หากจะนับความนานาชาติตามมื้ออาหารแล้ว เราคิดว่ามื้อเช้าคือเมนูที่เข้าถึงความหลากหลายได้ง่ายดายที่สุด ตัวอย่างชัดเจนคือสารพัดรูปแบบบนลิสต์เมนูอาหารเช้าตามโรงแรมต่างๆ ที่มีตัวเลือกให้ตั้งแต่ อเมริกันเบรกฟาสต์ ที่เน้นความเต็มอิ่มเซ็ตโต ประกอบด้วยไข่ดาวไข่แดงเยิ้ม เบคอนที่กริลล์จนกรอบ แฮชบราวน์ แพนเค้กฉ่ำเนย และขนมปังปิ้ง หรือจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกยอดนิยมอย่าง อิงลิชเบรกฟาสต์ ที่ในหนึ่งจานอัดแน่นไปด้วยไข่ดาวน้ำ (poached egg) หรือไข่คน เบคอน ไส้กรอกแบบอังกฤษ ถั่วอบ มะเขือเทศย่าง เห็ดผัด และแบล็กพุดดิ้ง เบาท้องลงมาหน่อยคือ คอนติเนนทัลเบรกฟาสต์ ตัวแทนอาหารเช้าจากเมดิเตอร์เรเนียนที่ประกอบไปด้วยกาแฟ ครัวซองต์ หรือเพสทรีรูปแบบต่างๆ แยม และผลไม้ และอีกตัวเลือกหนึ่งคือ เอเชี่ยนเบรกฟาสต์ ที่มักมีตัวแทนเป็นข้าวต้มเครื่อง ข้าวต้มกุ๊ย ข้าวผัด ซาลาเปา หรือติ่มซำ

แต่อีกหนึ่งตระกูลอาหารเช้าที่ดูจะยังไม่ถูกจับเข้าแก๊งอาหารเช้าตามโรงแรม แต่กลับแทรกซึมอยู่ตามคาเฟ่ หรือร้านอาหารที่เสิร์ฟ all day breakfast มาพักใหญ่ คืออาหารเช้าแบบออสเตรเลียน หรือเรียกตามภาษาสแลงแบบชาวออสซี่ว่า เบร็กกี้ (brekkie)

เบร็กกี้ต่อยอดมาจากวัฒนธรรมคาเฟ่อันเฟื่องฟูในเมลเบิร์นและซิดนีย์ หัวใจของเบร็กกี้ตามแบบฉบับออสเตรเลียคือความเรียบง่ายทั้งหน้าตาและกรรมวิธีการปรุง อิ่มท้องแต่ไม่แน่นพุง ชูความสดใหม่ของวัตถุดิบ เน้นธัญพืช ผักผลไม้ และอาหารที่ได้จากการหมัก เช่น ซาวร์โดห์หรือโยเกิร์ต ใช้วัตถุดิบที่หาได้จากท้องถิ่น และอุดมคุณค่าทางโภชนาการ ด้วยความดีเด่นที่สอดคล้องกับสมัยนิยม จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดเบร็กกี้จึงเข้ายึดครองวัฒนธรรมอาหารเช้าทั่วโลกอย่างง่ายดาย

ยิ่งไปกว่านั้น ออสเตรเลียไม่ได้เป็นเพียงต้นกำเนิดกาแฟแฟลต ไวท์ (flat white) ที่คล้ายคลึงกับลาเต้ แต่ท็อปด้วยชั้นฟองนมที่บางกว่า อีกหนึ่งอาหารเช้าต้นตำรับจากออสเตรเลียคือ Smashed Avocado Toast ก็ยังฮิตติดดาว จนลุกลามไปยังคาเฟ่แทบทุกหัวระแหง เมนูง่ายๆ แต่ประทับใจมวลชนจานนี้คิดค้นโดยบิล เกรนเจอร์ เริ่มเสิร์ฟครั้งแรกในคาเฟ่ของเขาเมื่อปี 1993 อะโวคาโดโทสต์มาพร้อมองค์ประกอบชวนน้ำลายสอ ไม่ว่าจะเป็นซาวร์โดห์โปะอะโวคาโดบดหยาบพูนๆ โรยเกลือนิด บีบมะนาวหน่อย  เพิ่มความนัวด้วยเฟต้าหรือริคอตต้าชีส และเติมความสดชื่นด้วยมะเขือเทศย่าง ความขึ้นกล้องของเมนูนี้ยังบุกไปยัง instagram และ Pinterest ยิ่งทำให้ความนิยมของอะโวคาโดโทสต์เพิ่มพูนแบบฉุดไม่อยู่

เมื่ออาหารเช้าแบบออสเตรเลียควงแขนมากับปรัชญาอาหารแบบสวีเดน

สวีเดนเป็นอีกหนึ่งปลายทางที่วัฒนธรมเบร็กกี้เดินทางมาถึง คอนเซปต์ของเบร็กกี้ดูจะสอดรับกันดีกับวัฒนธรรมการกินแบบสวีดิชที่ไม่เน้นกรรมวิธีการปรุงซับซ้อน ใช้วัตถุดิบหลักจากพืชผัก นิยมวัตถุดิบออร์แกนิกจากแหล่งที่คำนึงถึงเพื่อนร่วมโลก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และคำนึงถึงคุณประโยชน์ต่อร่างกายไปพร้อมกัน

Breakfast Society คือหนึ่งในคาเฟ่ของสวีเดนที่หยิบเอาวัฒนธรรมอาหารแบบออสเตรเลียมานำเสนอ แม้เมนูจะสลับสับเปลี่ยนกันไปตามวัตถุดิบที่หาได้ในแต่ละฤดูกาล แต่หลักๆ แล้ว เมนูของที่นี่แบ่งออกเป็น 3 ระดับความอิ่มท้อง เลเวลแรกเป็นความอิ่มไซส์เล็กที่มี Banana Bread หนึ่งในขนมอบคลาสสิกจากออสเตรเลีย ครัวซองต์ และพุดดิ้งเมล็ดเจียเป็นตัวเลือก หนักท้องขึ้นมาหน่อยคือ อะโวคาโดโทสต์ กราโนล่าโฮมเมดเสิร์ฟพร้อมโยเกิร์ตและเบอร์รี่ หรือ Smoothie Bowl ที่มี 2 เวอร์ชั่นให้เลือกคือ แบบฉบับออสเตรเลียนที่อุดมไปด้วยสีเขียวจากแอปเปิ้ลเขียว กีวี อะโวคาโด และผักโขม หรือแบบสวีดิชที่เรียงรายในชามโตด้วยเบอร์รี่ท้องถิ่นของสวีเดนอย่างราสป์เบอร์รี่  แบล็กเบอร์รี่ และซีเบอร์รี่ (Sea Berry)

เลเวลสุดท้ายคือความอิ่มแบบอัดแน่น ส่วนผสมหลักคือไข่ดาวน้ำ 2 ฟอง ลวกมาแบบเพอร์เฟกต์ พร้อมไหลเยิ้มเคลือบขนมปังซาวร์โดห์ด้านล่าง ความแตกต่างคือ Eggs Benedict จะเสิร์ฟพร้อมแฮมเซอร์ราโน ส่วน Eggs Royale จะมาคู่กับแซลมอนรมควัน—ส่วนผสมสามัญประจำบ้านตามแบบฉบับสแกนดิเนเวีย เมล็ดมัสตาร์ดดอง และหน่อไม้ฝรั่ง

นอกจากนี้ ด้วยวัฒนธรรมกาแฟของสวีเดนที่เข้มข้นไม่แพ้ของออสเตรเลีย เครื่องดื่มหลักจึงหนีไม่พ้นกาแฟดำที่เลือกความเข้มข้นและปริมาณนมได้ตามใจชอบ หรือ Coffee Lemonade กาแฟเย็นรสสดชื่นจากมะนาวเหลืองที่ฟิวชั่นความรักในกาแฟและผลไม้ของชาวสวีดิชไว้อย่างลงตัว อีกหนึ่งเครื่องดื่มที่เป็นไฮไลต์ของสาวกเบร็กกี้คือ สมูทตี้เนื้อเบาคล้ายน้ำผลไม้ สูตรเด็ดของคาเฟ่ Breakfast Society ประกอบด้วยสับปะรด ส้ม แครอท และขมิ้น ซึ่งอย่างหลังสุดกำลังเป็นส่วนผสมที่แทบขาดไม่ได้ในน้ำผักผลไม้ของชาวออสซี่ทุกวันนี้  

มื้อเช้าที่ใส่ใจโลก

Breakfast Society ใส่ใจโลกด้วยการมีพันธมิตรจาก Alvar & Ivar ร้านเบเกอรี่ท้องถิ่นที่อบขนมปังซาวร์โดห์ส่งมายังคาเฟ่ทุกสัปดาห์ จุดเด่นของเบเกอรี่ร้านนี้คือเป็นเบเกอรี่ที่อบซาวร์โดห์ขายเป็นเจ้าแรกๆ ในเมืองโกเตนเบิร์ก แป้งที่เลือกใช้แปรรูปมาจากฟาร์มท้องถิ่น และหมักซาวร์โดห์สตาร์ทเตอร์ตามธรรมชาติ ปราศจากตัวเร่งจากยีสต์

อีกหนึ่งพันธมิตรคือ Mällby Lantgård ฟาร์มไข่ไก่ออร์แกนิกของครอบครัวคาร์ลสันที่เลี้ยงดูไก่ได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้านหลังเล็กให้ไก่อยู่ เลี้ยงด้วยอาหารคุณภาพที่ประกอบด้วยหญ้า ผักชิโครี่ (Chicory) และเมล็ดยี่หร่า ปล่อยให้ไก่มีอิสระในการไปไหนมาไหนได้ทั่วฟาร์ม แถมยังรับบทสำคัญในการช่วยกำจัดวัชพืชในฟาร์มหน่อไม้ฝรั่งอีกด้วย จนเราเชื่อเหลือเกินว่า ไข่คุณภาพจากฟาร์มนี้จะมาจากไก่ที่สุขภาพใจและกายสมบูรณ์พร้อม

นอกจากนี้ ทุกเมนูของ Breakfast Society ยังปรับให้เป็นแบบกลูเตนฟรีหรือแลคโตสฟรี สมเป้าหมายของประเทศที่เน้นความเท่าเทียมและการเข้าถึงการบริการ แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ อย่างอาหารเช้า ทำให้กลุ่มคนที่แพ้วัตถุดิบบางชนิดสามารถกินข้าวนอกบ้านได้แบบไร้กังวล 

แม้ว่า Breakfast Society จะยังเป็นคาเฟ่ที่เปิดให้บริการเพียงแค่สุปสัปดาห์ และกินเวลาแค่ช่วง 8 โมงครึ่งถึงเที่ยงวัน แต่การเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่น คัดสรรส่วนผสมจากผู้ผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เน้นความเรียบง่าย ทว่า ดีต่อสุขภาพ บวกกับการออกแบบเมนูที่ได้อิทธิพลมาจากวัฒนธรรมเบร็กกี้ของออสเตรเลีย ก็มากเพียงพอแล้วที่เราอยากจะเร่งเสาร์ อาทิตย์หน้าให้มาถึงไวๆ จะได้ไม่ต้องเก็บไปฝันถึงรสชาติที่ทำเอาตาลุกวาวอีกไงล่ะ

FB: www.facebook.com/breakfastsociety

ภาพถ่าย: ณวรา หิรัญกาญจน์, Breakfast Society