เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเป็นเหมือนกัน คือไม่ว่าจะเสิร์ชสูตรอาหารทางอินเทอร์เน็ตได้ ชอบมั่วหน้าเตามากกว่าจำสัดส่วนหรือสูตรเป๊ะๆ หรือแม้กระทั่งไม่ใช่คนทำอาหารและไม่ถนัดการเข้าครัว แต่ก็ชอบการได้เปิดดูเหล่าตำราอาหาร หรือ cookbook ที่ขยันสร้างสรรค์ออกมาหลากหลายรูปแบบ หากหนังสือส่วนใหญ่จะถูกจัดอยู่ในหมวด ‘อาหารสมอง’ คุ้กบุ๊กเหล่านี้คงพ่วงหน้าที่อาหารตาที่ทำให้เราหิวอย่างสม่ำเสมอ

เกริ่นมาถึงบรรทัดนี้เพื่อจะบอกว่า เรามีคุ้กบุ๊กที่เพิ่งออกใหม่มาไม่นานมาแนะนำเป็น ‘ออเดิร์ฟตา’ บางเล่มมีขายในไทย บางเล่มสั่งเข้ามาได้ไม่ยาก เชิญชิมและชมได้ตามอัธยาศัย

SALAD for President
ไม่ใช่คุ้กบุ๊กรวมสูตรสลัดทั่วไป แต่นี่คือผลงานชิ้นใหม่ของศิลปิน นักเขียน และนักปรุงชื่อ Julia Sherman ที่ปรุงหนังสือซึ่งได้แรงบันดาลใจจากเหล่าศิลปิน สถาปนิก นักดนตรี ผู้กำกับ คนทำงานสร้างสรรค์ เธอพาไปเยี่ยมสตูดิโอหรือพื้นที่ทำงานของผู้คนมากมายตั้งแต่เกียวโตไปจนถึงเม็กซิโกซิตี้ คือต้องบอกก่อนว่าโปรเจ็กต์นี้เริ่มจากแพลตฟอร์มออนไลน์ที่จูเลียจะแวะไปเยี่ยมเหล่าศิลปินและคนทำงานสร้างสรรค์ที่บ้านหรือสตูดิโอของเขา แล้วชวนเขามาทำสลัดแล้วมาแชร์พร้อมการชวนคุย จากนั้น เธอเริ่มสานต่อโปรเจ็กต์นี้ด้วย Salad Garden ปาร์ตี้สลัดบนดาดฟ้า MOMA นิวยอร์ก และไปเปลี่ยนดาดฟ้าของ Los Angeles Getty Museum ให้กลายเป็นแปลงผักสวนครัวจริงจัง ก่อนจะนำสิ่งที่คุยและสิ่งที่ชิมตลอดการทำโปรเจ็กต์ แปรรูปให้กลายมาเป็นหนังสือเล่มนี้

และสลัดที่ปรากฎอยู่ในหนังสือเล่มนี้ มีทั้งสลัดของ Alice Waters เชฟชื่อดังผู้บุกเบิกวิถีออร์แกนิกในแคลิฟอร์เนียมาตั้งแต่ยุค 70s Tauba Auerbach ศิลปินสาวสุดเก๋ที่สร้างสรรค์งานอาร์ตที่ผสมผสานตัวเลขและทฤษฎีฟิสิกส์เข้าไป  Shinji Masuko และ Maki Toba นักดนตรีแห่งวง Boredoms ศิลปินเซรามิกอย่าง Yui Tsujimura อาร์ติสต์ แอคทิวิสต์ และเจ้าของโปรเจ็กต์ Guerrilla Gardening อย่าง  Ron Finley และคนอื่นๆ ที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยสตอรี่ที่อ่านแล้วอิ่มใจจริงๆ

www.saladforpresident.com

The Lost Kitchen: Recipes and a Good Life Found in Freedom, Maine
ก่อนจะเล่าเรื่องหนังสือมาเล่าเรื่อง The Lost Kitchen ก่อน นี่คือร้านอาหารในโรงนาเก่าที่มีธารน้ำเย็นเฉียบไหลผ่านตลอดปี มี Erin French เป็นเจ้าของร้านและผู้ปรุงเมนูตามฤดูกาลเสิร์ฟนักชิมทั่วโลกที่รอต่อคิวชิม ด้วยความโดดเด่นบนความเรียบง่ายจากวัตถุดิบธรรมชาติรอบตัว เน้นความพิถีพิถันแบบอาหารปรุงเองในบ้าน ทำให้สื่อแทบทุกสำนักต้องรีวิวร้านนี้ และกลายเป็นจุดหมายปลายทางของเมืองเล็กๆ ที่แสนเงียบสงบในสหรัฐอเมริกานี้ไปโดยปริยาย

และหนังสือเล่มนี้ คือตำรับเด็ดกว่า 100 เมนูของ Erin French ที่เชื่อมโยงกับ 4 ฤดูกาลที่มีวัตถุดิบสดใหม่มาให้เลือกชิมไม่ซ้ำกัน ประกอบกับความคิดสร้างสรรค์และความฉลาดในการเลือกใช้วัตถุดิบ หากจะอธิบายอย่างชี้ชัด ก็ต้องบอกว่าวิธีปรุงของเอรินคือการเคารพในธรรมชาติและวัตถุดิบเสมอ ไม่ใช่เทคนิคการปรุงที่ซับซ้อนสูงส่ง เมื่อประกอบกับภาพถ่ายสวยซึ้งในเล่ม และภาพอาหารชวนหิว เชื่อว่าเล่มนี้จะเป็นมากกว่าอาหารตา แต่เป็นแรงบันดาลใจที่ดีในการลุกขึ้นมาปรุงอาหารที่พิถีพิถันต่อโลกใบนี้ไปด้วย

www.findthelostkitchen.com/cookbook

 

The Vegetable Butcher
คำว่า Butcher ชวนให้คิดถึงอาชีพคนขายเนื้อหรือนักชำแหละเนื้อวัวและเนื้อหมูที่ดูแมนๆ น่าเกรงขาม แต่พอเอามาใช้กับการหั่นผัก หนังสือเล่มนี้จึงดูมีกิมมิคน่าสนใจชวนพลิกเป็นพิเศษ ซึ่งนอกจาก 150 เมนูมังสวิรัติที่เก๋ไก๋ชวนอร่อย ในเล่มยังมีกิมมิคในการหั่นผักพื้นฐานแบบต่างๆ ชนิดที่มือใหม่หัดใช้มีดทำตามได้ง่ายๆ และเข้าใจวิธีการเลือก หั่น ปรุง ไปจนถึงเก็บสต๊อกไว้ เล่มนี้จึงน่าจะทำให้เราสนุกกับการกินผักที่เคยเขี่ยทิ้งและอยากลองหั่นลองกินผักใหม่ๆ มากขึ้น

ความน่าสนใจที่นอกเหนือไปจากในเล่มก็คือ Cara Macgini เชฟสาวผู้เขียน (และผู้หั่น) คือเจ้าของโปรเจ็กต์ LittleEater ร้านอาหารมังสวิรัติแบบฟาสต์ฟู้ดสะดวกอร่อยและร้านชำที่คัดสรรอาหารดีจากฟาร์ม และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นมาขายไปพร้อมๆ กันแห่งซานฟรานซิสโก หนังสือเล่มนี้จึงเป็นอีกผลงานของคนรักผักที่อยากชวนทุกคนมาให้ความสำคัญกับแนวคิดบริโภคอย่างยั่งยืน

littleeater.com