180 ล้านตันต่อปี คือค่าประเมินปริมาณการผลิตน้ำมันพืชทั่วโลก

และกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของน้ำมันพืชนั้นถูกใช้ในแวดวงอาหาร ทั้งแวดวงอาหารอุตสาหกรรมที่ใช้น้ำมันพืชเป็นส่วนผสมสำคัญของหลายผลิตภัณฑ์ อาทิ มาการีนหรือครีมเทียม และแวดวงอาหารในครัวเรือนที่ใช้น้ำมันพืชเป็นส่วนประกอบหลักในหลายเมนู ซึ่งทำให้เกิดปัญหาน่าหวั่นใจตามมาหลายข้อ หนึ่งในนั้นคือการใช้น้ำมันพืชซ้ำเพื่อลดต้นทุนการผลิตของบรรดาร้านอาหารสตรีทฟู้ดทั้งหลาย ร้านเหล่านี้นิยมซื้อน้ำมันพืชแบบขายส่งมาใช้ปรุงของทอด ซึ่งจากสถิติโดยสำนักงานกรรมการอาหารและยา (อย.) พบว่า น้ำมันพืชขายส่งจำนวนมากเป็นน้ำมันพืชใช้แล้วที่นำมากรองจนใส เมื่อนำมาใช้ทอดซ้ำอีกครั้งจึงทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ

แค่ใช้ซ้ำก็ทำร้าย

ไม่ใช่แค่น้ำมันพืชขายส่งหรือน้ำมันพืชสีดำๆ เท่านั้นที่น่ากลัว เพราะน้ำมันพืชที่เราใช้ในครัวเรือนนั้น แม้จะใช้ทอดอาหารเพียงครั้งเดียว สียังใส ไม่ขุ่นดำ แต่ก็มากพอจะทำให้เกิดปัญหากับสุขภาพเช่นกัน เนื่องจากน้ำมันพืชจัดเป็นไขมันประเภทไตรกลีเซอไรด์ เมื่อโดนความร้อนโมเลกุลจะถูกย่อยให้สั้นลงเรื่อยๆ ระหว่างนี้เองจึงเกิดสารพิษขึ้นหลายชนิด ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ด้านอาหารเรียกรวมๆ ว่า โพลาร์ คอมเพาวด์ (Polar Compound)อันเป็นปัจจัยของทั้งโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

ทว่าแม้หลายครัวเรือนจะใช้น้ำมันพืชเพียงครั้งเดียว แต่ประเด็นน่าเป็นห่วงถัดมาก็คือ การจัดการกับน้ำมันพืชใช้แล้วที่อาจไม่ถูกสุขลักษณะสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะการเทลงท่อน้ำทิ้งที่ทำให้เกิดปัญหาท่ออุดตัน หรือการเทน้ำมันรวมกับขยะ ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมทั้งทางน้ำและดินตามมา และถึงปัจจุบันจะมีการรณรงค์ในการนำน้ำมันพืชไปเปลี่ยนเป็นน้ำมันไบโอดีเซล แต่ก็ยังอยู่ในอัตราส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับปริมาณน้ำมันพืชใช้แล้วจากครัวเรือนทั่วประเทศไทย

สบู่ซักล้างจากน้ำมันพืชใช้แล้ว

แต่นอกจากการเก็บรวมไว้ขายให้กับบริษัทรับซื้อน้ำมันพืชใช้แล้ว ในอีกทาง ยังมีวิธีการกำจัดน้ำมันพืชใช้แล้วในครัวเรือน ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายๆ อาทิ สบู่ซักล้างจากน้ำมันพืชใช้แล้ว ที่เราอยากชวนให้ทุกคนมาลงมือเปลี่ยนของเสียให้กลายเป็นของมีประโยชน์ นำมาใช้ซักล้างทำความสะอาดเสื้อผ้า รองเท้า หรือใช้ผสมน้ำเช็ดถูในครัวเรือนได้ ช่วยทั้งเราและช่วยทั้งโลกได้พร้อมกัน

ส่วนผสมสำคัญ

1.) โซเดียมไฮดรอกไซด์ (โซดาไฟ) 80 กรัม (หาซื้อได้ตามร้านเคมีภัณฑ์ทั่วไป)
2.) น้ำสะอาด 180 กรัม
3.) น้ำมันใช้แล้ว (กรองเอาตะกอนออกให้หมด) 500 กรัม
4.) น้ำมะกรูดหรือมะนาว 50 กรัม
5.) แม่พิมพ์สบู่, ไม้พาย
6.)หม้อเคลือบหรือหม้อสแตนเลส (เท่านั้น ถ้าเป็นวัสดุอื่นจะไม่สามารถทนโซดาไฟได้)

ขั้นตอนการทำ

1.) นำโซเดียมไฮดรอกไซด์ เทใสในน้ำสะอาด แล้วคนให้ละลาย (ห้ามเทน้ำใส่โซเดียมไฮดรอกไซด์เด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดปฏิกิริยาความร้อนสูง เป็นอันตรายได้) จากนั้นพักไว้จนเย็น

2.)ใช้กระชอนกรองน้ำมันใช้แล้วจนไม่เหลือตะกอน พักไว้

3.) เมื่อโซเดียมไฮดรอกไซด์เย็นแล้ว จึงเทใส่ในหม้อน้ำมันใช้แล้ว จากนั้นใช้ไม้พายคนช้าๆ จนส่วนผสมเข้ากัน และเนื้อเหนียวข้นเป็นครีม (ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที) ระหว่างนี้สามารถเติมกรดผลไม้ อาทิ น้ำมะกรูดหรือน้ำมะนาวผสมลงไป เพื่อช่วยให้ขจัดคราบได้ดีขึ้น

4.) เมื่อส่วนผสมข้นดีแล้ว เทลงแม่พิมพ์สบู่ จากนั้นทิ้งไว้ 1 คืน สบู่จะแข็งตัวเป็นก้อน

5.) ทิ้งก้อนสบู่ไว้ในที่อากาศถ่ายเทสะดวกประมาณ 1 เดือน ก่อนนำมาใช้ เพื่อให้ฤทธิ์ของโซดาไฟระเหยจนหมด จึงสามารถนำมาใช้ซักล้างทำความสะอาดเสื้อผ้า รองเท้า หรือใช้ผสมน้ำเช็ดถูในครัวเรือนได้

ภาพถ่าย: ม็อบ อรุณวตรี