“พื้นฐานของเราเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์และทำงานเกี่ยวข้องกับเรื่องสารเคมีมาโดยตลอด แต่วันหนึ่งคุณพ่อป่วยหนัก แล้วเราอยากจะดูแลท่านให้ดี เลยเริ่มศึกษาเรื่องเกี่ยวกับสมุนไพร เรื่องอาหารเป็นยา อาหารออร์แกนิก ทีนี้ประกอบกับทางครอบครัวของสามีเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับสมุนไพรไทย มีคลินิกแพทย์แผนไทยชื่อ ดิอโรคยา เราเลยไปศึกษาเพิ่มเติมอย่างจริงจังเกี่ยวกับเรื่องแพทย์แผนไทย ใช้เวลาเรียนอยู่ 3 ปี จนจบหลักสูตร ซึ่งหลายคนมองว่าเราเปลี่ยนสายงานไปเลยจากคนที่ทำงานด้านวิทยาศาสตร์มาตลอด กลายมาเป็นคนที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องสมุนไพรไทย แต่เรากลับมองว่า เราโชคดีที่เราเปิดใจมาศึกษาเรื่องเกี่ยวกับภูมิปัญญาไทย เพราะยิ่งเรียนรู้เราก็ยิ่งทึ่ง

“เวลาเราปรุงสมุนไพรแล้วใครชมว่าใช้ได้ผล เช่น ยาหม่อง เราไม่เคยคิดว่าเราเก่งเลย เพราะทุกคนที่เรียนเขาก็เรียนมาเหมือนเรา ทุกคนเก่งหมด แต่อยู่ที่ใครจะพัฒนาต่อยอดกันยังไงมากกว่า เพราะภูมิปัญญาคนไทยที่สั่งสอนกันมาเกี่ยวกับเรื่องสมุนไพรคือเรื่องที่เจ๋งมากจริงๆ แล้วยิ่งใครใช้ได้ผลดี มันก็ไม่ได้ตอกย้ำความเก่งของเรา แต่มันตอกย้ำถึงสรรพคุณของสมุนไพรไทย ทุกอย่างมันมีดีอยู่แล้ว แต่มันอยู่กับคนที่จะหยิบมาใช้มากกว่า เราไม่ค่อยได้พูดหรือแคปข้อความมาโฆษณาว่าใครชมสินค้าเราแบบไหน ยังไง เพราะเรารู้สึกประสบความสำเร็จกับการได้ลงมือทำไปแล้ว

“ดังนั้นสิ่งที่เราภูมิใจทุกวันนี้ ไม่ใช่คนชมเรา แต่เพราะภูมิปัญญาไทยได้รับการยอมรับ เราได้ช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของตัวเองและคนในครอบครัวดีขึ้น เราได้มีส่วนเผยแพร่และสานต่อให้คนได้รู้ว่า สมุนไพรไทยเป็นของดีมีอยู่ในประเทศ ทุกคนสามารถปลูกเอาเองได้โดยไม่ต้องซื้อหา ประหยัดค่าใช้จ่าย เจ็บป่วยก็ดูแลตัวเองได้ คือมันดีตั้งแต่ระดับครัวเรือน ชุมชน และระดับประเทศ ตอนนี้สิ่งที่เราพยายามทำอยู่ตลอดก็คือการใช้ส่วนผสมของธรรมชาติและปลอดสารให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะสำหรับเราโลกของออร์แกนิก คือเรื่องของการรู้ที่มาที่ไป รู้หน้ารู้ใจ ว่าส่วนผสมที่ดีมาจากไหน ใครเป็นคนปลูก”

.

#CanChangeTheWorld ซีรีส์สัมภาษณ์บุคคลที่สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมและโลกใบนี้ในแบบของตัวเอง พวกเขาไม่เพียงแต่มีความเชื่อ แต่ยังเริ่มต้นลงมือทำด้วยความไม่ย่อท้อ จนมีผลงานที่พิสูจน์ได้ว่า คนหนึ่งคนเปลี่ยนแปลงโลกอย่างที่อยากเห็นได้จริงๆ | www.greenery.org/canchangetheworld

ภาพถ่าย: สุจิตรา นาคะศิริกุล