ราวกับได้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เมื่อได้โลดแล่นไปในเรื่องราวชาวฟาร์มที่ผู้คนยังคงมีวิถีชีวิตแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยและแบ่งปันกันเสมือนพี่น้อง ชวนให้คิดทบทวนว่า ครั้งสุดท้ายที่เราไปกินขนมฝีมือแม่เพื่อน ขี่จักรยานตะลุยลงบ่อโคลนหลังฝนตก หรือรสชาติของลูกตะขบที่กินสดๆ จากต้นนั้น อร่อยเพียงใด

โลกของมดแดงกับแตงกวา (เอยด้วย!) เป็นผลงานล่าสุดของนักเขียนนักแปลชื่อดัง-งามพรรณ เวชชาชีวะ ที่คราวนี้หันมาทำงานวรรณกรรมเยาวชนเป็นครั้งแรก โดยมีแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ตรงที่สัมผัสถึงความสุขของชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติกับกลุ่มมิตรสหาย Packchong Slow life ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกหลายคน อาทิ คำหอม ศรีนอก, รสริน ติยะชาติ และคนสุดท้ายที่มีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานเล่มนี้ด้วยคือ ต้องการ-วลัยกร  สมรรถกรเพราะชีวิตมนุษย์ไม่อาจแยกจากธรรมชาติได้ งามพรรณจึงตั้งใจสื่อสารเรื่องเล่าสนุกสนานให้เด็กๆได้รู้จักโลกออร์แกนิก -สังคมที่เราสามารถสร้างขึ้นได้ด้วยสองมือ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งสารเคมีใด ๆ เลย ช่วยฉายภาพให้ผู้อ่านให้รื่นรมย์ไปกับชีวิตบ้านไร่ที่ปลูกผัก เลี้ยงไส้เดือน เลี้ยงไก่ เลี้ยงวัว ทำปุ๋ยหมักใช้เอง แถมมีเมนูอร่อยให้อิ่มท้องตลอดเวลาจากผลผลิตหลังบ้านของตัวเอง ชวนให้ผู้อ่านได้ท้องร้องด้วยความหิวเป็นระยะๆ เป็นการเปิดโลกในมุมมองใหม่ให้เห็นว่าชีวิตที่พึ่งตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบนั้นมีความสุขเพียงใด

มากไปกว่าชีวิตที่ไร้สารเคมี งามพรรณต้องการบอกกับผู้อ่านทุกคนว่าชีวิตที่ดีงามคือชีวิตที่ผู้คนเกื้อกูลกัน รัก ห่วงใย เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ทั้งยังเผื่อแผ่ความรักไปยังสรรพสิ่งรอบกายด้วย หนังสือเล่มนี้จึงเหมือนได้พาเราย้อนเวลากลับไปยังสังคมพึ่งพาแบบเดิมๆ ผู้คนรู้จักกันทั้งบ้านเหนือบ้านใต้ มีอะไรก็ปันกันกิน ชีวิตมีแต่ความอิ่มท้อง อิ่มอกอิ่มใจ มีความใกล้ชิดผูกพันที่แม้ไม่ใช่เครือญาติก็แต่ก็ฝากฝังชีวิตกันได้

ความรักเป็นปราการพื้นฐานของทุกสิ่งบนโลกใบนี้ สิ่งใดที่สร้างขึ้นจากความรักสิ่งนั้นย่อมแข็งแกร่งมิอาจพังทลาย หากเด็กๆ ได้เติบโตขึ้นมาในสังคมที่มีแต่ความรักและเอื้ออาทร ความรักในหัวใจของพวกเขาย่อมเบ่งบาน มีที่ว่างมากมายเพียงพอที่จะรักคนอื่นได้อีกเช่นเดียวกัน

นอกจากเรื่องราวที่อ่อนโยนแล้ว ภาพประกอบที่งดงามโดยฝีมือต้องการที่ใช้สีน้ำจากใบไม้ดอกไม้ ก็ยิ่งชวนให้วรรณกรรมเล่มนี้มีความละมุนในหัวใจ อีกทั้งสำนักพิมพ์ผู้ผลิตยังเลือกใช้กระดาษถนอมสายตาปลอดสารพิษ และเลือกพิมพ์ด้วยหมึกธรรมชาติอีกด้วย จนอาจเรียกได้ว่านี่เป็นวรรณกรรมเยาวชนออร์แกนิกในทุกกระบวนการจริงๆ ดังนั้น อย่าแปลกใจ หากโลกของมดแดงกับแตงกวา (เอยด้วย!) จะปลุกไฟในตัวของเราให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองอีกนิด เพื่อเขยิบชีวิตให้เข้าใกล้กับวิถีธรรมชาติอีกหน่อย เป็นความสุขง่ายๆ ที่สร้างได้ด้วยตัวเอง

แค่เรา ‘เริ่มต้น’ ทุกอย่างก็เปลี่ยนได้ และบางทีสิ่งที่เราตามหา อาจปรากฏอยู่ตรงหน้าของเรานี่เอง

โลกของมดแดงกับแตงกวา (เอยด้วย!)
สำนักพิมพ์นานมีบุ้คส์
ราคา 195 บาท

 

เครดิตภาพ: นานมีบุ้คส์ และ ต้องการ