ไม่ใช่แค่หน้าตาสวยใสพาให้ใจสั่นเท่านั้นที่ทำให้เราจดจำชื่อของ Emma Watson ได้ขึ้นใจ สิ่งที่อยู่ข้างในต่างหากที่ทำให้เราหลงรักผู้หญิงคนนี้

เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์, นักอ่านตัวยงเจ้าของ Our Shared Shelf ชมรมที่เธอตั้งขึ้นเพื่อแนะนำหนังสือน่าอ่านให้แฟนๆ, นักสิทธิสตรีผู้ทุ่มเทเพื่อสร้างความเท่าเทียมให้กับผู้หญิง, ทูตสันถวไมตรีแห่ง UN Women – ไม่ว่าคุณจะจดจำเธอในตำแหน่งอะไร ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือสิ่งที่ทำให้หญิงสาวอายุ 26 คนนี้แตกต่างจากนักแสดงคนอื่นๆ ในวัยเดียวกัน

และในฐานะ style icon ทรงอิทธิพลคนหนึ่งที่ใครๆ ก็จับจ้อง (แหม… เธอยังเป็นดาราอยู่นี่นา) เอ็มม่าก็เลือกใช้โอกาสนี้ในการแสดงรสนิยมทางแฟชั่นของตัวเองออกมาให้โลกเห็น ไม่ใช่แค่ให้โลกรู้ว่าฉัน ‘ก็แฟชั่นอะ!’ เฉยๆ แต่ยังแสดงออกว่าเธอสนับสนุนแฟชั่นในแบบที่ไม่ต้องเบียดเบียนโลกไปพร้อมๆ กัน

เมื่อโลกของเครื่องแต่งกายกลายเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องผลิตให้ได้ครั้งละมากๆ เพื่อเรียกเงินจากกระเป๋าของเราบ่อยๆ ด้วยป้ายเซลแล้วเซลอีก เบื้องหลังของการผลิตก็ได้ทำลายธรรมชาติไปในเวลาเดียวกัน บางโรงงานในจีนที่รับจ้างผลิตเสื้อผ้าจากแบรนด์ดังปล่อยน้ำเสียจากการย้อมผ้าลงแม่น้ำ หรือในสหรัฐอเมริกา เสื้อผ้ากว่า 10.5 ล้านตันถูกทิ้งเป็นขยะที่ย่อยสลายไม่ได้ เพราะการผลิตที่มากเกินความต้องการจริงๆ ของเรา

ด้วยจำนวนแฟนๆ เกือบ 24 ล้านคนที่เข้ามาดูรูปของเธอใน @emmawatson เอ็มม่าเลือกใช้ช่องทางนี้เพื่อสื่อสารแนวคิดการเลือกเสพแฟชั่นแบบยั่งยืน (sustainable fashion) ที่เธอเชื่อ เริ่มตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา เอ็มม่าเข้าไปคุยกับ ZADY แบรนด์เสื้อผ้าจากสหรัฐฯ ที่ขึ้นชื่อเรื่องจริยธรรมและสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมกันสร้างคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าเก๋ไก๋ที่ได้แรงบันดาลใจจากตัวเธอเอง ก่อนจะใส่ไปงานต่างๆ ลงรูปในอินสตาแกรม ใส่คำบรรยายบอกว่าเธอใส่อะไรบ้าง เพื่อให้สาวๆ ที่อยากแต่งตามได้ไอเท็มที่สวยด้วย รักโลกไปด้วย ในราคาที่ใครๆ ก็ซื้อได้

ถ้าจะให้อลังมากไปกว่าชุดมินิมัล งานพรมแดงหลายๆ งาน เอ็มม่าก็ยังคงคอนเซ็ปต์อีโค่ เช่นในงาน MET Gala เมื่อปีที่แล้ว เดรสขาวดำหางยาวที่เธอใส่ก็มาจากแบรนด์ Calvin Klein และแน่นอนว่าไม่ธรรมดา เพราะส่วนหนึ่งของชุดทำมาจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ที่รีไซเคิลมาจากขวดพลาสติกเหลือใช้ แม้กระทั่งซิปก็มาจากวัสดุรีไซเคิล แถมยังแปลงร่างใส่เป็นชุดธรรมดาๆ ได้ด้วย ทำให้ไม่ต้องซื้อหลายชุดให้เปลืองเงิน เปลืองทรัพยากร

ล่าสุดกับช่วงนี้ที่ภาพยนตร์ Beauty and the Beast ใกล้จะเข้าฉาย เอ็มม่าก็เพิ่งเริ่มโปรเจ็กต์ใหม่ในชื่อ @the_press_tour ที่เธอร่วมมือกับ Eco Age องค์กรผู้เชี่ยวชาญในการสร้างแบรนด์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในการอัพเดตสไตล์ในแต่ละวันระหว่างเดินสายโปรโมตหนังใหม่ คราวนี้ไม่ใช่แค่แบรนด์เดียว เพราะเสื้อผ้าที่เธอใส่ล้วนมิกซ์แอนด์แมตช์มาจากแบรนด์อีโค่ทั้งหมด (ที่สำคัญยังสวยเหมือนเดิม) ในแคปชั่นมีรายละเอียดชื่อยี่ห้อและบรรยายความดีงามในแต่ละชุดอย่างละเอียด ให้สาวๆ ได้ตามไปเลือกซื้อได้ง่ายๆ ถ้าถูกใจ

นอกจากเป้าหมายที่เป็นเหล่าแฟชั่นนิสต้าผู้อัพเดตไอเท็มและสไตล์จากเธอ เอ็มม่ายังทำให้คนทั่วๆ ไปที่ไม่ได้เสพแฟชั่นทุกขณะจิตได้ตระหนักถึงการใส่ใจต่อโลกใบนี้แบบง่ายๆ ด้วยเสื้อผ้าที่อยู่บนตัวเราทุกวัน แค่เอาใจใส่กับการเลือกซื้อซักนิด มองหาป้ายวัตถุดิบไปพร้อมๆ กับป้ายเซลสีแดง แค่นี้ก็เป็นก้าวเล็กๆ ที่ทำให้โลกใบนี้อยู่กับเราได้นานขึ้นอีกนิดหนึ่งแล้วล่ะ

ที่มาข้อมูลtreehugger.com eco-age.com telegraph.co.uk qz.com