ถ้าพูดถึงชายหนุ่มสาย Zero Waste ที่กำลังมาแรงบนโลกออนไลน์ในหมู่สาวๆ และวัยรุ่นชาวยุโรปและอเมริกา คงจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ แม็กซ์ ลา มันนา (Max La Manna) หนุ่มสัญชาติอเมริกัน หน้าตาน่ารัก ขี้เล่นเป็นกันเอง ผู้ที่เรียกตัวเองว่าเป็น Vegan Zero Waste Chef ซึ่งเขาได้ก่อตั้ง Instagram ของตัวเองที่ชื่อว่า @eatingwithmax เมื่อปี 2017 และเปลี่ยนมาเป็น @maxlamanna  ในปัจจุบัน

แม็กซ์เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว ซึ่งนอกจากจะเป็นเพราะเขาเคยเป็นนักแสดงโอเปร่ามาก่อนแล้ว ยังเป็นเพราะว่าเขาเป็นคนรุ่นใหม่คนแรกๆ ที่ออกมาผลักดันเรื่องการลดขยะในชีวิตประจำวัน และการบริโภคอย่างยั่งยืนอย่างจริงจังอีกด้วย เขาเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ ด้วยวิธีที่เรียบง่ายที่ทุกคนสามารถเริ่มทำได้ โดยที่มีตัวเขาเองแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่าง

ถึงแม้ว่าแม็กซ์จะไม่ได้ผ่านการเรียนการฝึกอบรมจากสถาบันสอนทำอาหารชั้นนำ แต่เขาอยู่กับการทำอาหารมาตลอดเป็นเวลามากกว่า 15 ปีที่เขามีประสบการณ์อยู่กับครัว นั่นเป็นเพราะว่าครอบครัวของเขาเปิดร้านอาหารโดยที่พ่อของเขาเองเป็นเชฟ  และแม่ของเขาเป็นผู้ดูแลสวนที่ปลูกวัตถุดิบต่างๆ เพื่อนำมาใช้ในร้านอาหาร ประสบการณ์เหล่านี้เองที่สั่งสมมาทำให้แม็กซ์มีความรู้ความเข้าใจในที่มาที่ไปของอาหาร คุณค่าของอาหารที่ถูกผลิตและปรุงมาเพื่อให้เรารับประทาน รวมไปถึงการป้องกันไม่ให้เกิดขยะอาหารในที่สุด

ที่มาที่ไปของการเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งยิ่งใหญ่ของแม็กซ์ ซึ่งผลักดันให้เขาสร้างผลงานที่สร้างแรงบันดาลใจชักชวนทุกคนให้หันมาเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยกันนั้น เกิดจากตอนที่เขาละทิ้งอาชีพนักแสดงที่เขาใฝ่ฝันไว้ตั้งแต่เด็กเมื่อได้ค้นพบว่าตัวเองไม่ได้ชอบการแสดงอีกต่อไป ในคืนหนึ่ง แม็กซ์ได้พบกับชายคนไร้บ้านที่กำลังนั่งขอทานและอาหารภายใต้ความหนาวเหน็บของมหานครนิวยอร์ก เขาได้ให้สัญญากับชายคนนั้นว่าจะนำอาหารมาให้ ซึ่งเป็นอาหารที่เขาตั้งใจไว้ว่าจะทำไปให้ด้วยตัวเอง เมื่อแม็กซ์กลับมาถึงบ้าน เขาก็ได้พบว่าอาหารบางส่วนภายในตู้เย็นของเขากำลังจะหมดอายุและเน่าเสียไป ซึ่งอาหารเหล่านั้นเขายังไม่ทันได้นำมากินเลยด้วยซ้ำ วันนั้นเองเป็นวันที่เขาตระหนักขึ้นได้ว่าเขายังไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ และรอบคอบเพื่อรักษาโลกของเราที่มีอยู่ใบเดียวอย่างจริงจังเท่าที่ควร

“เราทุกคนควรเริ่มสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ไหนสักแห่งในแบบฉบับของตัวเอง ไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งที่เล็กหรือใหญ่ เราทุกคนต้องร่วมมือกันในสิ่งที่ตัวเองทำได้เพื่อรักษาโลกใบนี้ ที่เปรียบเสมือนบ้านของเรา”

หลังจากวันนั้นแม็กซ์ก็มีคำถามมากมายที่เขาถามตัวเองว่า เขาควรจะเริ่มต้นอย่างไรดี และเขาก็ได้ตอบตัวเองว่าเขาจะเริ่มลดขยะที่เกี่ยวข้องกับอาหารทั้งหมดเป็นอันดับแรก โดยภารกิจแรกที่เขาเริ่มเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวันของเขาเอง คือการซื้อสินค้าอาหารที่มากับบรรจุภัณฑ์น้อยลง ตามมาด้วยการบอกลาการใช้หลอดและถุงพลาสติกซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่จุดประกายให้เขาทำสิ่งอื่นๆ ต่อไป และเริ่มบันทึกเรื่องราวของตัวเองเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย จากนั้นเขาเริ่มพกถุงผ้า เริ่มซื้อวัตถุดิบอาหารครั้งจะจำนวนมากๆ เพื่อเป็นการลดการใช้ถุง (Buying Bulk) เมื่อเขาเริ่มทำจนเป็นนิสัยในระดับหนึ่งแล้ว เขาก็เริ่มหันมาจัดการครัวของตัวเองในทุกๆ ขั้นตอนของการทำอาหาร และภารกิจลดขยะในครัวของเขานี้เองที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในฐานะ Vegan Zero Waste Chef

ภายในครัวของแม็กซ์นั้นไม่มีถังขยะ ซึ่งแปลว่าไม่ว่าเขาจะมีเศษวัตถุดิบตัดแต่งหรืออาหารเหลือทิ้ง สิ่งเหล่านั้นจะไม่กลายเป็นขยะ หากแต่เขานำออกมาใส่ชามอีกใบเพื่อนำไปหมักเป็นปุ๋ยเพื่อคืนสารอาหารสู่ดินที่ผลิตอาหารให้แก่เรา

เนื้อหาต่างๆ ที่แม็กซ์พยายามจะสื่อสารบนช่องทางโซเชียลมีเดียของเขานั้น มีตั้งแต่เรื่องราวของวัตุดิบต่างๆ ว่ามีที่มาอย่างไร ไปจนถึงแชร์สูตรอาหารและวิธีการทำอาหารแบบ Vegan Zero Waste ง่ายๆ ที่ดีต่อสุขภาพและโลกด้วย

ยกตัวอย่างเช่น บอกเล่าให้ฟังว่าถั่วอัลมอนด์และอะโวคาโดเป็นพืชที่ต้องใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมหาศาลในการปลูก หากเราทานไม่ถูกฤดูกาลจะมีผลเสียอย่างไรบ้าง หรือจะเป็นเทคนิคต่างๆ ที่ใช้ทำอาหารที่เก็บไว้นานแล้วแต่ยังไม่เสีย  รวมไปถึงคำแนะนำที่สนับสนุนการใช้วัตถุดิบทุกส่วนตั้งแต่ดอก ใบ ถึงราก หรือแม้กระทั่งการปลูกผักขึ้นมาจากส่วนรากที่ตัดทิ้งไปแล้วเป็นต้น

ถึงแม้ว่าแม็กซ์จะเป็นคนอเมริกัน แต่ฐานแฟนคลับของเขาที่ใหญ่ที่สุดนั้นอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เขาจึงย้ายตัวเองไปยังกรุงลอนดอนเพื่อสานต่อการเผยแพร่ความตระหนักรู้เกี่ยวกับการบริโภคอย่างยั่งยืน โดยเน้นย้ำไปที่ปัญหาขยะอาหารและขยะพลาสติกด้วยการทำเนื้อหาบนโซเชียลมีเดียเป็นประจำ นอกจากนี้แม็กซ์ยังจัดเวิร์กช็อปและจัดงาน No Waste Supper Club หรือมื้ออาหารไร้ขยะที่เขาทำเองเพื่อพบปะผู้คนอย่างใกล้ชิดในทุกๆ เดือนอีกด้วย

อีกหนึ่งความสำเร็จของแม็กซ์เมื่อไม่นานมานี้ คือการที่หนังสือสูตรอาหาร ‘More Plants Less Waste’ ของเขาที่เพิ่งตีพิมพ์เมื่อปี 2019 ได้รับรางวัลหนังสือสูตรอาหารที่มีความยั่งยืนมากสุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก (The World’s 2nd Most Sustainable Cookbook in 2020) ซึ่งมีเนื้อหาที่อ่านง่าย และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่มีความสนใจ และกำลังหาวิธีการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างเป็นมิตรมากขึ้น

มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มอยากจะลองดูบ้างแล้วว่าในเวลาที่เรารับประทานอาหาร หรือทำอาหาร เราจะมีส่วนช่วยโลกของเราได้อย่างไร

แม็กซ์เชื่อว่าไม่ว่าใครก็ตาม ก็สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงโดยเริ่มต้นจากการลดขยะที่ครัวของตัวเองได้ด้วยการทำตามกฏเหล็กดังต่อไปนี้

1. ซื้อแต่อาหารที่จะนำมาปรุงอาหาร หรือรับประทานเท่านั้น ไม่ซื้อมาเกินจำเป็นจนเผลอลืมไว้ในตู้เย็น
2. หลีกเลี่ยงการซื้ออาหารที่มากับบรรจุภัณฑ์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
3. ลองคิดและลองถามตัวเองดูว่าอาหารที่เราซื้อมามีที่มาที่ไปอย่างไร ถูกผลิตมายังไง แล้วถ้าหากเราไม่ต้องการอาหารเหล่านั้นแล้ว พวกมันจะมีจุดจบอย่างไร
4. ไม่เหลือทิ้งอาหารอะไรเลยเพื่อไม่ให้อาหารมีจุดจบที่กองขยะฝังกลบ
5. เก็บอาหารที่เหลือไว้ในตู้เย็นแล้วรับประทานให้หมดในช่วงเวลาสั้นๆ หรือนำอาหารเหลือไปหมักเป็นปุ๋ยเพื่อมาปรุงดินในภายหลัง

เพียงทุกคนลองทำตาม 5  ข้อนี้ให้ได้ก็จะมีส่วนช่วยเหลือโลกและทรัพยากรบนโลกในนี้อย่างที่อาจจะไม่เคยคาดคิดมาก่อนได้มากแล้ว

ติดตามแม็กซ์ ลา มันนาได้ที่ www.maxlamanna.com และทางช่องยูทูบ Eating with Max

ที่มาข้อมูล

www.eco-age.com
www.maxlamanna.com
www.vogue.fr
www.hausvoneden.com

ภาพประกอบ: Paperis