ข้าวมีความสำคัญกับอารยธรรมมนุษย์มายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม วัฒนธรรม ความเชื่อ และวิถีชีวิต ซึ่งอาจถือได้ว่าข้าวมีมิติกว้างไกลกว่าแค่เป็นอาหารเพื่อไว้บริโภค โดยเฉพาะสังคมไทยมีความผูกพันกับเรื่องราวของข้าวอย่างมากมายหลายด้าน ด้วยข้าวนั้นเป็นอาหารหลักของคนไทยทั่วทุกภูมิภาคก็ว่าได้ วิถีชีวิตหรือความเป็นอยู่แต่เดิมจึงต้องมี ‘ข้าว’ เป็นส่วนประกอบหลักอย่างหนึ่ง
เจ้าเมล็ดธัญพืชประเภทนี้ มีความมหัศจรรย์อย่างมาก สามารถงอกงามได้ทุกที่ อาจเป็นข้าวเจ้าในลุ่มน้ำภาคกลาง ข้าวไร่แถบเชิงเขาภาคใต้ ข้าวเหนียวในที่ราบสูงอีสาน หรือข้าวดอยเมล็ดสวยแถบภูดอยภาคเหนือ ขณะที่ข้าวแต่ละชนิดยังมีสายพันธุ์ข้าวที่หลากหลายแยกย่อยออกไปอีก
เฉพาะในประเทศไทยอาจมีกว่า 20,000 สายพันธุ์เลยทีเดียว บางสายพันธุ์อาจสูญหายไปแล้ว บางสายพันธุ์ถูกพัฒนาโดยนักปรับปรุงพันธุ์ข้าวขึ้นมาใหม่ ประเทศไทยจึงเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางพันธุกรรมข้าวแห่งหนึ่งของโลก
เทศกาลข้าวใหม่ ตอน มหัศจรรย์ข้าวไทย ครั้งที่ 2 จัดขึ้นที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ในวันที่ 21-22 ธันวาคม 2562 ภายในงานได้รวบรวมเรื่องราวของข้าวไทย ผ่านเทศกาลข้าวใหม่ที่มีขึ้นในโอกาสเก็บเกี่ยวข้าวใหม่ อาจแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคในเรื่องช่วงเวลา หรืออาจแตกต่างกันในรายละเอียด แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดร่วมในแนวคิดเรื่องการจัดงานข้าวใหม่ ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ หรือผู้ที่ศึกษาเรื่องราวเหล่านี้มา ถือเป็นช่วงเวลาขอบคุณพระแม่โพสพที่ได้มอบข้าว มอบอาหาร แก่ชาวนา เป็นช่วงเวลาแห่งความปีติยินดีที่สิ้นฤดูกาลทำนาอีกคราว ทั้งยังโยงใยไปถึงขนบธรรมเนียม ความเชื่อ ประเพณีของแต่ละภูมิภาค แต่ละพื้นที่ เทศกาลข้าวใหม่จึงมีความหมายลึกซึ้งหลากหลายมิติให้ได้เรียนรู้ศึกษา
ปัจจุบัน เมื่อวิถีชีวิตของผู้คนแปรเปลี่ยนไป ‘ข้าว’ ในความหมายของระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่ อาจถูกมองเป็นเพียงสินค้าการเกษตรตัวหนึ่ง เมื่อถูกตีค่าเป็นเพียงสินค้า มนต์ขลังบางอย่างที่ยึดโยงมาแต่เดิมจึงเสื่อมคลายลง จึงไม่แปลกที่ข้าวในปัจจุบันไม่ได้ถูกผลิตขึ้นเพื่อเพียงการบริโภค แต่กลายเป็นสิ่งของไว้สำหรับซื้อขาย เรื่องราวความหลากหลายแห่งข้าวที่เคยส่งต่อกันมา จึงถึงคราวเลือนหาย ปลูกข้าวอาจไม่ต้องรอฤดูกาล ฝนฟ้า เพราะมีระบบชลประทาน ไม่ต้องพักฟื้นความอุดมสมบูรณ์แก่ผืนดินเพราะมีปุ๋ยเคมี ไม่ต้องรอตัดวงจรโรคเมลงตามธรรมชาติเพราะมีนานาสารพิษฉีดพ่น
พันธุ์ข้าวแต่เดิมที่มีความหลากหลายเริ่มสูญหายไป เพราะต้องผลิตข้าวตามความต้องการของระบบตลาดสมัยใหม่ ผลิตแต่พันธุ์ข้าวที่ได้ผลผลิตมากๆ ขายได้ราคาดี ผู้บริโภคเองก็คุ้นเคยอยู่กับข้าวบรรจุถุง ตามชั้นวางสะดวกซื้อเพียงไม่กี่สายพันธุ์เท่านั้น และส่วนใหญ่ผ่านขั้นตอนการผลิตแบบไม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และไม่ใส่ใจผู้บริโภค ผ่านการระดมใช้สารเคมีในทุกขั้นตอนการผลิต
แต่ยังมีเกษตรกรคนปลูกข้าวอีกหลายคน ที่ยังคงใช้วิธีการปลูกข้าวแบบยึดโยงไม่ตัดขาดจากธรรมชาติ ข้าวหลากหลายสายพันธุ์จึงยังคงถูกปลูก และส่งต่อเมล็ดข้าวดีๆ แก่ผู้บริโภค เทศกาลข้าวใหม่ครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการฉลองฤดูกาลข้าวใหม่ และลึกไปกว่านั้น เป็นการนัดพบกันของเกษตรกร ชาวนา คนปลูกข้าว นักพัฒนาพันธุ์ นักวิจัย และผู้บริโภค มาพบเจอเพื่อแลกเปลี่ยนเรื่องราวของข้าวในมุมต่างๆ ภายในงานสามารถสัมผัสกับข้าวกว่า 200 สายพันธุ์ จากเกษตรกรจากทั่วประเทศ พบกับพิธีบุญข้าวใหม่จากหลายพื้นที่ อย่างพิธีข้าวใหม่ของชนเผ่าชาติพันธุ์ที่มีความหลากหลาย ชมการหุงข้าวแบบเช็ดน้ำจากทุกภาคของประเทศไทย นิทรรศการเรื่องราวความหลากหลายของพันธุกรรมข้าว เห็นเมล็ดข้าวตั้งแต่ ข้าวเปลือก ข้าวสาร จนถึงข้าวสุก มีการชวนชิมรสชาติของข้าวหลากหลายสายพันธุ์ มีเวทีแลกเปลี่ยนเรื่องราวของความหลากหลาย และมิติต่างๆ ที่ซุกซ่อนอยูในข้าว เรียกได้ว่าเห็นภาพตั้งแต่เป็นเมล็ดข้าวเม็ดเล็กๆ จนถึงข้าวสุกในจานเลยทีเดียว ตลอดถึงมีเวิร์กช็อปการแปลงโฉมข้าวธรรมดาให้กลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นขนมไทย ขนมต่างประเทศ อย่างพิซซ่า ขนมปัง โดยการใช้แป้งข้าวของไทยเป็นส่วนประกอบ ผู้เข้าร่วมงานจึงได้พบกับความมหัศจรรย์ของข้าวไทยอย่างแท้จริง สมกับชื่องานเทศกาลข้าวใหม่ ตอนมหัศจรรย์ข้าวไทย
ความมหัศจรรย์ของข้าว อาจมีมากมายกว่าจะกล่าวถึงทั้งหมดภายในงานที่จัดขึ้นเพียง 2 วัน แต่เชื่อว่านี่เป็นจุดหนึ่งของการเริ่มต้นความมหัศจรรย์แห่งข้าว เพียงแต่เราทุกคนออกไปค้นหา สัมผัส พาตัวเองออกจากความคุ้นเคยแต่เดิมที่บริโภคข้าวเพียงสายพันธุ์ที่คุ้นชิน
เพราะลำพังเพียงเกษตรกรอย่างเดียว ไม่อาจรักษาความหลากหลายของพันธุกรรมข้าวไว้ได้ ผู้บริโภคต้องลุกขึ้นมาบริโภคข้าวที่หลากหลายด้วย ทั้งนี้เพื่อความยั่งยืนของข้าวไทย ความสมดุลของตัวเรา เพื่อจะนำไปสู่ความยั่งยืนและสมดุลของโลกใบนี้
ภาพถ่าย: ArmYaAtHome