ข้อเท็จจริงที่ว่า อุตสาหกรรมปศุสัตว์เป็นหนึ่งในปัญหาของโลกร้อน และเป็นต้นเหตุใหญ่ที่สุดของการเกิดไฟป่าทั่วโลก กลายเป็นเหตุผลสำคัญที่หลายคนหันมาเป็นมังสวิรัติ งดกินเนื้อสัตว์เป็นการถาวร แต่ก็ต้องยอมรับว่าหลาย ๆ คน แม้จะตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่ไม่อาจหักดิบงดกินเนื้อสัตว์ได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะด้วยความคุ้นเคย ด้วยเรื่องสุขภาพ หรือด้วยความอร่อยก็ตามที

คำถามก็คือ ถ้าเรายังเป็นคนกินเนื้อ แต่ก็ยังอยากแคร์โลกด้วย มันพอจะมีทางไหนบ้างไหมที่เราจะปรับเปลี่ยนการกินให้ยั่งยืนขึ้นอีกนิด เป็นมิตรกับโลกใบนี้ได้อีกหน่อย

ไปหาคำตอบกัน

อุตสาหกรรมปศุสัตว์เร่งโลกร้อน
ก่อนจะไปถึงวิธีกินเนื้อแบบแคร์โลก เรามาทำความเข้าใจกันอีกสักรอบ ว่าทำไมการกินเนื้อสัตว์เกี่ยวอะไรกับโลกร้อน

นั่นเพราะการเลี้ยงสัตว์ในระบบปศุสัตว์ขนาดใหญ่ ต้องอาศัยพื้นที่จำนวนมากในการปลูกอาหารเพื่อเลี้ยงสัตว์ในฟาร์ม นั่นหมายความว่าเกษตรกรจำเป็นต้องถางป่าเพื่อให้มีพื้นที่มากพอ ใช้สารเคมีเพื่อเร่งการเจริญเติบโตที่ส่งผลกระทบต่อดินและระบบนิเวศ และปัญหายังรวมไปถึงการบุกรุกพื้นที่ป่าในการเลี้ยงสัตว์ ซึ่งไม่ได้ส่งผลให้ต้นไม้ในป่าจำนวนมากหายไปเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผู้คนและสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ที่ต้องใช้พื้นที่แถบนั้นในการดำรงชีวิตด้วย

สัตว์เคี้ยวเอื้องอย่างวัว ยังมีกระบวนการหมักย่อยอาหารที่กินเข้าไปผ่านการหายใจและการเรอ ซึ่งปล่อยก๊าซมีเทนปริมาณมหาศาลสู่ชั้นบรรยากาศ คิดเป็น 14.5% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก และมากพอ ๆ กับการปล่อยมลพิษจากการคมนาคมเลยทีเดียว

จนอาจพูดว่าหนึ่งในตัวแปรหลักของการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิโลกนั้น ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมปศุสัตว์เลยก็ว่าได้ ไม่ใช่แค่นั้น การบริโภคเนื้อสัตว์ปริมาณมากยังอาจส่งผลเสียต่อร่างกายของเราด้วย เพราะอย่างที่รู้กันว่าเนื้อแดงทั้งหลายนั้นมีสารก่อมะเร็งและก่อโรคอื่น ๆ แล้วไหนจะเรื่องการเลี้ยงในระบบปิดที่อาจสร้างความทรมานให้กับสัตว์น้อยใหญ่อีกด้วย

ตรวจสอบฟาร์มใส่ใจ สนับสนุนฟาร์มแบบไหน ถึงจะดีต่อเราและโลก
ขั้นตอนแรกสู่การเป็นสายกินเนื้อรักษ์โลก คือการทำความเข้าใจก่อนว่า เฉดของความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมอาหารนั้นช่างหลากหลาย ความยั่งยืนของระบบปศุสัตว์จึงแตกต่างกันไปด้วย

  • เนื้อวัว ยั่งยืนน้อย ที่ตัวใหญ่กินเยอะ มีกระบวนการการเลี้ยงที่ซับซ้อนเพราะต้องการแหล่งน้ำ แหล่งอาหารปริมาณมาก ก็ย่อมทำลายทรัพยากรมากตามไปด้วย เหตุนี้เอง เวลาพูดว่าอุตสาหกรรมอาหารกำลังสร้างปัญหา เราจึงเห็นว่าฟาร์มวัวมักจะเป็นเนื้อสัตว์ชนิดแรก ๆ ที่ถูกพูดถึง
  • เนื้อหมู ยั่งยืนอยู่ ผลกระทบวัดตามขนาดตัวอาจไม่ได้มากเมื่อเทียบกับวัว แต่ด้วยปริมาณความต้องการการบริโภคมหาศาล การใช้ทรัพยากรในการเลี้ยงหมูจึงส่งผลต่อโลกมากตามกันมา
  • เนื้อไก่ และสัตว์ทะเล ยั่งยืนกว่า ใช้ปริมาณเชื้อเพลิงฟอสซิลในการเลี้ยงและการขนส่งต่ำกว่าสัตว์ใหญ่ แต่เช่นกัน อุตสาหกรรมเหล่านี้ก็ยังเจอปัญหาการกว้านจับ หรือเลี้ยงระบบปิดแบบแออัด ที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศได้อยู่ดี

ดังนั้น เมื่อเรารู้แล้วว่าต้นตอหลัก ๆ ของการทำลายสิ่งแวดล้อมคือการผลิต นอกจากการเลือกประเภทของเนื้อสัตว์ที่สร้างผลกระทบต่อโลกน้อยกว่า อีกสิ่งหนึ่งที่เราจะให้ความสำคัญได้ คือเลือกสนับสนุนฟาร์มที่เลี้ยงสัตว์อย่างเป็นมิตร เช่น เลือกวิธีเลี้ยงปล่อย ให้สัตว์ได้กินอาหารและเติบโตเองตามธรรมชาติโดยไม่ใช้สารเคมีเร่งโต ปริมาณของสัตว์ในฟาร์มไม่แออัด หากเลี้ยงในระบบอินทรีย์ที่ให้ความสำคัญกับระบบนิเวศโดยรวมยิ่งดีใหญ่

นอกจากการเลือกประเภทของเนื้อสัตว์ที่สร้างผลกระทบต่อโลกน้อยกว่า อีกสิ่งหนึ่งที่เราจะให้ความสำคัญได้ คือเลือกสนับสนุนฟาร์มที่เลี้ยงสัตว์อย่างเป็นมิตร

หรืออาหารจำพวกสัตว์ทะเล หากเลือกซื้อจากกลุ่มประมงพื้นบ้าน ที่ไม่ใช้อวนขนาดยักษ์หรืออวนตาถี่ แต่เป็นการจับปลาน้ำตื้น หรือจับสัตว์ตามฤดูกาล งดจับลูกสัตว์ขนาดเล็กหรือสัตว์ในฤดูวางไข่ ก็จะช่วยรักษาระบบนิเวศทางทะเลได้ และยังช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงในการขนส่ง และการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นได้มหาศาลเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมประมงขนาดใหญ่

นอกจากนี้ การอุดหนุนเกษตรกรใกล้ตัว ยังถือเป็นการให้กำลังใจเกษตรกรรอบตัวที่ทำงานกันอย่างตั้งใจด้วย ฟาร์มหลายแห่งยังเปิดให้เราเข้าถึงได้โดยตรง สามารถเข้าไปพูดคุยและสั่งซื้อได้โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งจะทำให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินในชุมชน ได้ประโยชน์ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค

ปรับกันทีละนิด ให้การกินเนื้อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
เข้าใจความยั่งยืนที่แตกต่างกันไปแล้ว ในทางปฏิบัติทำอะไรได้อีกบ้าง เราลองมาดูกัน

  • เปลี่ยนจากการกินสัตว์ใหญ่มากินสัตว์เล็ก เพราะอย่างที่บอก ความยั่งยืนของสัตว์เล็กนั้นมีมากกว่าสัตว์ใหญ่ การเปลี่ยนมากินสัตว์เล็กให้มากขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า
  • ลดสัดส่วนการกินเนื้อสัตว์ในแต่ละวัน อาจเปลี่ยนมากินแบบ Flexitarian หรือการกินเนื้อบ้าง วีแกนบ้างตามความถนัด หรือจะลดปริมาณเนื้อสัตว์เมื่อทำอาหาร ด้วยการผสมเนื้อกับผักเพื่อเพิ่มปริมาณผัก ลดปริมาณเนื้อในหนึ่งมื้อ แอบกระซิบว่าในโลกออนไลน์มีแจกสูตรอาหารแบบลดเนื้อเพิ่มผักที่น่ากินมากมาย ใครสนใจอาหารแนวไหน ลองไปค้นข้อมูลดูเพิ่มเติมได้
  • สุดท้าย วิธีที่ทำได้ง่ายที่สุดก็คือการสนับสนุนฟาร์มปศุสัตว์ขนาดเล็กในไทย เราขอแบ่งปันพิกัดให้ลองไปตามเพิ่มเติม
    – เครือข่ายรักษ์ปลา-รักษ์ทะเล ร้านขายอาหารทะเลปลอดภัยจากการส่งเสริมชุมชนประมงพื้นบ้าน
    – แทนคุณ ออร์แกนิกฟาร์ม ฟาร์มไก่เนื้อและไก่ไข่ที่เลี้ยงในระบบปศุสัตว์อินทรีย์
    – ว.ทวีฟาร์ม ฟาร์มหมูอินทรีย์ที่ผลิตด้วยระบบไบโอไดนามิกที่เกื้อกูลสิ่งแวดล้อม
    – G-Pork Farm หมูหลุมดอนแร่ ฟาร์มเลี้ยงหมูอินทรีย์แบบพื้นบ้าน ที่ใส่ใจสวัสดิภาพสัตว์

ที่มาข้อมูล:
https://brightly.eco/blog/environmental-impact-of-meat
https://thestandard.co/agriculture-global-temperatures-rise
www.greenpeace.org/thailand/story/18249/food-label-7-reasons-why-meat-is-bad-for-the-environment