ที่ผ่านมาเรามักจะรอให้ถึงวันเสาร์-อาทิตย์ แล้วกำลิสต์ยาวเหยียดไว้ในมือเพื่อไปช้อปปิ้งที่ตลาดเขียวที่อยู่ใกล้บ้างไกลบ้าง ซึ่งแต่ละที่ก็มักจะเปิดกันแค่เดือนละครั้ง เลยเป็นเรื่องปกติที่พวกเราชาวกรีนช่างเลือก ต้องทำการบ้านก่อนว่าสัปดาห์นี้มีตลาดเขียวที่ไหน มีร้านอะไรมาออกตลาดบ้าง ซึ่งมักจะมีแจ้งกันล่วงหน้าให้แฟนคลับของตลาดแพลนกันได้ว่าทั้งวีคนี้จะกินอะไรดี บางตลาดที่อยู่ไกลเดินทางไม่สะดวกจริง ๆ ก็ต้องขอเว้นวรรค แล้วใช้วิธีซื้อมาเผื่อเยอะ ๆ ตุนเข้าไว้ก่อน เพื่อรอตลาดเปิดในคราวหน้า

การมาถึงของ “ตลาดเขียวจตุจักร” ที่จะเปิดทุกวันศุกร์ อันเป็นที่มาของ “ศุกร์สุขภาพ” เลยทำให้เรายิ้มกว้างในใจตั้งแต่รู้ข่าว เพราะการเดินทางที่สะดวกง่ายดายขึ้นเพราะไปด้วย MRT ได้ ทำให้เราไม่ต้องกักตุนอาหารไว้เหมือนที่แล้วมา และจากการที่ไปเดินตลาดเขียวจตุจักรสองครั้งแล้ว เราก็พบเหตุผลน่ารัก ๆ ที่อยากมาบอกต่อ เพื่อชวนไปช้อปอาหารคุณภาพที่ดีต่อสุขภาพ และได้ดูแลโลกโดยเริ่มต้นจากจานของตัวเอง

ว่าแล้วเตรียมตะกร้าหรือคว้าถุงผ้าไปเจอกันทุกศุกร์ได้เลย

1. ได้ช้อปอาหารดีต่อสุขภาพจากผู้ผลิตโดยตรง 
เพราะอาหารดีย่อมส่งผลมาถึงสุขภาพที่ดีโดยตรง ไม่อย่างนั้นคงไม่มีคำพูดที่ว่า ‘อาหารเป็นยา’ หรอกนะ ต่อให้อาหารจานที่เรากินจะไม่ได้รักษาเยียวยาอาการเจ็บป่วยได้ทันทีทันใด แต่การได้กินอาหารที่ดีตั้งแต่แรก ก็ช่วยป้องกันให้ร่างกายมีภูมิต่อความเจ็บป่วย และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงชอบช้อปวัตถุดิบต่าง ๆ อาหารพร้อมทาน และอาหารแปรรูปที่ตลาดเขียว ที่ผู้ผลิตทุกคนต่างก็มีมีธงในใจว่าจะต้องผลิตอาหารที่ดีต่อคนกิน ปลอดภัยจากสารเคมี ซึ่งที่ตลาดเขียวจตุจักรจะมีผลผลิตจากเกษตรกรที่ปลูกด้วยแนวทางเกษตรอินทรีย์และเกษตรธรรมชาติ หรือหากเป็นอาหารพร้อมทานหรืออาหารแปรรูป ก็จะเลือกใช้แต่วัตถุดิบที่ปลอดภัยจากเครือข่ายเกษตรกรด้วยกันเป็นอันดับแรก และมีการปรุงที่คำนึงถึงหลักโภชนาการ ไม่หวานมันเค็มเกินพอดี

2. ได้จอยกิจกรรมม่วนใจ ทั้งเหรียญแลกชิมและเวิร์กช็อป 
เหรียญไม้สามเหรียญที่เราได้รับจากทีมผู้จัดตลาด จะมีมูลค่าแทนเงินสดให้เราไปแลกซื้อสินค้าในตลาดเขียวจตุจักรได้ แต่การจะได้เหรียญนี้มาเราต้องลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าก่อน แม้มูลค่าจะไม่ได้สูงแต่มันก็ทำให้เราได้เห็นถึงความในใจของตลาดที่อยากสนับสนุนคนซื้ออย่างเรา แล้วเราก็สนับสนุนพ่อค้าแม่ค้าในตลาดอีกที เห็นมั้ยว่ามีแต่วินกับวิน

นอกจากเหรียญที่เป็นเหมือนของขวัญเล็ก ๆ ที่เราได้ ทุก ๆ ศุกร์ที่ตลาดเปิดจะมีกิจกรรมและเวิร์กช็อปให้เราเข้าร่วม ไม่ว่าจะเวิร์กช็อปถ่ายรูปอาหารยังไงให้สวยปัง สำหรับคนค้าคนขายหรืออวดในไอจี หรือเป็นเวิร์กช็อปชวนปรุงที่มักจะมีเมนูน่ากินมายั่ว อย่างสลัดดอกไม้ สเต็กปลา สตูเต้าหู้เกาหลี แต่จะร่วมเวิร์กช็อปนี้ต้องลงทะเบียนก่อนเหมือนกัน แล้วจะได้สิทธิรับคูปอง Ready to Cook เพื่อรับชุดพร้อมปรุงกลับไปทำเองที่บ้านด้วย

3. ได้รู้เคล็ดลับเมนูที่เหล่านักปรุงมาแบ่งปันกัน
จริงอยู่ว่าสูตรอาหารเป็นของที่เราหาได้ง่ายในสมัยนี้ เพราะแค่เข้ากูเกิลก็เจอสูตรจากคนนั้นคนนี้เรียงเป็นตับ แต่สิ่งที่เราได้มักมีแค่ส่วนผสมกับวิธีทำ เลยไม่ค่อยจะรู้ไปถึงเคล็ดลับสักเท่าไรว่าภายใต้ความอร่อยมีอะไรที่เราต้องคำนึงถึงบ้าง การได้มาชมสาธิตการปรุงเมนูต่าง ๆ แบบสด ๆ อย่างนี้เลยตอบโจทย์เรามาก ๆ

อย่างคราวที่อาจารย์ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ มาชวนทำแกงเลียง ก็ได้เคล็ดลับติดปลายจวักมา เช่น ถ้าใช้พริกไทยคั่วจะทำให้ได้กลิ่นที่หอมกว่า หรือกุ้งแห้งที่ซื้อมามักมีโซเดียมเยอะเกินไป แต่ถ้าเราเอามาต้มน้ำร้อน 1-2 นาที ล้างแล้วผึ่ง 2 แดดหรือเข้าเตาอบ ความเค็มจะลดลงได้ 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อใส่แกงเลียงก็จะได้รสชาติที่กลมกล่อม ไม่ต้องระวังว่าแกงจะเค็มเกินโดยที่ยังหอมกุ้งแห้งด้วย หรือสลัดโรลของครูทราย ที่บอกกับเราว่าควรใช้ผักสลัดชนิดไหนถึงห่อได้สวย นี่แค่ตัวอย่างพอเป็นน้ำจิ้ม เพราะทุกเมนูที่นักปรุงมาชวนเราทำ มีเคล็ดลับซ่อนอยู่ระหว่างบรรทัดให้เราหยิบมาใช้ได้ตลอด

4. ได้อัพเดตองค์ความรู้เรื่องอาหารการกินแล้วนำมาปรับใช้
ไม่ใช่แค่เคล็ดลับการปรุงที่ได้จากนักปรุงที่รับเชิญมาในแต่ละศุกร์ เพราะองค์ความรู้ต่าง ๆ จากอาหารการกินก็มีมาแบ่งปันให้เรารู้ เช่น ในสาธิตเมนูพระรามลงสรง ของน้าโรจน์-ไพโรจน์ ปลอดสันเทียะ ก็ทำให้เรารู้ว่าเราควรกินผักตามฤดูกาล เพราะผักที่เติบโตได้ตามฤดูกาลไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมี หรือความรู้เรื่องดอกไม้กินได้ที่ครูทรายนำมาใช้ในสลัดโรลดอกไม้ ก็ทำให้เรารู้ว่าดอกไม้ประเภทไหนกินได้ เช่น พวงชมพู ดาวกระจาย หางนกยูง เฟื่องฟ้า ดอกไก่เตี้ย และมีส่วนไหนของดอกไม้ที่ควรต้องเด็ดออกไม่ควรกิน หรือเกสรดอกไม้จะช่วยเรื่องการระบาย แต่ก็ต้องไม่กินเยอะจนเกินไป จึงควรต้องเด็ดเกสรออกบ้างหากจะใช้ทำอาหาร

5. ได้เปิดโลกอาณาจักรผักพื้นบ้าน 
นอกจากผักตามฤดูกาลที่น้าโรจน์แนะนำให้เรากินเพื่อเลี่ยงสารเคมีแล้ว ผักพื้นบ้านก็เป็นอีกหนึ่งประเภทผักสุขภาพที่เติบโตได้ดีโดยไม่ต้องพึ่งสารแปลกปลอม ยกมือเลยว่าเราเป็นแฟนผักพื้นบ้านเพราะชอบใจในรสชาติ รสสัมผัสและกลิ่นที่มีความพิเศษเฉพาะตัว เห็นหน้าตาแปลกๆ มาเมื่อไรเป็นอันต้องพุ่งเข้าใส่

ที่ตลาดเขียวจตุจักรมีผักพื้นบ้านจากเกษตรกรอินทรีย์ในต่างจังหวัดอยู่หลายชนิด เราได้เจอผักหนาม ผักติ้ว หน่อกระวาน ก้านตูน ผักกูด ดอกดาหลา ฯลฯ จากร้านของกลุ่มเกษตรกรอินทรีย์สนามชัยเขต ฉะเชิงเทรา ที่อยู่คู่ตลาดเขียวมาตั้งแต่สมัยบุกเบิก หรือดอกชมจันทร์ ดอกอัญชัน จากร้านของชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญา จังหวัดสระแก้ว ซึ่งทำเกษตรธรรมชาติอยู่ในเครือข่ายมูลนิธิเอ็มโอเอไทย และแน่นอนว่าแต่ละศุกร์จะมีผักพื้นบ้านที่ออกตามฤดูกาลมาให้เราทำความรู้จักและลองชิมอีกเรื่อย ๆ

6. ได้ฟังเรื่องราวต้นทางของอาหารที่เรากินว่าดีต่อเราดีต่อโลกแค่ไหน
เสน่ห์ที่น่ารักมาก ๆ อย่างหนึ่งของตลาดเขียวทุกที่ คือการที่เกษตรกรและผู้ผลิตพร้อมที่จะเล่าเรื่องราวของการปลูกการแปรรูปให้เราฟัง เช่น ขนมปังจากยีสต์ธรรมชาติที่เจ้าของร้านเลี้ยงยีสต์เอง อร่อยแถมเนื้อขนมปังนุ่มหนึบดีเหลือใจ หรือการที่เราได้คุยกับป้าแสง เกษตรกรเอ็มโอเอที่สระแก้ว ซึ่งปลูกผักในแนวทางเกษตรธรรมชาติขายในตลาดเขียวโรงพยาบาลสระแก้ว ก็ทำให้เราได้รู้ถึงการรวมกลุ่มที่เข้มแข็งจนทำให้ชาวสระแก้วมีผลผลิตดี ๆ กินทุกวัน หรือพี่ ๆ ที่ชีวิตเปลี่ยนไปเพราะทำเกษตรอินทรีย์ ที่นอกจากเรื่องรายได้แล้ว การปลูกของพวกเขายังช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อมไม่ให้ปนเปื้อนไปด้วยสารเคมี และยังทำให้เราซึ่งอยู่ปลายทางได้มีวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพในมื้ออาหารด้วย การได้รู้เรื่องราวต้นทางของอาหารที่เรากินว่าดีต่อโลกและดีต่อผู้คนหรือสังคมแค่ไหน มันยิ่งทำให้เราให้ใจและอยากจะผูกปิ่นโตอุดหนุนกันไปอย่างนี้

7. ได้สินค้าคุณภาพดีในราคาที่เป็นธรรม และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เวลาที่เราพูดถึงวัตถุดิบหรืออาหารออร์แกนิก สิ่งที่ตามมาในการสนทนานั้นมักจะเป็นเรื่องของราคาที่แพงกว่าตลาดทั่วไป ก็ต้องยอมรับแหละว่าเป็นแบบนั้นจริง ๆ ถ้าเราซื้อของเหล่านี้ในซูเปอร์มาร์เก็ต แต่ถ้าเราซื้อโดยตรงกับเกษตรกรผู้ผลิตโดยไม่ผ่านคนกลาง เราจะได้ราคาที่เป็นมิตรกับใจมากกว่า และราคาที่เราว่านี้ก็หาได้จากตลาดเขียวอย่างตลาดเขียวจตุจักรนี่แหละ เพราะพี่ ๆ เกษตรกรจะตั้งราคาที่แฟร์กับทั้งคนซื้อและคนขาย ที่สำคัญ การได้อุดหนุนกับพี่ ๆ เหล่านี้โดยตรง ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนไปในตัว มิชชั่นนี้ มนุษย์ตัวเล็ก ๆ อย่างพวกเราทำได้!

และด้วยเหตุผลทั้ง 7 ข้อนี้ ถ้ามีข้อไหนที่ตรงใจกัน เราก็อยากจะชวนมาช้อปอาหารดี ที่ดีต่อเรา ดีต่อผู้ผลิต และดีต่อโลก กันที่ตลาดเขียวจตุจักร ประตู 1 โดมขาวหน้าธนาคารออมสิน ที่เปิดตลาดให้เราไปคุย ไปช้อป ไปชิม กันทุกวันศุกร์ ตั้งแต่ 11 โมงจนถึง 1 ทุ่ม พร้อมกับกิจกรรมและเวิร์กช็อปดี ๆ ที่เราเข้าร่วมได้

ขอบอกว่าอย่าคิดนาน เพราะตลาดเขียวจตุจักรจะมีถึงศุกร์ที่ 15 ธันวาคม 2566 นี้เท่านั้น ถ้าอยากรู้ว่าศุกร์หน้ามีร้านอะไรนำสินค้าดีๆ มาให้เราช้อปบ้าง หรือมีเวิร์กช็อปอะไรน่าสนใจให้เข้าร่วม ชี้เป้าให้ติดตามอัพเดตได้ที่เพจของตลาด หรือลงทะเบียนร่วมกิจกรรมได้ที่ เพจ: จตุจักร green market

ขอบคุณภาพถ่าย: จตุจักร green market