำความรู้จักข้าวไทยในมิติที่หลากหลาย เราอยากชวนให้ไปเดินงาน “Rice, by your side ข้าว-เรื่อง” ซึ่งภายในงานเราจะได้จอยได้ชิมข้าวพื้นบ้านจากทุกภูมิภาค ส่งตรงจากชาวนาอินทรีย์ทั่วประเทศ ได้รู้ว่าเดือนไหนมีข้าวใหม่สายพันธุ์อะไรให้กิน จาก Rice Calendar ปฏิทินที่รวบรวมข้าวไว้กว่า 40 สายพันธุ์ และนำเสนอ ‘ข้าว-วงจร’ Flow Chart วงจรข้าวตั้งแต่หว่านจนถึงจาน ที่อาจจะทำให้การกินข้าวสนุกขึ้นกว่าเดิม
ไปจนถึงนิทรรศการว่าด้วยการเติบโตของข้าวในสังคมไทย ที่จะพาไปเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในท้องนาไทย ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมกันแบบลงลึก นอกจากนี้ในงานยังมีกิจกรรม ‘ข้าวเข้าคู่’ ชวนผู้บริโภคมาจับคู่ข้าวพื้นบ้านกับอาหารพื้นถิ่นหลากรสรสชาติ และพาไปสัมผัสวิธีกินข้าวหลากหลายวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นการกินข้าวด้วยตะเกียบแบบชาวจีน การกินข้าวช้อนสั้นที่สะท้อนความเชื่อของคนใต้ ปั้นข้าวเหนียวแบบคนอีสาน หากสนใจสามารถตรวจสอบรอบและสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ทางลิงก์นี้ได้เลย https://forms.gle/FUtQwDf22dyVodVf6
ลาน น่าน ปัน กัน
วันและเวลา: 8 ก.ค. 2566 | เวลา 16.00-20.00 น.
สถานที่: สวนศรีเมือง จ.น่าน
รายละเอียด: น่านตื่นรู้
แดดร่มลมตก ชาวกรีนคนไหนมีแพลนไปเที่ยวน่าน หรืออยู่น่านอยู่แล้ว อยากชวนไปเข้าลานกัน! ลานที่ว่าก็คือ “ลาน น่าน ปัน กัน” อีกหนึ่งกิจกรรมที่อยากให้ผู้คนในเมืองน่านได้มีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์ เป็นพื้นที่ให้ได้รู้จักการให้ด้วยการแบ่งปัน ฉะนั้นหากมีของเหลือใช้ที่ยังสภาพดีและอยากส่งต่อ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า ของเล่น หนังสือ หรือเป็นของที่ผลิตเอง อย่าง พืชผัก อาหาร ก็สามารถนำมาแลกเปลี่ยนกันได้ ไปจนถึงสามารถนำกล่องนมที่ล้างทำความสะอาดแล้ว มาส่งให้ทางลานรวบรวมไปรีไซเคิลก็ได้ด้วยนะ
แต่ไม่เพียงแค่แบ่งปันสิ่งของ ที่ลานนี้ยังเปิดโอกาสให้เรามาพบปะ มาพูดคุย ร่วมสร้างแรงบันดาลใจและแบ่งปันเรื่องราวต่างๆ เพื่อช่วยกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นต่อไป ดังนั้นมาลานนี้ไม่ต้องใช้เงิน เพราะเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยน แบ่งปัน ไม่มีการซื้อขาย แต่อย่าลืมพกถุงผ้า ตะกร้า มาใส่ของกันด้วยนะ ส่วนใครที่มาปันอาหาร ทางลานแจ้งว่าไม่ต้องเตรียมแก้ว จาน ช้อน ส้อม ที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งมา เนื่องจากทางลานมีจุดประสงค์ที่อยากชวนทุกคนมาร่วมกันสร้างขยะให้น้อยที่สุดหรือไม่มีเลยนั่นเอง
Forest Workshop : กับ-ข้าว-ป่า
วันและเวลา: 14-16 ก.ค. 2566
สถานที่: Forest Forest จ.น่าน
รายละเอียด: www.facebook.com/forestforest.nan
สายธรรมชาติตัวจริงไม่ควรพลาด “Forest Workshop : กับ-ข้าว-ป่า” กิจกรรมพาเดินป่า สำรวจแหล่งอาหารริมลำน้ำยาว ให้ได้ทำความรู้จักกับพืชผักผลไม้กินได้จากป่า และเรียนรู้การอยู่การกินตามธรรมชาติ สิ่งที่น่าสนุกคือ เราจะได้ย่ำเลอะเปรอะเปื้อนโคลนดิน ดำนาด้วยกันเป็นหมู่คณะ เพื่อสำรวจการเดินทางของข้าว ตั้งแต่ต้นทางในการปลูก วิถีชีวิตผู้ปลูก ไปจนถึงปากของผู้กิน ต่อด้วยวิชา COW 101 สนทนากับสามวัวกับผู้ช่วยปลูกผัก
และได้เดินสัมผัสธรรมชาติ ฟังเสียงแมลงประสานของป่าริมลำน้ำ มองดูความอุดมสมบูรณ์ของป่าผู้แบ่งปันพวกเรามนุษย์เสมอมา รวมถึงเรียนรู้การทำอาหารป่าท้องถิ่น เช่น น้ำพริก หมก ลาบ เป็นต้น ไม่พอเท่านั้น ยังได้เรียนรู้การก่อกองไฟจากกิ่งไม้ใบหญ้าอีกด้วย กิจกรรมแน่นสุดอะไรสุด ซึ่งหากใครสนใจกิจกรรมนี้ ให้เตรียมตัวไว้ 3 วัน 2 คืน และมีค่าใช้จ่าย 2,700 บาท ต่อคน (รวมอาหาร+ที่พัก+เดินทางเริ่มต้นจากในเมืองน่าน) แต่รับจำนวนจำกัด 9 คนเท่านั้น รู้แล้วก็ต้องรีบหน่อย
Thai BCG Materials วัสดุไทย สร้างสรรค์สู่ความยั่งยืน
วันและเวลา: ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน เป็นต้นไป
สถานที่: TCDC กรุงเทพฯ MDIC ชั้น 2
รายละเอียด: www.facebook.com/tcdc.thailand
ปิดท้ายด้วยอีกกิจกรรมที่น่าสนใจของ TCDC ที่ยกขบวนวัสดุภายใต้คอนเซ็ปต์แห่งความยั่งยืน มาเสิร์ฟให้ทุกคนได้เรียนรู้กัน และเหมาะมากกับสายกรีนที่สนใจเรื่องราวของบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม หรือผู้ประกอบการที่กำลังมองหาทางเลือกใหม่ ๆ ให้ธุรกิจของตัวเองและยังช่วยเซฟโลกไปด้วยได้ แนะนำให้แวะมาชมโลด
ภายในงานจะได้พบกับพาเหรดวัสดุจากผู้ประกอบการกว่า 50 บริษัท และชิ้นงานจัดแสดงกว่า 140 ชิ้น ให้ได้ลองสัมผัสจริง ผ่าน 4 ธีมหลัก คือ Eco & Smart ความเท่สุดสมาร์ตสีเข้ม Friendly & Chic วัสดุสีสันสวยงามสดใส Earth Tones วัสดุรักษ์โลกที่มาในเฉดสีเอิร์ธโทน และ Green & Glam วัสดุอีโคแห่งความหรูหรา เรียกว่าได้เดินชมกันแบบเพลิน ๆ ทั้งยังอาจได้รับแรงบันดาลใจใหม่ ๆ โดยเฉพาะในแง่ของความยั่งยืนที่เปิดกว้างกลับบ้านด้วยนะ