อย่างที่หลายคน โดยเฉพาะคนในแวดวงร้านอาหาร รู้กันดีว่ากำไรกว่าค่อนของบาร์หรือร้านอาหารที่จำหน่ายเครื่องดื่มชนิดจริงจังนั้น มาจากเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ ทั้งเหล้าเบียร์ ไวน์ หรือค็อกเทลสีสวยในแก้วใส ก็ล้วนแต่ทำกำไรงาม

จึงเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายอยู่หลายระดับ เมื่อบาร์เทนเดอร์สักคนลุกขึ้นมาเปิดบาร์นำเสนอเครื่องดื่ม ‘ปราศจากแอลกอฮอล์’ ด้วยเหตุผลเรียบง่ายว่าตัวเขาเองไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และยังคงเชื่อมั่นอย่างเต็มหัวใจว่าเครื่องดื่มที่ดีนั้นมีปัจจัยหลากหลายมากกว่าแค่การใส่น้ำเมา

แนวคิดนี้ไม่ได้เกิดกับ คีย์-ภาคี ภู่ประดิษฐ์ บาร์เทนเดอร์วัย 28 ปีอย่างฉับพลันในวันหนึ่ง แต่เกิดจากการสั่งสมความเข้าใจในชีวิตและหลักคิดแบบพุทธศาสนาตลอดเวลาเกือบสิบปี กระทั่งตกตะกอนกลายเป็นวิธีคิดและวิถีชีวิตที่เขาเลือกทุกวันนี้ และเมื่อผสมหลักการชีวิตเข้ากับความหลงใหลในการปรุงเครื่องดื่ม บาร์สวยนาม Intangible จึงกำเนิดขึ้น

‘Intangible’ หรือสภาวะไร้ตัวตน คือทั้งชื่อและคอนเซ็ปต์ของบาร์ใจกลางเมืองเชียงใหม่ที่เรากล่าวถึงข้างต้น โดยคีย์ไล่เรียงที่มาให้เราฟังอย่างใจเย็นว่า เกิดจากการศึกษาพุทธศาสนากระทั่งเข้าใจและสนใจ ‘สภาวะว่าง’ ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นภาวะที่จิตนิ่งสงบ จดจ่ออยู่กับปัจจุบันขณะ อันเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของพุทธศาสนาก็ว่าได้ และจากกรอบคิดดังกล่าว จึงแตกยอดเป็นการคิดเมนูเครื่องดื่มให้สอดคล้องกลมกลืน ผ่านการนำเสนอเครื่องดื่มตามฤดูกาล

โดยเลือกใช้วัตถุดิบหมุนเวียนทุกๆ 3-4 เดือน เพื่อให้ได้คุณภาพของวัตถุดิบดีที่สุด และเพื่อเติมสีสันให้กับบรรดาเครื่องดื่มที่หมุนเวียนเปลี่ยนตามดินฟ้าอากาศ

“วัตถุดิบทั้งหมดที่บาร์เราใช้ส่งตรงจากแหล่งผลิตรอบๆ เมืองเชียงใหม่ จากชุมชนชาติพันธุ์บ้าง หรือจากกลุ่มเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์บ้าง เพราะนอกจากความอยากทำบาร์ที่ไม่ใช้แอลกอฮอล์ อีกเป้าหมายคือเราอยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาวัตถุดิบดีๆ ในท้องถิ่น การเลือกใช้วัตถุดิบเหล่านี้มานำเสนอก็เป็นการสื่อสารให้วัตถุดิบเหล่านี้ถูกรับรู้วงกว้างมากขึ้น และในระยะยาว เราเองก็มีแผนเข้าไปพัฒนาวัตถุดิบร่วมกับชุมชน เพราะการพัฒนามันต้องทำต่อเนื่อง ร่วมมือกันยาวๆ ซึ่งคือภาพฝันที่เราคิดเอาไว้”

บาร์เทนเดอร์หนุ่มเล่าเรื่อยๆ ระหว่างชวนให้เราทำความรู้จักกับคอร์สเครื่องดื่ม 5 แก้วที่เขาพิถีพิถันปรุงมาอย่างดี ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Present is Gift’ หมายถึงการมีสติอยู่กับปัจจุบันนั้นเปรียบเหมือนของขวัญของชีวิต อันเป็นแก่นความคิดแบบพุทธศาสนา

เครื่องดื่มที่เขาตั้งชื่อว่า ‘Fear’ เป็นตัวแทนของความหวาดกลัวเมื่อจิตใจกำลังพะวงกับอนาคตหรืออดีต โดยถ่ายทอดผ่านการอินฟิวส์ชาผู่เอ๋อเข้ากับสมุนไพรฝรั่งอย่างไทม์และเสจ เพิ่มรสด้วยน้ำผึ้งโพรงส่งตรงจากหมู่บ้านชาวปกาเกอะญอกลางป่าลึกในจังหวัดเชียงราย ก่อนตัดรสด้วยน้ำมะนาวสดปราศจากสารเคมี รสชาติของความกลัวแก้วนี้จึงทั้งลึกล้ำและหวานซ่อนขมอย่างมีเสน่ห์

ก้าวผ่านความกลัวมาสู่ความโกรธกับ ‘Anger’ แก้วที่คีย์อยากสะท้อนความโกรธของเหล่าชาวชาติพันธุ์ ที่กลายเป็นผู้ร้ายในหลายกรณี ไม่ว่าจะเรื่องไฟป่าหรือหมอกควัน บาร์เทนเดอร์จึงเลือกใช้ข้าวดอยจากชุมชนปกาเกอะญอ ผสมเข้ากับข้าวแดงจากชุมชนอาข่า มาบดคั้นจนได้น้ำข้าวรสละมุน ก่อนผสมเข้ากับนมออร์แกนิกจากอำเภอปากช่อง กระทั่งกลายเป็นรสชาติที่พาใจเราลอยไปในความกลัวอย่างไม่ทันได้รู้ตัว พิเศษกว่านั้น เพราะบาร์เทนเดอร์เลือกนำเสนอเครื่องดื่มแก้วนี้คู่กับจานเคียงแสนอร่อยอย่างสตูว์ลิ้นวัวในซอสมันม่วง เป็น ‘ข้าวสตูว์ลิ้นวัว’ ที่ผ่านการตีความด้วยความคิดสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพ

“แก้วนี้คือความเศร้า” เขาเกริ่นขณะรินเครื่องดื่มใส่แก้วตรงหน้า น้ำสีเขียวเข้มส่งกลิ่นหอมของสมุนไพรมาแตะจมูก ก่อนคีย์จะขยายความว่ามันคือ ‘น้ำใบชะมวง’ ที่ใช้ใบชะมวงเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าวจากอัมพวา จนได้รสเปรี้ยวเจือหวานสดชื่น ด้วยความตั้งใจอยากนำเสนอรสเปรี้ยวเฉดใหม่ให้กับคนดื่ม และทำให้ใบชะมวงมีเสน่ห์มากขึ้น เหนือกว่านั้นคีย์ยังเลือกเสิร์ฟน้ำใบชะมวงเคียงกับเนื้อปลาช่อนทะเลส่งตรงจามชุมชนประมงเรือเล็ก จังหวัดชุมพร ที่เผาให้ด้านนอกสุกหอมแต่ด้านใบยังฉ่ำนุ่ม เข้ากันอย่างกลมกลืน

เมื่อเดินทางมาถึง ‘Happiness’ เขาเลือกนำเสนอความสุขผ่านเครื่องดื่มสีสันสดใสกับน้ำแก้วมังกรสีแดงสกัดเย็นจนเปรี้ยวอมหวานสดชื่น เบรกอารมณ์จากความเศร้าได้ชนิดปลิดทิ้ง… เมื่อจิบแห่งความสุขหมดลง บาร์เทนเดอร์ตรงหน้าจึงดึงให้เขากลับมาสู่ ‘ปัจจุบันขณะ’ ผ่านเครื่องดื่มแก้วสุดท้าย ที่จะช่วยขมวดความหมายของเครื่องดื่มทั้ง 5 แก้ว

“แก้วสุดท้ายชื่อ Moment หมายถึงชั่วขณะปัจจุบัน เมื่อภาวะจิตเดินทางผ่านอารมณ์อันหลากหลาย สุดท้ายจึงพบว่าความสุขที่แท้จริงคือการอยู่กับชั่ววินาทีนี้เอง”

คีย์สะท้อนความสุขกับปัจจุบันผ่านชาอู่หลงรสนวล ผสมเข้ากับกลิ่นหอมของโสมและ น้ำเนคทารีนหมักธรรมชาติ ก่อนเพิ่มมิติของรสด้วยน้ำเชื่อมจากสาหร่ายคอมบุ กลายเป็นเครื่องดื่มรสกลมกล่อมที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมือนพาจิตใจให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว

เมื่อแก้วสุดท้ายจบลง เราจึงเลือกถามคำถามที่เก็บไว้ในใจตั้งแต่แก้วแรก ว่าจากนี้เขาจะพา Intangible ไปสู่จุดไหน กับการทำบาร์ปราศจากแอลกอฮอล์กลางเมืองเชียงใหม่ เมืองที่ใครต่อใครต่างนิยามว่าเป็นเมืองปราบเซียนในการทำธุรกิจร้านอาหาร

“ความตั้งใจคือเราอยากให้พื้นที่ตรงนี้ช่วยสื่อสารเรื่องราวของวัตถุดิบจากชุมชนที่เราเชื่อว่าเขามีของดีให้ออกสู่วงกว้าง ส่วนอีกภาพคือเราอยากเห็นวงการเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์พัฒนาอย่างมีคุณภาพ มีทางเลือกหลากหลายให้คนดื่ม และถ้าเราชัดเจนว่าเรากำลังตั้งใจทำอะไร มีสติอยู่กับปัจจุบัน ก็คงไม่มีอะไรต้องกลัว” เขายิ้ม

Intangible
สถานที่: ถนนไปรษณีย์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
วัน-เวลา: วันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 17:00-21:00 น.
รายละเอียด: Intangible

ภาพถ่าย: พงษ์ศิลา คำมาก, Intangible